วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554

THE ADVENTURES OF TINTIN: THE SECRET OF THE UNICORN


THE ADVENTURES OF TINTIN: THE SECRET OF THE UNICORN /
 การผจญภัยของ ตินติน


(29/12/2011) - 80 BATH

ผู้จัดจำหน่าย : PARAMOUNT PICTURES & COLUMBIA PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : ABLIN ENTERTAINMENT, THE KENNEDY : MARSHALL COMPANY, WINGNUT FILMS & NICKELODEON MOVIES
ผู้กำกับ : สตีเว่น สปีลเบิร์ก (E.T., INDIANA JONES,  JURASSIC PARK)
ผู้อำนวยการสร้าง : ปีเตอร์ แจ็คสัน (THE LORD OF THE RING: TRILOGY, KING KONG)
ประเภทของหนัง : ANIMATION | ACTION | ADVENTURE

เรื่องย่อ THE ADVENTURES OF TINTIN: THE SECRET OF THE UNICORN
สร้างจากตัวละครที่คนทั่วทั้งโลกต่างหลงรัก ซึ่งเป็นฝีมือการสร้างสรรค์โดยแอร์เช ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการติดตามการผจญภัยของตินติน (เจมี่ เบลล์) นักข่าวหนุ่มที่อยากรู้อยากเห็น กับสุนัขคู่ใจที่แสนซื่อสัตย์ภักดีอย่าง สโนวี่ เมื่อพวกเขาค้นพบเรือต้นแบบที่เก็บความลับมหาศาลเอาไว้ ตินตินที่หลงใหลในความลึกลับเก่าแก่นานหลายศตวรรษ พบว่าเขาถูก อิวาน อิวาโนวิทช์ ซาคาไรน์ (แดเนียล เคร็ก) วายร้ายสุดโหดผู้เชื่อว่าตินตินได้ขโมยขุมทรัพย์มูลค่ามหาศาลที่เกี่ยวพันกับโจรสลัดที่ชื่อว่า เร็ด แร็คแฮม จับตามองอยู่ แต่ด้วยความช่วยเหลือจากสโนวี่ สุนัขคู่ใจของเขา, กัปตันแฮ็ดด็อกเจ้าอารมณ์ (แอนดี้ เซอร์กิส) และทีมนักสืบ ธอมป์สัน และธอมสัน (ไซม่อน เพ็กก์ และนิค ฟรอสท์) ตินตินต้องเดินทางไปกว่าครึ่งโลก และต้องเอาชนะและต้องนำหน้าเหล่าศัตรูในการไล่ล่าสุดตื่นเต้นเพื่อค้นหาตำแหน่งของเดอะ ยูนิคอร์น ซากเรือที่อาจกุมกุญแจสำคัญที่ไขไปสู่ขุมทรัพย์มหาศาล...และคำสาปโบราณ

มุมมอง
จากหนังสือการ์ตูน ของ HERGE (แอร์เช่) ที่เป็นหนังสือการ์ตูนที่ดังทั่วโลกของ แอร์เช่ สู่การเป็นภาพยนตร์ MOTION CAPTURE ที่ PETER JACKSON อำนวยการสร้าง และ กำกับโดย “พ่อมดแห่งวงการฮอลลีวูด” STEVEN SPIELBERG โดยในครั้งนี้ นักข่าวหนุ่ม ตินติน (หรือ แต๋งแต๋ง ตามภาษาฝรั่งเศษ) และ เจ้าหมาสโนวี่ จะต้องสืบค้นหาความลับของเรือยูนิคอร์น (ดังชื่อภาค THE SECRET OF THE UNICORN) ที่หายสาบสูญไปกว่า 400 ปี ร่วมกับ กัปตัน แฮดด็อก จอมขี้เมาและโวยวาย ก่อนที่จะถูก แซ็คคารินที่อาจจะขโมยสมบัติไปซะก่อน ซึ่งความลับของเรือยูนิคอร์นนั้นเกี่ยวข้องกับกัปตันแฮดด็อกกับแซ็คคาริน ...


หนังมาในแบบหนังผจญภัยทั่วไปเหมือนหนังผจญภัยทั่วไปๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่เท่าไรนักสำหรับหนังผจญภัย อาทิการเล่าเรื่องแบบ 3 องค์ ตั้งแต่ สืบค้นหาข้อมูล, ค้นหาสมบัติ, บทสรุป ของหนังที่ไม่มีอะไรชวนหักมุมหรือแปลกใหม่เท่าไร, ส่วนตัวละครในเรื่อง ก็ไม่มีอะไรมาก เพราะตัวละครในเรื่องนั้นก็มีมิติอยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้วแต่ที่ ดูน่ารักและดูจะแย่งซีนที่สุดก็คือ หมาน้อยสโนวี่นั้นเอง..

สโนวี่
การแสดงของเหล่านักแสดงในเรื่อง อาทิ ตินติน พระเอกของเรื่องที่ แสดงโดย เจมี่ เบลล์ ที่ในหนังก็อาจจะโดดเด่นอยู่ในระดับนึงแต่ก็ไม่อาจจะโดดเด่นเทียบเท่ากับ กัปตัน แฮดด็อก / เซอร์ ฟรานซิส แฮดด็อก ที่แสดงโดย แอนดี้ เซอร์คิส ได้เพราะอัจฉริยะภาพของ แอนดี้ เซอร์คิส ที่เป็นเจ้าพ่อในงานด้าน โมชั่น แคปเจอร์ อยู่แล้ว ที่งานนี้ถูกดึงเอาความสามารถด้านนี้ออกมาใช้แบบสุดๆ (ถ้านึกไม่ออกว่า แอนดี้ เซอร์คิส เป็นใครเค้าก็คือคนแสดงเป็น กอลลั่ม ใน LORD OF THE RINGS, คิงคอง ใน KING KONG หรือล่าสุดกับ ซีซาร์ ใน RISE OF THE PLANET OF THE APES), ส่วน แดเนียล เคร็ก ที่แสดงเป็น เรดเร็คแฮม / แซ็คคารีน ก็เล่นดีในระดับนึง เมื่อมาเข้าฉากร่วมกับ แอนดี้ เซอร์คิส ในเรื่อง แต่ที่ ดูน่ารักและดูจะแย่งซีนที่สุดอย่างที่บอกไปแล้วก็คือ หมาน้อยสโนวี่นั้นเอง..


ส่วนมุกตลกในหนังนั้นที่ส่วนมากแล้ว จะมาจาก กัปตัน แฮดด็อก ที่มาในแบบการปล่อยมุกแบบไม่รู้สถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร เพราะว่า เมาอยู่ตลอดเวลานั้นเอง เช่น การเผาเรือ หรือ นักสืบธอมป์สันและธอมสัน ตัวละครที่ดูไม่ค่อยจะโดดเด่นในหนังมากเท่าไร แต่มีการปล่อยมุกที่สร้างสรรค์ดีระหว่างทั้ง 2 คน

แต่สิ่งนึงที่น่ายกย่องของหนังเรื่องนี้ก็คือ การที่ "สตีเว่น สปีลเบิร์ก" เคารพงานต้นฉบับของ แอร์เช่ แบบสุดๆ แบบไม่ขาดตกบกพร่องเลย นั้นเองที่เป็นส่วนนึงที่น่ายกย่องของสำหรับตัวหนังนั้นเอง และการที่ สปีลเบิร์ก นั้น มีการจินตนาการนำเสนองานแบบสร้างสรรค์แบบสุดๆ เช่น ฉากเรือยูนิคอร์นกลางทะเลทราย ที่ต้องขอยอมรับว่า ถ้าไม่ใช่ สตีเว่น สปีลเบิร์ก แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีใครสามารถคิดสร้างสรรค์ฉากแบบนี้ได้หรือเปล่า และที่ดูจะเป็นการแสดงความเคารพ และ ยกย่อง ในตัว แอร์เช่ จะเป็นเช่นฉากเปิดเรื่องที่ ตินติน กำลังให้คนวาดรูปให้ ที่ภาพที่วาด เป็นตัวตินตินในแบบที่เป็นหนังสือการ์ตูนนั้นเอง


แต่ที่ต้องยอมรับที่สุดก็คือ ภาพในเรื่องที่ต้องขอบอกว่า อลังการงานสร้างดูยิ่งใหญ่แบบสุดๆ ดังที่บอกไปว่า ฉากเรือยูนิคอร์นกลางทะเลทราย นั้นเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเรื่องแล้วนั้นเองใน หรือจะเป็นฉากที่แย่งกันตามล่า ม้วนสมบัติในช่วงท้ายๆ ของเรื่องมีมุมกล้องที่ดูแปลกใหม่ ตัดไปมา วนไป วนมา ดูแนวๆ ดี และ ที่ต้องบอกว่าภาพในเรื่อง ถ้าหากว่าผ่านๆ อาจจะนึกว่าเป็น หนังคนแสดงจริงๆ เลยก็ว่าได้ (หนังเรื่องนี้ใช้คนแสดงแบบโมชั่นแคปเจอร์)

สรุป
งานที่เคารพต้นฉบับของ "แอร์เช่" แบบสุดๆ ของ "สตีเว่น สปีลเบิร์ก" และงานด้านภาพที่ดูยิ่งใหญ่และอลังการงานสร้างแบบสุดๆ แต่ก็ไม่ใช้ว่าหนังที่มีดีอยู่แค่นั้น หรือเป็นหนังดูแล้วจบๆ ไป แต่ตัวหนังก็มีข้อคิดแทรกเข้ามาอยู่ อาทิ การที่ กัปตัน แฮดด็อก บอกกับ ตินตินว่า "ให้คนอื่นมองเราว่าล้มเหลว แต่อย่ามองตัวเราว่าล้มเหลว" ที่ตัวหนังเองก็น่าที่จะสามารถเรียกแฟนๆ ที่เคยอ่านหรือ เคยดู การผจญภัยของ ตินติน ไปดูเวอร์ชั่น ภาพยนตร์นี้ได้อย่างแน่นอน หรือ ถ้าไม่เคยอ่านและเคยดู ก็จะสนุกไปกับตัวหนังได้อย่างแน่นอน และดูจากภาคนนี้ที่ประสบความสำเร็จในยุโรปแล้ว การผจญภัยของ ตินติน ก็น่าจะมีภาค 2 และ 3 ตามมาอย่างแน่นอน


ความยาวทั้งหมด 107 นาที
คะแนน 8/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น