NIGHT AT THE MUSEUM: SECRET OF THE TOMB / ไนท์ แอท เดอะ มิวเซียม: ความลับสุสานอัศจรรย์
ผู้จัดจำหน่าย : 20TH CENTURY FOX
สตูดิโอผู้สร้าง : 1492 PICTURES, TSG ENTERTAINMENT
ผู้กำกับ : ชอว์น เลวี่ (NIGHT AT THE MUSEUM, REAL STEEL)
ประเภทของหนัง : ADVENTURE | COMEDY | FAMILY
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
“พิพิธภัณฑ์ปิดแล้ว....?”
แฟรนไชส์ ไนท์ แอท เดอะ มิวเซียม เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่พูดตรงๆ ก็คือชอบมาก โดยเฉพาะภาคแรก (NIGHT AT THE MUSEUM) นี่ตอนได้แผ่นมา (เรื่องนี้ไม่ได้ดูในโรงหนัง) ก็ตะบี้ตะบันดูไปเกิน 20 รอบ (มากกว่านั้นด้วยซ้ำ) เรียกว่าดูกี่รอบมันก็ไม่เบื่อเพราะมันสนุกจริงอะไรจริง แต่พอได้แผ่นภาคสอง (NIGHT AT THE MUSEUM: BATTLE OF THE SMITHSONIAN) มา คือมันก็สนุกน่ะ อลังการมากกว่าภาคแรก แต่มันไม่ได้ติดตาแบบภาคแรกเท่าไรก็เลยดูไปไม่น่าเกินห้ารอบ (ตั้งแต่หนังฉายจนวันนี้) และแฟรนไชส์นี้ก็หายไปดื้อๆ ... แต่พอมีข่าวตอนต้นปี 2013 ว่า ฟ็อกซ์ อนุมัติทำภาคที่สามพร้อมจะได้ทีมนักแสดงชุดเดิมและผู้กำกับคนเดิม 'ชอว์น เลวี่' กลับมาก็ขอบอกว่าตั้งตารอคอยกันแบบสุดๆ และแล้วภาคที่สามที่ได้ชื่อทางการว่า "NIGHT AT THE MUSEUM: SECRET OF THE TOMB" ก็ออกฉายสักที...
ว่ากันตามตรงทั้งสองภาคที่ผ่านมาหนังเองก็ไม่ได้ดีเด่นอะไรเท่าไรเพราะดูภาพรวมนี่เป็นหนังที่มั่วซั่วแบบสุดๆ แต่ด้วยความสนุกของหนังเลยไม่ได้ใส่ใจมองข้ามมันไปและทำเป็นลืมไปซ่ะ แน่นอนว่าภาคที่สามนี้เนื้อหานี่เข้าขั้นมั่วและหนักกว่าทั้งสองภาคที่ผ่านมาแต่ด้วยที่ภาคนี้ยังคงเอกลักษณ์ของแฟรนไชส์ ไนท์ แอท เดอะ มิวเซียม ไว้นั่นก็คือความสนุกเราจึงไม่ได้ใส่ใจกับความมั่วขนาดหนักของภาคนี้สักเท่าไร? (อะไรอยู่ดีๆ ฮิวจ์ แจ็คแมน กับ อลิซ อีฟ โผล่มานี่ งง กันเลย) ซึ่งในส่วนของความสนุกนั้นก็ยอมรับว่าภาคนี้มันก็สนุกอยู่แต่ถ้าเทียบกับความสนุกของสองภาคแรก ถือว่าภาคที่สามนี้ความสนุกถือว่าลดน้อยลงไปพอสมควร แต่เอาน่ะอย่างน้อยหนังก็ยังบันเทิงอยู่ล่ะ
..ภาคนี้เองลดสเกลความยิ่งใหญ่ลงไปพอสมควรถ้าเทียบกับภาคที่สองแถมรู้สึกว่ามันไม่ได้ตื่นตาตื่นใจเท่าไรถ้าเทียบกับสองภาคแรก ถ้าไม่นับพวกงานสร้างที่ดีขึ้นตามสมัย เอฟเฟกต์ต่างๆ ที่พัฒนาไปตามยุคสมัย ถือว่าภาคที่สามนี้สเกลเล็กที่สุดในทุกภาค ที่แน่ๆ คือไม่ค่อยมีของใหม่มีชีวิตในพิพิธภัณฑ์สักเท่าไร ไร้ความแปลกใหม่ ให้ตื่นตาสักเท่าไร ที่พอจะจดจำได้คือ ลาร์ หุ่นขี้ผึ้งที่หน้าตาเหมือนกับ แลร์รี่ (แน่นอนว่า เบน สติลเลอร์ ก็รับบทนี้ด้วย), ฟอสซิลของไทรเซร่าท็อป, เมืองปอมเปอี, ครุฑและก็มังกรของจีน และสุดท้ายก็คือ เซอร์ แลนเซล็อต (รับบทโดย แดน สตีเว่นส์) ที่นับว่าเป็นอีกตัวขโมยซีนพอสมควรพอๆ กับ เด็กซ์เตอร์ เลยทีเดียว (จริงๆ ลาร์ นี่ก็ขโมยซีนพอสมควรน่ะจะบอกให้!)
นอกจากสเกลจะลดลงแล้วยังส่งผลให้ภาคนี้ไม่ค่อยจะมีฉากที่มันใหญ่โตมากนัก ทำให้เราจะไม่ได้เห็นฉากอะไรตื่นตาตื่นใจเหมือนที่สมิธโซเนี่ยนในภาคที่สองหรือแม้แต่ฉากแอ็คชั่นเองภาคนี้ก็ดูไม่ค่อยมีอะไรน่าจดจำเท่าไร ฉากที่สู้กับมังกรของจีนก็ดันมาอยู่กลางเรื่องซ่ะงั้น ส่วนฉากไคลแม็กซ์ก็ธรรมดาซ่ะไม่มี แต่บรรดาพวกมุกตลกยังทำได้ดีมันก็เรื่อยๆ ทำให้แม้จะไม่อะไรใหญ่โตแต่อย่างน้อยไอ้มุกตลกยังคงทำงานได้เป็นสำเร็จตลอด.....??
นอกจากนี้ในภาคนี้เราจะได้เห็นการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ของ นิค ลูกชายที่โตเป็นวัยรุ่นของ แลร์รี่ (เปลี่ยนจากนักแสดงเด็กที่รับบทจาก เจค เชอร์รี่ มาเป็น สกายเลอร์ กิซอนโด้) ด้วยทำให้ภาคนี้มีเรื่องแนว ก้าวพ้นวัย และเรื่องของสายสัมพันธ์ของพ่อกับลูกมาเกี่ยวข้องด้วย แต่ด้วยความที่เอิมม หนังมันก็มั่วในส่วนนี้เลยถูกเล่าแบบผ่านๆ ไปไม่ได้สำคัญอะไร อนึ่งฉากแดนซ์ท้ายเรื่องนี่มีมันเอกลักษณ์จริงๆ โดยเฉพาะการเอาฉากในตำนานของ เดอร์ตี้ แดนซิ่ง มาใช้นี่ยังไงก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ
มองโดยรวมอย่างน้อยนี่ก็บทอำลาของ ไนท์ แอท เดอะ มิวเซียม ได้ดีแม้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่ตามที่คาดหวังเท่าไร แต่มันก็จบได้งดงามและเรียบง่ายดี แถมนี่ยังเป็นหนังที่อำลา โรบิน วิลเลี่ยมส์ ได้แบบประทับใจจริงๆ นอกจากนี้ยังเป็นงานสุดท้ายของ มิคกี้ รูนี่ย์ อดีตผู้รับบท กัส ยามในภาคแรกด้วย นอกจากนี้ยังได้เจอ เซซิล (ดิ๊ก แวน ไดค์) และ เรจินัลด์ (บิลล์ ค็อบส์) ที่กลับมารับเชิญในภาคนี้ ก็ถือเป็นการปิดไตรภาคที่ดีสำหรับแฟรนไชส์นี้ด้วยนักแสดงที่เราผูกพันธ์กันมาตั้งแต่ภาคแรก (อย่างน้อยถ้าคิดจะทำภาคใหม่ก็คงเอาตัวละครชุดใหม่ไปเลย เพราะดูแล้วหนังก็วางตัวละครนำคนใหม่ (รีเบล วิลสัน) ไว้แล้วล่ะน่ะคุณผู้ชม...
ความยาวทั้งหมด 98 นาที
คะแนน 7/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น