WILD CARD / มือฆ่าเอโพดำ
ผู้จัดจำหน่าย : LIONSGATE
สตูดิโอผู้สร้าง : SJ HEAT PRODUCTIONS, SIERRA / AFFINITY
ผู้กำกับ : ไซม่อน เวสต์ (CON AIR, THE EXPENDABLE 2)
ประเภทของหนัง : ACTION | CRIME | DRAMA
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
พี่ไล้นซ่า เจสัน สเตแธม.. กับหนังแอ็คชั่นนำแสดงเรื่องใหม่ของแก 'WILD CARD' ที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง 'HEAT' ของ วิลเลี่ยม โกลด์แมน ที่บังเอิญเคยโดนดันแปลงเป็นหนังมาแล้วในปี 1986 ในชื่อเดียวกับนิยายที่ได้ เบิร์ต เรย์โนลดส์ แสดงนำไว้ ซึ่งทั้ง HEAT ฉบับ 1986 และ WILD CARD ฉบับ 2015 ต่างมีสิ่งที่เหมือนกันอยู่อย่างก็คือการที่หนังทั้งสองฉบับนั้นได้ วิลเลี่ยม โกลด์แมน คนแต่งนิยายมาทำหน้าที่เขียนบทให้กับทั้งสองฉบับ ซึ่งถ้ามองจริงๆ WILD CARD เองก็เป็นเพียง "แค่" หนังแอ็คชั่นอีกเรื่องที่นำแสดงโดย เจสัน สเตแธม ล่ะครับ
เจสัน สเตแธม รับบทเป็น นิค ไวลด์ ทนาย?, ยอดบอดี้การ์ดและนักพนัน? ที่ใช้ชีวิตอยู่ใน ลาส เวกัส ที่กำลังเบื่อโลกและฝันไว้ว่าอยากมีเงินสัก 5 แสนเหรียญแล้วหนีไปใช้ชีวิตแบบสบายๆ สัก 5 ปี! แต่นั่นคงเป็นแค่ความฝันเพราะทั้งเนื้อทั้งตัวเขามีแค่ 500 เหรียญ แต่วันหนึ่งเขากลับเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ๆ หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเพื่อนผู้หญิงและนั่นก็เป็นเหตุการณ์ที่จะทำให้ฝันเขากลายเป็นจริงหรืออาจจะเป็นแค่ฝันต่อไปก็ได้..... เอาจริงๆ WILD CARD มันก็เป็นหนังที่พูดได้เต็มปากเต็มคำล่ะน่ะว่า บทหนังมันเข้าขั้นธรรมด๊า ธรรมดา เดาได้ว่าบทสรุปของหนังมันจะออกมารูปแบบไหน..?
แต่ในไอ้ความธรรมดาและงั้นๆ ของบทเนี่ยล่ะทำให้เราดูหนังได้สนุกขึ้นก็ในเมื่อรู้ว่าบทหนังมันไม่ไหว เข็นไปไม่รอด เราจะสนไปทำไมกันล่ะ ว่ามั้ยล่ะ? คือบทหนังการดำเนินเรื่องมันก็เรื่อยๆ เปื่อยๆ ของมัน นั่นก็เลยทำให้เราไปเน้นที่ฉากแอ็คชั่นต่างๆ ซึ่งโอเคฉากแอ็คชั่นในหนังเรื่องนี้มีแค่สามฉากซึ่งก็ทำได้ดีและมันส์ทั้งสามฉากเสียอย่างเดียวแต่ล่ะฉากมันสั้นไปหน่อยเลยรู้สึกว่าไม่เต็มอิ่มเท่าที่ควร แต่ฉากแอ็คชั่นในหนังดันมีลูกเล่นแปลกๆ อาทิเปิดเพลงที่มันขัดกับฉากแอ็คชั่นที่อยู่ตรงหน้า
แต่ที่เป็นไฮไลท์ของหนังคือการเล่น แบล็คแจ็ค ในหนังเนี่ยล่ะ ทำไมไม่รู้แต่ดันทำออกมาได้ลุ้นและสนุกตื้นเต้นดีแท้ ก็รวมๆ WILD CARD ใครเป็นแฟน เจสัน สเตแธม ก็จัดไปอย่าพลาดส่วนใครที่ไม่ใช่แฟนพี่โล้นซ่าถ้ามีเวลาว่างก็จัดได้เลยเพราะหนังมันสั้น ดูเพลินๆ ได้ล่ะครับ...
ความยาวทั้งหมด 92 นาที
คะแนน 7.5/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น