วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555

WRECK-IT RALPH


WRECK-IT RALPH / ราล์ฟ วายร้ายหัวใจฮีโร่


ผู้จัดจำหน่าย : WALT DISNEY STUDIOS MOTION PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : WALT DISNEY ANIMATION STUDIOS
ผู้กำกับ : รีช มัวร์ (THE SIMPSON, FUTARAMA)
ประเภทของหนัง : ANIMATION | ADVENTURE | COMEDY

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“พังมันให้เละราล์ฟ ผลงานคืนฟอร์มอย่างยิ่งใหญ่ของ ดิสนี่ย์ อนิเมชั่น”


จะเป็นอย่างไร? หากต้องทำหน้าที่เดิมซ้ำไปซ้ำมาเป็นเวลาเกือบ 30 ปี และจะเป็นอย่างไร? หากหน้าที่ที่ทำไม่ได้รับคำชื่นชมมา 30 ปี และจะเป็นอย่างไร? หากวายร้ายอยากกลายเป็นตัวดี!! นี่คือเรื่องราวของ เวร็ค-อิท ราล์ฟ ผลงานลำดับที่ 52 ของ "วอล์ต ดิสนี่ย์ อนิเมชั่น สตูดิโอ" ที่มาแหวกแนวเมื่อหันมาจับเรื่องราวเกมส์ให้กลายเป็นหนังอนิเมชั่น ซึ่งหากมองผิวเผินอาจจะนึกว่านี่เป็นผลงานของ พิกซาร์ ก็เป็นได้แต่ไม่ใช่ ถึงแม้จะได้ "จอห์น แลสซีเตอร์" หัวเรือใหญ่ของพิกซาร์มาเป็นโปรดิวเซอร์พิเศษให้ก็ตาม และดูไกลเหมือนขั่วตรงข้ามของ Toy Story แต่ยังไงก็ตามดิสนี่ย์ก็คือดิสนี่ย์ ไม่ใช่ พิกซาร์ เอาล่ะเตรียมตัวเข้าสู่โลกแห่งเกมส์ที่จะพาคุณไปสัมผัสกับความมหัศจรรย์แห่งมิตรภาพและหน้าที่ จัมป์สู่ "WRECK-IT RALPH"

หากต้องบอกประโยคสั้นๆ แก่ WRECK-IT RALPH แบบรวบรัดเลยก็ต้องบอกว่า "ยอดเยี่ยมมากๆ" สำหรับอนิเมชั่นเรื่องนี้ กับเรื่องราวในโลกแห่งเกมส์หลังร้านเกมส์ปิดซึ่งอนิเมชั่นเรื่องนี้จะพาคุณกลับสู่ความเป็นเด็กอีกครั้งกลับไปสัมผัสกับความยิ่งใหญ่อลังการ, ซาบซึ้งประทับใจ, เฮฮาสนุกสนาน ดั่งครั้งแรกที่คุณเล่นเกมส์เป็นครั้งแรก Street Fighter, PacMan, Ultimate Flash Sonic หรือจะเป็นเกมส์ในร้านเกมเซนเตอร์ทั้งหลายทั้งเกมส์แข่งรถหรือเกมส์ชู๊ตติ้ง ตั้งแต่ภาพความละเอียดแค่ 8-บิต ไปจนถึงเกมส์ความละเอียดแบบ HD อนิเมชั่นเรื่องนี้พาคนดูทุกวัยกลับสู่โลกแห่งเกมส์อีกครั้งแม้จะไม่ได้สัมผัสแบบมีจอยสติ๊คบังคับ, พวงมาลัยหรือแม้แต่ปืน แต่จะสามารถสัมผัสได้ด้วยใจ ใจที่รักในสิ่งที่เรียกว่า "เกมส์"


อย่างที่บอกไปในตอนแรกว่า Wreck-It Ralph เป็นหนังอนิเมชั่นที่ยอดเยี่ยมมากๆ เอาล่ะเรามาหาเหตุผลว่าทำไมหนังถึงยอดเยี่ยมกัน, อย่างแรก การผูกเรื่องกับหนังที่มีตัวละครเยอะยิ่งเป็นหนังอนิเมชั่นที่ความยาวไม่เกิน 100 นาทีกว่าๆ และมีตัวละครที่เยอะมากการลำดับเรื่องถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะหากลำดับเรื่องไม่ดีตัวละครที่เยอะมากๆ จะแย่งซีนกันเอง แต่สำหรับ Wreck-It Ralph ไม่ได้แค่ตัวละครจะเยอะมากๆ แล้ว หนังยังมีการลำดับเรื่องที่ดีและแบ่งสรรปันส่วนแบ่งหน้าที่ของตัวละครได้ดี ไม่มีตัวใดแย่งซีนตัวอื่น ไม่ว่าจะเป็น ราล์ฟ, เฟลิกซ์, เวเนโลปี้, จ๋าคอลฮอน หรือแม้แต่ตัวละครประกอบฉากก็โดดเด่นในฉากที่เป็นของตัวเองเท่านั้นอย่างตัวละคร คิวเบิร์ด ที่เป็นตัวละครที่พูดภาษาแปลกๆ นั่นก็โดดเด่นในฉากที่ตัวเองโผล่เท่านั้น

อย่างที่สอง หนังไม่ต้องมามั่วเสียเวลากับสิ่งที่ไม่จำเป็น Wreck-It Ralph ถือว่าจัดสรรเรื่องราวได้ดีครับไม่ต้องมาเสียเวลากับสิ่งไม่จำเป็นหนังมุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว ใช่หนังมีย้อนหลังกลับไปเล่าเรื่องในอดีตอยู่บ้างแต่กลับไปเล่าก็เพื่อให้หนังเดินหน้าต่อไป ซึ่ง WIR จัดสรรทรัพยากรเวลาที่มีจำกัดให้ออกมาโดยไม่เสียเวลากับสิ่งไม่จำเป็นได้ดีทีเดียว, อย่างที่สาม ปมปัญหาตัวละคร ราล์ฟ อยากเป็นคนที่มีคนชื่นชม, เวเนโลปี้ อยากลงแข่งขัน Sugar Rush ทั้ง 2 มาบรรจบพบกันในเวลาสำคัญซึ่งปมปัญหาตัวละครอาจจะไม่ได้รุนแรงสำหรับวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่โตๆ แล้วแต่สำหรับเด็กน้อยที่ไปดูหนังนี่เป็นปัญหาระดับชาติเลยเพราะเด็กทำอะไรก็อยากให้มีคนชื่นชมและอยากจะได้นั่นได้นี่เหมือนราล์ฟและเวเลโนปี้


หนังก็สามารถพาปมปัญหาเหล่านี้ไปพบทางออกที่เคลียร์ได้ไม่มีอะไรให้ต้องค้างคา มองผิวเผิดก็เป็นแค่ปมปัญหาธรรมดา แต่มองลึกลงไปจะพบกับการกระทำที่หนังพยายามเล่ามาตลอดครับนั่นก็คือการตามหาตัวตนและหน้าที่ของคนๆ นึง การเห็นคุณค่าของตัวเอง ถึงแม้ในบทสรุปของหนังจะรวบรัดเอาทุกอย่างมาบรรจบได้แบบอลังการไปหน่อยแต่ก็ต้องบอกครับว่าหนังสามารถหาบทสรุปที่ลงตัวมากๆ, อย่างที่สี่ มุกตลก สำหรับมุกฮาๆ ทั้งหลายในหนังเรื่องนี้ทั้งหมดมาจากทุกตัวละครทั้งตัวหลักหรือตัวประกอบแต่หนังก็ถ่ายทอดมุกตลกที่ไม่ไร้สาระและไม่ได้เอาฮาเฉยๆ แต่มุกตลกที่ปล่อยออกมาต้องมีนัยยะอะไรสำคัญต่อตัวเนื้อเรื่องอยู่บ้าง อย่างเช่นฉากที่เฟลิกซ์บอกให้จ๋าตบหน้าเพื่อเรียกเถาวัลย์ลงมา ต้องบอกจริงๆ ครับว่านอกจากจะสร้างสรรค์แล้วยังทำออกมาผสมกับเนื้อเรื่องได้อย่างลงตัว หรือการล้อเลียนของกินที่ปนมากับหลักวิทยาศาสตร์ (เมนทอส + โคล่า = ระเบิด) หรือ โอรีโอ เป็นต้นแถมหากใครเป็นนักเล่นเกมส์อาร์เคดหรือคอนโซลคงจะเพลินกับมุกที่หนังใส่ลงมา

อย่างที่ห้า อย่างสุดท้าย การออกแบบฉากและออกแบบตัวละครและเพลงประกอบ อย่างที่รู้ว่าช่วงหลังดิสนี่ย์โดน ดรีมเวิร์ค รวมไปถึงบริษัทลูกอย่าง พิกซาร์ นำหน้าไปไกลมากเพราะไม่ได้เพียงแค่หนังดีเนื้อเรื่องเด่นแล้วการออกแบบตัวละครยังโดดเด่นล้ำหน้าดิสนี่ย์ที่ยังคงยึดติดกับอดีตกับการขาย มิคกี้ เมาส์, วินนี่ เดอะ พูห์ อะไรอย่างนี้ ซึ่งตัวผู้เขียนนี้เติบโตมาถึง 20 ปีได้ก็เพราะหนังของการ์ตูนของดิสนี่ย์ ที่เห็นในช่วงหลังดิสนี่ย์ย่ำแย่มากกับตลาดอนิเมชั่นมีดีหน่อยก็ Tangled ดังนั้นดิสนี่ย์คงคิดได้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะออกแบบตัวละครให้น่ารักและโดดเด่นเคียงคู่ไปกับเนื้อเรื่องได้ ผลปรากฏที่ออกมาก็คือตัวละครออริจินอลในหนังเรื่องนี้ครับ เพราะใครก็ตามที่มีโอกาศได้ชมก็คงออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า ดิสนี่ย์ สุดยอดจริงๆ


แถมการออกแบบฉากก็น่าชื่มชมเป็นอย่างมากกับการออกแบบฉากในเกม (หนัง) ให้ออกมาสีสันสวยงามโดดเด่นแม้ไม่ได้ชมในรูปแบบ 3มิติ ซึ่งความจริงคงไม่มีข้อสงสัยกับการออกแบบฉากของดิสนี่ย์เพราะขึ้นชื่อว่าดิสนี่ย์เจ้าแห่งจินตนาการคงไม่พลาดอยู่แล้ว นอกจากนี้การคัดเลือกเพลงประกอบก็ให้อารมณ์เกมส์ในยุค 80-90 ของนินเทนโดมาก แต่หนังก็ยังไม่พลาดที่จะมีเพลงที่เข้ากับยุคสมัย, หากตัวหนังดีมากๆ จะไม่ชื่นชมก็กระไรอยู่สำหรับตำแหน่งเบื้องหลังต่างไล่ตั้งแต่คนเขียนบทซึ่งก็คือ ฟีล จอห์นสตัน และ เจนนิเฟอร์ ลี ที่เขียนบทออกมาได้อย่างลื่นไหล และหากได้บทดีคนที่จะบังคับคันโยกและกดปุ่มบังคับก็คือ รีช มัวร์ ผู้กำกับของหนังที่สามารถกำกับหนังออกมาได้อย่างงดงามและยิ่งใหญ่

อย่างสุดท้ายที่สำคัญมากๆ แต่ไม่ได้เป็นข้อสำคัญห้าข้อ ก็คือ ทีมพากย์เนื่องด้วยผู้เขียนในตอนแรกตั้งใจจะดูแบบ 3มิติแต่ด้วยสาเหตุที่หนังมีฉายแค่ 1 โรงและเป็นระบบเดียวที่พารากอนและคนต่อคิวซื้อตั๋วหนังยาวมากกับอีก 5 นาทีหนังจะฉาย ผู้เขียนจึงรอไม่ไหวจึงไปดู Jack Reacher ที่สกาล่าก่อนและเปลี่ยนใจมาดู Wreck-It Ralph ที่โรงหนังเซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ฯ ผลปรากฏที่ได้ก็คือได้ดู WIR ในระบบเสียงไทยไม่ 3มิติ (ซึ่งใจเดิมก็อยากดูเสียงไทยอยู่แล้ว) ซึ่งเสียงพากย์ไทยไม่ได้เอาดารามาพากย์แต่ใช้ทีมพากย์ไทยมืออาชีพผลปรากฏที่ได้นี่เป็นหนังอนิเมชั่นพากย์ไทยที่พากย์ได้ดีมากๆ ซึ่งผู้เขียนจำเสียงได้ผู้พากย์ราล์ฟได้แต่จำชื่อไม่ได้ (พากย์แลมโบ้ในอนิเมรีบอร์น) ที่พากย์ได้ดีแต่ที่พากย์ได้ดีและน่าจดจำเป็นที่สุดคงไม่พ้นผู้พากย์เพเนโลปี้ที่พากย์ได้ดี 100/10 เลยทีเดียว ซึ่งงานนี้พากย์ไทยไว้ใจได้ครับ, นอกจากนี้หนังสั้น Paperman ที่แปะหน้าหนังต้องชื่นชมมากๆ ที่ทำออกมาได้น่ารักมากครับ

สรุป
“WRECK-IT RALPH เป็นอนิเมชั่นเปิดสู่เส้นทางใหม่ของดิสนี่ย์ที่ทำออกมาได้อย่างเข้าขั้นเพอรเฟกต์ มีความแปลกใหม่ ที่ทั้งสนุกแบบสร้างสรรค์ ฮาแบบมีสาระและมีข้อคิดที่ดีมากๆ ซาบซึ้งกับบทสรุปแถมบทหนังก็ลื่นไหล ภาพสวย และหากไม่ผิดนักกับการคู่ควรกับการเป็นอนิเมชั่นที่ดีเป็นอันดับ 1 แห่งปี 2012 ครับ”


ความยาวทั้งหมด 108 นาที
คะแนน 10/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น