วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

SPECTRE


SPECTRE / องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย

ผู้จัดจำหน่าย : SONY PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : METRO-GOLDWYN-MAYER (MGM), EON PRODUCTIONS 
ผู้กำกับ : แซม เมนเดส (AMERICAN BEAUTY, SKYFALL)
ประเภทของหนัง : ACTION | ADVENTURE | THRILLER

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวและบทสรุปหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอัธรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“จากจุดจบของ สกายฟอลล์ ! สู่การกำเนิดใหม่ขององค์กรลับ สเปคเตอร์!!”


ถ้าพูดถึงหนังบอนด์ที่ดีที่สุดในรุ่นในยุคของ เจมส์ บอนด์ คนที่หกอย่าง แดเนี่ยล เคร็ก นั้นคงต้องยกให้กับทางด้านของหนังบอนด์ตอนที่ 21 นั่นคือ CASINO ROYALE กับบอนด์ตอนที่ 23 อย่าง SKYFALL ซึ่งหนังบอนด์ทั้งสองตอนเองก็อาจจะไม่ได้แค่เป็นตอนที่ดีที่สุดในยุค แดเนี่ยล เคร็ก เท่านั้นเผลอๆ อาจจะติดท็อปไฟฟ์หนังบอนด์ที่ดีที่สุดด้วย และนั่นคงเป็นการยากเป็นเท่าตัวที่หนังบอนด์ตอนที่ 24 ‘SPECTRE’ จะทำให้ดีได้เท่า ถึงแม้จะได้ทีมงานชุดเดิมบอนด์ตอนที่แล้วกลับมาทำก็ตามทีทั้งผู้กำกับ แซม เมนเดส และทีมมือเขียนบททีมเดิมทั้ง จอห์น โลแกน, นีล เพอร์วิส และ โรเบิร์ต เวด รวมถึงหน้าใหม่อย่าง เจซ บัตเตอร์เวิร์ธ มาปรุงแต่งก็ตามที

อะไรหลายๆ อย่างหลังจบ SKYFALL ก็เริ่มเข้ารูปเข้ารอยไปคล้าย DR. NO มากทุกที ทำให้ประเด็นใหญ่ๆ ของ SPECTRE คือเรื่องอย่างองค์กรลับสเปคเตอร์อย่างไม่ต้องสงสัยครับ ก็อย่างที่เรารู้กันว่า องค์กร ‘สเปคเตอร์’ คือหนึ่งในองค์กรวายร้ายระดับตำนานในหนังบอนด์ สเปคเตอร์ เป็นศัตรูคู่อาฆาตของ เจมส์ บอนด์ มาอย่างช้านาน โผล่หัวมาตั้งแต่บอนด์ยุคแรกของ ฌอน คอนเนอรี่ นู่นเลย ก่อนที่จะหายสาบสูญไปในเวลาต่อมา ถ้าพูดถึง สเปคเตอร์ สิ่งที่หลายคนจดจำ สเปคเตอร์ ได้นอกจากสัญลักษณ์ปลาหมึกแล้ว คงไม่พ้นทางด้านของหัวหน้าขององค์กรนามว่า เอิร์นส์ สตาโฟร โบลเฟลด์ ชายหัวล้านผู้มีรอยแผลเป็นที่ขวา ที่ (มัก) มาพร้อมกับแมวเปอร์เซียสีขาว นี่คือภาพจำของ องค์กรสเปคเตอร์ ก็ว่าได้


ก็อย่างที่บอกไปว่ามันเป็นประเด็นใหญ่ของเรื่องไอ้องค์กรสเปคเตอร์เนี่ยเพื่อให้เข้าหนังเข้ากับยุคสมัยของ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน หรือ จูเลี่ยน แอสซาน์จ ก็เลยมีการเปลี่ยนแปลงองค์กรนี้ให้เป็นองค์กรลับที่คอยควบคุมแล้วก็เหตุจราจลต่างๆ นาๆ คอยอยู่ใต้เงาคอยชักเงาองค์กรร้ายต่างๆ และมีส่วนรู้เห็นกับองค์กรที่พยายามจะยุบ MI6 ยุติบทบาทสายลับรหัส ดับเบิลโอ ทั้งหลาย แต่กลายเป็นว่าหนังกลับเล่าเรื่องพวกนี้ได้จืดชืดมากๆ พยายามชักแม่น้ำทั้งห้าว่าไอ้องค์กรลับที่โผล่ในยุค แดเนี่ยล เคร็ก ทั้งหมดทั้ง ควอนตั้ม ของ มิสเตอร์ไวท์ และ กลุ่มก่อการร้ายของ ซิลวา นี่อยู่ภายใต้การชักใยของ สเปคเตอร์ แต่ก็น่ะหนังกลับเล่าเรื่องได้ธรรมดามากๆ เหลือเกิน

ปัญหาและข้อเสียของหนังก็คือทางด้านของการเล่าเรื่องครับ ตลอดการชมรู้สึกเลยว่า แซม เมนเดส แอนด์ โค. เล่าเรื่องได้ไม่เด็ดขาดและเฉียบคมเท่ากับทางด้านของ SKYFALL สำคัญเลยคือการที่หนังเล่าเรื่องตรงนั้นทีข้ามไปตรงนี้ทีแล้วก็กลับไปเล่าตรงนู้นที กว่าหนังจะเดินหน้าและผ่านไปแต่ละจุดได้ กว่าหนังจะลากสังขารตัวเองไปถึงองค์กรสเปคเตอร์ได้ รู้สึกว่าช้ามาก ทั้งทีมีเวลาเล่าตั้ง สองชั่วโมงครึ่ง แต่กว่าจะไปถึงได้ เปรียบเทียบกับหนังสายลับอีกเรื่องของปีที่มีประเด็นเรื่องสู้กับองค์กรลับเหมือนกัน MISSION: IMPOSSIBLE - ROGUE NATION เรื่องนั้นก็เล่าก็ใช้เวลาเหมือนกันกว่าจะไปถึงองค์กรซินดิเคท แต่ทำไมรู้สึกว่าหนังเดินเรื่องฉับไวเหลือเกินก็ไม่รู้!??


อีกจุดที่รู้สึกเสียดายครับคือการที่หนังใช้ประโยชน์ของตัวละครได้ค่อนข้าง.. ไม่คุ้มค่าเท่าที่ควรเท่าไรครับ ถ้าไม่นับ เจมส์ บอนด์ กับ แมลินดา สวอนน์ สาวบอนด์ที่รับบทโดย เลอา แซดูส์ ที่มีบททั้งเรื่อง นอกนั้นถือว่าไม่คุ้มทั้ง M, มันนี่เพนนี่, Q, แทนเนอร์ ของฝั่ง MI6 (คุณป้าจูดี้ เดนช์ หรือ M ที่ตายในภาคที่แล้ว โผล่มาสั้นๆ ในภาคนี้แถมเป็นคลิปด้วย ยังจะมีบทบาทสำคัญกว่าอีกในภาคนี้!) และ มิสเตอร์ฮิงซ์, C และ แฟรนซ์ โอเบอร์เฮาเซอร์ ยิ่งโดยเฉพาะ มิสเตอร์ฮิงซ์ ของ เดฟ บาติสต้า นี่ทำตัวเป็นสโตคเกอร์เหลือเกินแถมทั้งเรื่องมีบทพูดอยู่แค่คำเดียว เป็นอะไรที่น่าเสียดายจริงๆ ครับ และนี่ยังไม่นับเรื่องที่การที่หนังสร้างความสัมพันธ์ตัวละครได้จืดชืดเป็นอย่างมาก

จากที่จั่วหัวไว้ว่ามีสปอยล์งั้นก็ขอพูดถึงเลย... อย่างน้อยที่สุดการคาดเดาของผมก็มักจะถูกอยู่เสมออย่างภาคที่แล้ว SKYFALL ก็เดาถูกอะไรหลายๆ อย่าง และกับ SPECTRE ผมก็ยังเดาได้ถูกเหมือนเดิมว่าตัวละครที่ คริสตอฟ วอลตซ์ เล่นซึ่งก็คือ แฟรนซ์ โอเบอร์เฮาเซอร์ แท้จริงแล้วก็คือ เอิร์นส์ สตาโฟร โบลเฟลด์ แต่เอาจริงๆ หลายคนน่าจะเดาได้อยู่แล้วละน่ะ ถึงเดาไม่ได้ในฉากมันก็มีแมวเปอร์เซียอยู่ก็น่าจะเดาได้อยู่ดี เสียดายหนังไม่ได้สร้างอิมแพ็คหรืออารมณ์ร่วมเลยแม้แต่นิดเดียว ตอน โอเบอร์เฮาเซอร์ บอกว่าชื่อ โบลเฟลด์ อารมณ์ตอนนั้น โอเค เดาถูกละ จากนั้นก็ไม่มีอะไร ไม่เหมือนตอน STAR TREK INTO DARKNESS ที่ พี่เบน พูด มาย เนม อิส ข่าน ที่หนังสร้างอารมณ์ร่วมได้มาก เทรคกี้ ปลื้มฝุดๆ


ถึงแม้จะพูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำว่า SPECTRE เป็นหนังบอนด์ที่ดีอะไรมากมายนัก ถ้าไปเทียบกับ SKYFALL เพราะตัว SPECTRE ก็มีหลายจุดที่พลาดเหมือนกันทั้งบทและก็ทางด้านของการเล่าเรื่อง รวมถึง การสร้างมิติและความสัมพันธ์ของตัวละคร แต่ถ้าถามว่า SPECTRE เนี่ยเป็นหนังที่ดูสนุกมั้ย!? แอ็คชั่นมันส์มั้ย!? ก็ถ้าไม่ติดหรือข้องใจกับเรื่องหยุมหยิมพวกการเล่าเรื่องและอื่นๆ อีกมากมาย ก็ขอบอกว่า SPECTRE ก็เป็นอีกหนึ่งหนังบอนด์ที่ก็ทำออกมาได้สนุกพอตัวเลยทีเดียวครับ หนังเองก็มีฉากแอ็คชั่นใหญ่ๆ มากมายพอสมควรทั้งฉากเปิดเรื่องที่ เม็กซิโก ซิตี้ หรือฉากขับรถไล่ล่าใน โรม อย่างน้อยที่สุด SPECTRE ก็เป็นหนังที่ตอบโจทย์ความเป็นหนังแอ็คชั่นดูสนุกสมกับแบรนด์หนังบอนด์

สุดท้ายนี้ต้องขอเชียร์ให้ชม SPECTRE กันในระบบ IMAX ครับ ไม่ใช่เพราะไอ้โปรโมทที่บอกถ่ายด้วยกล้องรุ่นล่าสุดหรืออะไร ไม่ได้สละสำคัญเลยให้ตายเถอะไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่เลย แต่ที่เชียร์ให้ไปชมใน IMAX ก็เพราะฉากแอ็คชั่นเปิดเรื่องในเม็กซิโก ซิตี้ครับ หนังใช้ความใหญ่ของจอ IMAX ได้คุ้มค่าเป็นอย่างมาก และยิ่งคุ้มไปอีกกับการได้ชม ไตเติล ซีเควนซ์ เพลงเปิดเรื่อง SPECTRE ที่ทำได้สวยงามมาก และกับระบบเสียงการได้ฟัง Writing's On The Wall ของ แซม สมิธ บนจอ IMAX, พูดถึง Writing's On The Wall นี่ได้ฟังในโรงหนังขอบอกว่าเพลงมีพลังมาก ยิ่งใหญ่มากเลยน่ะ...


ความยาวทั้งหมด 148 นาที
คะแนน 7/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น