วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

MISSION: IMPOSSIBLE - ROGUE NATION


MISSION: IMPOSSIBLE - ROGUE NATION / มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล: ปฏิบัติการรัฐอำพราง


ผู้จัดจำหน่าย : PARAMOUNT PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : BAD ROBOT, SKYDANCE PRODUCTIONS
ผู้กำกับ : คริสโตเฟอร์ แม็คเควียรี่ (JACK REACHER)
ประเภทของหนัง : ACTION | THRILLER

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง



เป็นเสน่ห์ประจำแฟรนไชส์ มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล เลยก็ได้ที่ในแต่ล่ะภาคจะต้องเปลี่ยนผู้กำกับไปเรื่อยๆ ซึ่งก็จะได้มุมมองที่แตกต่างกันไปในแต่ละภาค ซึ่งถ้าให้คำจำกัดความในแต่ละภาคนั้น สำหรับภาคแรกของ ไบรอัน เดอ พัลม่า ก็ต้องขอบอกว่าสนุกล่ะน่ะ ส่วนภาคที่สองของ จอห์น วู ก็แบบว่าแอ็คชั่นทำได้สนุกและมันส์มากๆๆ และ ทอม ครูซ นี่เท่ห์มาก ส่วนภาคที่สามของ เจเจ เอบรามส์ ล่ะ สรุปหนังก็ดีน่ะแต่จบแล้วก็คือจบล่ะ แต่รู้สึกค้างคาเรื่อง ตีนกระต่ายมาจนถึงทุกวันนี้? ส่วนภาคที่สี่หรือ ปฏิบัติการไร้เงา ของ แบรด เบิร์ด นั้นถือว่าเป็นหนัง มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล ภาคที่สมบูรณ์แบบที่สุด (ณ เวลานั้น) ก็ว่าได้ และกับภาคที่ห้านี้ล่ะ โร้ก เนชั่น หรือ ปฏิบัติการรัฐอำพราง ของ คริสโตเฟอร์ แม็คเควียรี่ นี้ล่ะ??

อาจจะพูดเว่อร์ไปหรือยกย่อปอปั้นเกินเหตุไปหน่อยแต่ขอพูดเลยว่า ROGUE NATION ภาคนี้ของ คริสโตเฟอร์ แม็คเควียรี่ เนี่ยล่ะครับที่เป็นหนัง มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล ภาคที่ดีที่สุดของแฟรนไชส์นี้เลย ทั้งที่หนังก็ได้หวือหวาหรือแปลกแหวกแนวอะไร (ธีมการเมืองภายในกับองค์กรสายลับต่างๆ นี่ดูจะเป็นสูตรสำเร็จของหนังสายลับอยู่แล้ว) แต่ แม็คเควียรี่ นี่เขียนบทหนังภาคนี้กลับกลายเป็นหนังที่มีจุดพีคจุดหักมุมและตลบหลังตัวละครและก็คนดูอยู่ตลอดเวลา มีอะไรให้แอบเซอร์ไพรซ์แทบจะตลอดเลยตั้งแต่ต้นเรื่องยันฉากสุดท้ายของหนัง (ย้ำว่าฉากสุดท้ายของหนัง!) ขอบอกว่าภาคนี้เป็นอะไรที่เด็ดดวงมาก ซี้ดซ้าดตลอดตั้งแต่ต้นยันจบจริง


หนังแม่มโชว์ความเจ๋งจริงๆ ภาคนี้โดยเฉพาะเรื่องการชิงไหวชิงพริบกันเป็นอะไรที่เด็ดที่สุดของภาคนี้เลยก็ว่าได้โดยเฉพาะการชิงไหวชิงพริบกันระหว่างสอง (หรือ สาม อาจจะ สี่ !?) ขององค์กร ไอเอ็มเอฟ ที่ต้องปะทะกับ ซินดิเคท โดยมี ซีไอเอ และองค์กรสายลับของอังกฤษ คอยดูอยู่ห่างๆ) ซึ่งไอ้การชิงไหวชิงพริบในภาคนี้เป็นอะไรที่ทำให้คนดูซี้ดปากได้ตลอดเวลา แบบว่าใครพลาดคือเละ! จากใจกล้าพูดเลยว่าภาคนี้เนี่ยล่ะคือภาคที่ดีที่สุดของแฟรนไชส์ มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล จะว่าไปหนังมันเน้นที่บทจริงๆ น่ะฉากแอ็คชั่นส่วนใหญ่ในหนังไม่ต่างอะไรกับลูกเมียน้อยจริงๆ คือในตัวอย่างโชว์ขนาดไหน ในหนังก็มีเท่านั้นล่ะ (ฟุตเตจอาจจะยาวเพิ่มหน่อย) 

ยกตัวอย่างเช่นฉากที่ อีธาน ฮันท์ เกาะประตูเครื่องบินเนี่ย ในหนังมีไม่กี่นาทีเอง หรือฉากซิ่งรถซิ่งมอเตอร์ไซค์ในโมร็อคโคหนังก็ใช้เวลาไม่นานนัก (แต่สำหรับผมชอบซีเควนซ์ซิ่งรถในโมร็อคโคนี้มากน่ะทำได้มันส์ดีแม้จะไม่นานนัก) ซึ่งโดยรวมก็อาจจะทำให้ใครที่หวังมาดูความมันส์อาจจะผิดหวังไปไม่มากก็น้อยเลยทีเดียวน่ะ -- สรุปว่าภาคนี้ทำได้เจ๋งมากเลยน่ะ ส่วนเรื่องตัวละครภาคนี้ไฮไลท์คงเป็นตัวละครของนักแสดงสาว รีเบ็คก้า เฟอร์กูสัน นางแซ่บมากในภาคนี้...


ความยาวทั้งหมด 131 นาที
คะแนน 9/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger