วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

SHERLOCK HOLMES: A GAME OF SHADOWS


SHERLOCK HOLMES: A GAME OF SHADOWS /
เชอร์ล็อค โฮล์มส์: เกมพญายมเงามรณะ


(26/12/2011) - 80 BATH

ผู้จัดจำหน่าย : WARNER BROS. PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : VILLAGE ROADSHOW PICTURES, SILVER PICTURES
ผู้กำกับ : กาย ริตชีย์ (SNATCH, SHERLOCK HOLMES)
ประเภทของหนัง : ACTION | CRIME | THRILLER

เรื่องย่อ
เชอร์ล็อค โฮล์มส เป็นผู้ที่ชาญฉลาดที่สุดในวงการ…จนกระทั่งตอนนี้ ที่มีอาชญากรจอมบงการคนใหม่ที่ปรากฏตัวออกมาอย่าง ศาสตราจารย์มอริอาร์ตี้ (จาเร็ด แฮร์ริส) และไม่ใช่แค่สติปัญญาของเขาที่เทียบเท่ากับโฮล์มส แต่ความสามารถในด้านชั่วร้ายด้วย ควบคู่ไปกับการขาดความรู้จักผิดชอบชั่วดีอย่างสิ้นเชิง ซึ่งจริงๆ แล้วอาจทำให้เขาช่วงชิงผลประโยชน์ไปจากนักสืบผู้เลื่องชื่อได้

มุมมอง
จากหนังสือที่แต่งโดย เซอร์ อาร์เธอร์ โคแนน ดอยล์ สู่การเป็นภาพยนตร์ SHERLOCK HOLMES ในปี 2009 ที่กวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 500 ล้านดอลลาร์ ทำให้ ต้องมี ภาค 2 ออกมา โดย ผู้กำกับ คนเดิม คือ กาย ริตชีย์ กลับมาทำภาค 2 ให้กับหนังเรื่องนี้


ภาคนี้ เชอร์ล็อค โฮล์มส์ กับ ดร. วัตสัน ต้องหยุดแผนการร้ายของ ศจ. เจมส์ มอริอาตี้ หรือ ฉายาในหนังสือ คือ “นโปเลียนแห่งโลกอาชญากรรม” ที่ในหนังสือก็คือ ตัวร้ายคู่ปรัปตลอดกาลของ เชอร์ล็อค โฮล์มส์ และมีสมองระดับเดียวกันกับ โฮมล์ส และ จะนำหน้าโฮมล์ส อยู่หนึ่งก้าวเสมอ ที่ในหนังภาคนี้ โฮล์มส์ จะต้องหยุดแผนการของเขาไว้ให้ได้ก่อนที่อารยธรรมของยุโรปจะถึงจุดจบ หนังจะเหมือนกับในภาคแรกคือ การที่หนังไม่มีเวลาปล่อยให้เราคิดตามได้ในการสืบและไขคดีใน “ช่วงต้นๆ เรื่องถึงกลางๆ เรื่อง” เพราะหนังดำเนินเรื่องได้เร็วมากและเราจะตามไม่ทัน แต่หนังดูเหมือนจะเพิ่มในส่วนของ “แอ๊คชั่น” ให้เยอะกว่าภาคแรกอยู่พอสมควร หนังก็เลยทำให้ผู้ชมลุ้นระทึกกับกับภารกิจของ โฮล์มส์ มากขึ้นอยู่พอสมควร และ ภาคนี้ตัวหนังมีมุกตลกมากขึ้นกว่าภาคที่แล้ว และแพรวพราวกว่าภาคที่แล้ว เช่น การปลอมตัว เป็นต้น ซึ่งตัวหนังเองก็ดูจะลดบทสนทาให้น้อยลงกว่าภาคแรกอยู่พอสมควรเหมือนกัน และที่น่าเสียดายก็คือ เหล่าตัวละครสก๊อตแลนด์ยาร์ดในภาคแรกแทบไม่มีบทบาทในภาคนี้เลย


แต่ในส่วนตัวละคร หนังดูจะเน้นกับมิตรภาพของ เชอร์ล็อค โฮล์มส์ กับ ดร. วัตสัน ให้มากขึ้นกว่าภาคก่อน ส่วนตัวร้ายในภาคนี้ ศจ. เจมส์ มอริอาตี้ อาจดูไม่น่าเกรงขามเท่า “ลอร์ด แบล็ควู้ด” ในภาคแรก แต่ดูมีความลึกลับที่จับต้องได้ มาเพิ่มแทน และทางด้านตัวละครที่เพิ่มเข้ามาใหม่ นั้นคือ “ซิม” สาวหมอดูไพ่ยิปซี ในเรื่อง ดูจะไม่โดดเด่นมากเท่าไร ถ้าไม่นับการไปมีส่วนเกี่ยวของในช่วงต้นเรื่อง กับ ไมครอฟต์ โฮมล์ส พี่ชายจอมขี้เกียจแต่ฉลาดกว่า เชอร์ล็อค มีส่วนสำคัญกับตัวหนังภาคนี้สูงเพราะเป็นคนคอยช่วยเหลือ น้องชายของเขาในการสู้กับ มอริอาตี้ ส่วนทางด้านตัวละครที่สำคัญในภาคแรก นั้นคือ ไอรีน แอดเลอร์ คนเขียนบทดูเหมือนจะใจร้ายกับเธอมาก เพราะทำให้เธอนั้น ...!! และจากที่กล่าวมาทั้งหมดการต่อสู้ของ เชอร์ล็อค โฮล์มส์ กับ ศจ. เจมส์ มอริอาตี้ นั้นจะนำไปสู่บทสรุปของหนังที่จะเหมือนกับในหนังสือนั้นก็คือ...?


โรเบิร์ต ดาวนี่ย จูเนียร์ (โฮมล์ส) กับ จู้ด ลอร์ (วัตสัน) เคมีที่เข้ากันของทั้งสองในภาคแรก สืบต่อมาในภาคสอง ที่ทั้งคู่ยังแสดงได้ไหลลื่น มีส่วนช่วยเพิ่ม อรรถรส ให้กับตัวหนังอย่างมาก ส่วนด้านนักแสดงคนอื่นอาทิ จาเร็ด แฮริส (มอริอาตี้) ก็แสดงได้ดูลึกลับสมกับตัวละครตัวนี้, นูมิ ราเพซ (ซิม) ก็ดูเงียบๆ ไม่โดดเด่นในหนังเท่าไรนัก, แต่ที่โดดเด่น (ไม่นับ เชอร์ล๊อค โฮมล์ส) ที่สุดในเรื่องก็คือ สตีเฟ่น ฟราย (ไมครอฟต์) ขโมยซีนทุกครั้งปรากฏในหนัง

ไมครอฟต์ โฮมส์ พี่ชายของ เชอร์ล๊อค โฮมล์ส
ทางด้านผู้กำกับ อย่าง กาย ริตชี่ คงรู้ตัวว่าในภาคแรกนั้นมีบทสนทนาเยอะเกินไป ภาคนี้เลยลดบทสนทนาลงไปน่าจะประมาณ 30-40% และเพิ่มในทางด้านสวนแอ๊คชั่นให้มากขึ้นกว่าเดิมนั้นเอง และในฉากแอ๊คชั่นนี้เอง กาย ริตชี่ มีไอเดียสุดแสนจะบรรเจิดในการนำเสนอ นั้นคือ ฉากสโลว์โมชั่น (ไม่ใช่แบบที่ เชอร์ล็อค โฮมล์ส ใช้เวลาต่อสู้) แต่เป็นฉากที่วิ่งหนีกันในป่าหนีกระสุน และ ระเบิด ที่ดูจะสร้างสรรค์เหลือเกิน และ ครีเอท มากๆ ในส่วนตรงนี้


สรุป
เชอร์ล็อค โฮล์มส์: เกมพญายมเงามรณะ ตลอด 129 นาทีในหนัง หนังสามารถสร้างเรื่องราวแล้วสร้างความหักเหให้กับการสืบคดีได้ตลอดเวลา และ สามารถทำให้เราสนุกเพลิดเพลินและคิดตามไปกับหนังได้ตลอดเวลา และถ้าหากว่า ชอบภาคแรกแล้วนั้น ภาคสอง ก็จะชอบขึ้นมากกว่าเดิม เพราะภาค 2 สามารถลบจุดด้อยในภาค แรกลงได้อย่างดี และ เชอร์ล็อค โฮมล์ส ก็สามาถ “ปิดคดี” ลงได้อย่างสมบูรณ์ รอเปิดคดีกันอีกครั้งอย่างแน่นอน!!
The End ...?


ความยาวทั้งหมด 129 นาที
คะแนน 9/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น