WARM BODIES / ซอมบี้ที่รัก
ผู้จัดจำหน่าย : SUMMIT ENTERTAINMENT
สตูดิโอผู้สร้าง : SUMMIT ENTERTAINMENT, MAKE MOVIES, MANDEVILLE FILM
ผู้กำกับ : โจนาธาน เลวีน (50/50)
ประเภทของหนัง : ZOMBIE | ROMANTIC | COMEDY
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
“ห...หล่อตายซาก อั้ยย่ะ ซ...ซอมบี้ก็มีหัวใจนะคร้าบ,
หนังสนุกอีกเรื่องที่สนุกตั้งแต่ต้นยันจบ!”
WARM BODIES นิยายขายดีแหวกแนวว่าด้วยเรื่องราวความรักสุดเอพิคยิ่งกว่า โรมิโอ กับ จูเลียต ของ เช็คสเปียร์ เพราะอันนี้ว่าด้วยเรื่องราวความรักของ ซอมบี้หนุ่ม และ มนุษย์สาวแสนสวย!! ผลงานการแต่งของ อีซัค มาเรียน ที่ตีพิมพ์วางจำหน่ายเมื่อปี 2010 และแน่นอนว่าหนังสือมันฮิตซึ่งเมื่อฮิตแล้วผลผลิตที่จะตามมาก็คือการถูกซื้อไปสร้างเป็นภาพยนตร์!! เหมือนอย่างที่ Twilight, The Hunger Games ทำมาก่อน และในที่สุดหนังสือก็ถูกนำไปดัดแปลงจนได้โดยผู้กำกับหนังคอเมดี้-ดราม่า เจ็บจี้ดแต่หัวเราะได้ นั่นก็คือ โจนาธาน เลวีน ผู้กำกับ 50/50 นั่นเอง และได้ เทเรซ่า พลัมเมอร์ มารับบท จูลี่ นางเอกมนุษย์ของเรื่อง และได้ "นิโคลาส โฮลท์" เจ้าเด็กหนุ่มที่บ้านมีแต่ดราม่าแต่นิสัยน่าตบเกรียนใน About a Boy มารับบทเป็น R ซอมบี้หนุ่มที่ตกหลุมรักมนุษย์!! นี่คือหนังแนวใหม่ ซอมบี้, โรแมนติค, คอเมดี้ นี่คือ WARM BODIES!!
จงลืมซอมบี้สไตล์ ปู่จอร์จ เอ. โรเมโร่ ในหนังอย่าง Night of Living Dead, Dawn of the Dead และหนังตระกูล of the Dead ไปซะให้หมดเพราะนี่เป็นการแหกกฏที่หนังซอมบี้มีไปซะหมดเลยเพราะนี่คือซอมบี้รักมนุษย์ที่เป็นหนังที่ดูสนุกเป็นอย่างมาก ด้วยฝีมือการเขียนบทของ โจนาธาน เลวีน เองและก็กำกับโดย โจนาธาน เลวีน เองทำให้หนังออกมามุมที่ต่างจากหนังรักต่างสายพันธ์อย่าง Twilight อยู่หลายขุมด้วยการที่หนังมีมุมลึกและดำเนินเรื่องสนุกตลอดเรื่อง ไร้จุดที่น่าเบื่อ และแม้แต่ พล็อตหลัก พล็อตรอง ก็โดดเด่น อย่าง พล็อตหลักก็คือ การนำเสนอมุมมองความรักของตัว R และ จูลี่ ที่หนังทำออกมาได้อย่างลื่นไหลและลงตัว เคล้าเสียงเพลงและดนตรีประกอบที่โดดเด่นและเข้ากับตัวเนื้อเรื่องได้อย่างถูกจังหวะ
และพล็อตรองที่นำเสนอมุมมองของความรักที่ไม่จำกัดต่อเผ่าพันธ์ตัวเอง ก็เหมือนอย่าง มนุษย์รักสัตว์เลี้ยง อย่าง แมว, กระต่าย อะไรประมาณนี้เป็นต้น ซึ่งที่จะบอกนี่ไม่ได้หมายความว่า รักในมุมมองเจ้านาย-สัตว์เลี้ยงน่ะ แต่หมายถึง การรักแบบเต็มใจ 100% ซึ่งเมื่อหนังนำพล็อตหลัก-รอง มารวมกันแล้วผลที่ได้คือหนังออกมาลื่นไหล, สนุก, เอาใจช่วยกับความรักของ 2 ตัวละคร และเอาใจลุ้นว่าซอมบี้ทั้งหมดเนี่ยจะกลายเป็นมนุษย์หรือกลับมามีหัวใจเหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งตรงนี้หนังทำออกมาได้อย่างโดดเด่นและโดดเด่นกว่าหนังรักประเภทดัดแปลงมาจากนิยายสายสัมพันธ์ต่างเผ่าพันธ์อยู่มากมาย ถึงแม้หนังจะไม่มีปมให้ลุ้นระทึกมากมายหรือมีอะไรหักมุมแต่ด้วยการที่หนังดำเนินเรื่องด้วยความโดดเด่นกับมุขตลกแค่นี้หนังก็เอาอยู่แล้วครับ
ตลอดเรื่องหนังจะดำเนินเรื่องด้วยมุมมองของ "R" ที่ตลอดเรื่องหนังดำเนินด้วยมุมมองของ R อย่างเดียว ดำเนินมุมมองของ R อย่างไร? ก็ประมาณเราได้ยินความคิดจิตใจไล่ไปยันความฝันของ R เลยทีเดียว และเราได้เห็นการเติบโตและพัฒนาการของตัวละครไปตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่องซึ่งแน่นอนหนังทุกเรื่องมันเป็นแบบนี้อยู่แล้วที่จะเห็นพัฒนาการของตัวละครตั้งแต่ต้นยันจบเรื่อง แต่ที่แปลกกว่าคือนี่คือการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของซอมบี้นะครับ ซอมบี้เลยน่ะเนี่ย
หนังเรื่องไหนบ้างที่เล่าเรื่องผ่านมุมมองตัวซอมบี้ที่บรรเจิดถึงขั้นรักมนุษย์กันบ้างล่ะ มันไม่มีเลยน่ะ แถม R ยังเป็นพวกบ้าสะสมของอีกน่ะ ซึ่งหมายความตัวบทของ R หนังทำออกมาได้มีความน่าสนใจและน่าค้นหาเป็นอย่างมาก หนังตีความซอมบี้ที่มีความคิดและมุมมองให้ออกมาแตกต่างจากหนังพื้นๆ ทั่วไปหากหนังไม่นำเสนอในจุดตรงนี้เชื่อว่าหนังอาจจะผลิกหน้ามือเป็นหลังมือก็เลยก็ได้ครับ แต่โดยรวมแค่เราได้เห็นหนังแนวใหม่ที่เรียกว่า Zom-Rom-Com ก็ถือว่าคุ้มค่าค่าตั๋วที่เสียไปแล้วครับ (หนังทำออกมาได้คล้ายกับ Dark Shadows ที่ทำออกมาได้น่าสนใจตั้งแต่ตัวอย่างแต่พอหนังฉบับเต็มกับไม่น่าสนใจและสนุกเท่าที่ควรต่างกับ Warm Bodies)
ซึ่งหนังก็มีจุดเด่นนอกเหนือจากตัวเนื้อเรื่องก็คือ จุดเด่นแรกที่หนังทำได้ดีคือผู้กำกับครับ โจนาธาน เลวีน นำเสนอหนังให้แตกต่างและทำออกมาได้ลงตัวเป็นอย่างมาก เลือกตัดอะไรที่ไม่จำเป็นเท่าไรออกไปและใส่มุกตลกเข้ามาแบบน่ารักและอมยิ้มได้ และอีกจุดเด่นต่อมาที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คงไม้พ้น นิโคลาส โฮลท์ ที่เล่นและแสดงออกมาได้อย่างโดดเด่นมากๆ ในเรื่อง อาจจะไม่ได้สุดยอดเหมือนตอนเล่น About a Boy หรือ X-Men: First Class ซึ่งโฮลท์ก็สามารถคุมและทำให้ทุกคนสนใจ R ใน Warm Bodies ได้ตลอดเรื่องนั้นแสดงให้เห็นความสามารถของโฮลท์ที่เป็นนักแสดงคุณภาพมากๆ น่าจับตามองมากๆ กับหนังเรื่องต่อไป Jack the Giant Slayer ของ ไบรอัน ซิงเกอร์
ความยาวทั้งหมด 98 นาที
คะแนน 8.5/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น