NOW YOU SEE ME 2 / อาชญากลปล้นโลก 2
ผู้จัดจำหน่าย : SUMMIT ENTERTAINMENT
สตูดิโอผู้สร้าง : LIONSGATE
ผู้กำกับ : จอน เอ็ม ชู (STEP UP 2: THE STREET, G.I. JOE: RETALIATION)
ประเภทของหนัง : ACTION | COMEDY | THRILLER
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
กับงานภาคแรก NOW YOU SEE ME นั้นจัดว่าเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความเซอร์ไพรซ์สำหรับคนดูหลายๆ อย่าง ทั้งตัวหนังและก็ความสำเร็จที่หนังนั้นพุ่งชนจนมีภาคที่สองตามมา กับภาคแรกนั้นเป็นงานที่หลอกคนดูได้อย่างอยู่หมัด แถมยังเต็มไปด้วยความสนุกและความบันเทิงแบบจัดหนัก จากทั้งเรื่องราวและเหล่าตัวละครในเรื่อง รวมถึงฉากมายากลที่หนังเอามาโชว์ พูดได้เลยละว่า ภาคแรกนั้นมันดูลงตัวไปหมดซ่ะทุกอย่าง เพราะอย่างนั้นนี่จึงเป็นงานหนักของ จอน เอ็ม ชู (G.I. JOE: RETALIATION) ผู้กำกับประจำภาคนี้ที่เข้ามาดูแลแทน หลุยส์ เลแตร์ริเย่ร์ ผู้กำกับภาคแรก
บทภาคนี้ที่ เอ็ด โซโลมอน เขียน เทเนื้อหาน้ำหนักเรื่องราวในภาคนี้แบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือเรื่องราวของกลุ่ม จตุรอาชา ที่หลุดไปอยู่ที่ มาเก๊า แล้วต้องออกทำภารกิจขโมยชีพที่สามารถแฮ็คคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องบนโลกตามคำสั่งของ วอลเตอร์ ตัวละครของ แดเนี่ยล แรดคลิฟฟ์ กับอีกเรื่องเป็นเรื่องของ ดีแลน (มาร์ค รัฟฟาโล่) กับ แธดเดียส (มอร์แกน ฟรีแมน) กับการสะสางปัญหาอดีตของทั้งสอง ซึ่งเนื้อเรื่องแยกเป็นสองเส้นทางชัดเจน แต่หนังก็จะค่อยๆ บิด ค่อยๆ เชื่อมเนื้อหาเข้ามาที่ละนิดๆ ก่อนที่จะกลายเป็นเส้นเรื่องเดียวกันในที่สุด
กับครึ่งแรกของเรื่อง ออกจะน่าเบื่อไปหน่อย เพราะหนังมีนั้นมีนี่ ต้องอธิบายยุบยับเต็มไปหมด รายละเอียดต่างๆ นาๆ จัดว่าเยอะ เพราะงั้นต้องเล่าเรื่องในหลายๆ จุด เลยเสียเวลาเล่าไปมากพอตัว ก็เป็นช่วงเวลาที่ดูอึดอัดอยู่เหมือนกัน แต่หลังจากนั้นพอหนังคลี่เรื่องราวต่างๆ นาได้และเรื่องค่อยๆ เชื่อมๆ กัน ค่อยๆ ตั้งหลักได้ (ซึ่งก็คือครึ่งหลังของเรื่อง) ที่เหลือจากนั้น หนังก็จัดหนักความบันเทิงและความสนุกใส่คนดูเป็นชุด! ซึ่งมันสนุกมากกก! จนทำให้เราลืมความไม่สมเหตุสมผลของหนังไปได้ชั่วคราว
ฉาก มายากล ที่หนังเอามาเล่นคือเล่นใหญ่พอตัว อาจจะไม่ถึงกับชวนร้อง ว้าว หรือ เซอร์ไพรซ์ เหมือนกับภาคแรก แต่โดยรวมแล้วก็จัดว่าบันเทิง เป็นการนำ มายากล มาผสมผสานกับ โจรกรรม ที่ในภาคนี้เล่นกันเป็นทีมกว่าภาคที่แล้ว อย่างเช่นฉากกลางเรื่องที่โยนไพ่ไปมาในช่วงที่ไปขโมยชีพนี่เจ๋งมาก หรือฉากที่ ดีแลน สู้กับลูกน้องของ วอลเตอร์ นี่ก็ผสมผสาน การต่อสู้เข้ากับมายากล นอกนั้นก็มีฉากมายากลประปรายแต่ก็มาอยู่เรื่อยๆ สั้นยาว ก็แล้วแต่ช่วงในหนังไป แต่หนังมันก็มาเน้นที่ฉากท้ายอยู่ดี (อันนี้เล่นใหญ่พอตัวเพราะวิ่งไปทั่ว ลอนดอน เลย)
เหมือนกับภาคแรก ภาคนี้หนังยังสามารถหลอกคนดูให้เชื่ออีกอย่างแต่จบอีกอย่างได้ เซอร์ไพรซ์ในหลายๆ จุดที่หนังจงใจเซอร์ไพรซ์มาก แบบเห้ย! ไอ้อันนี้เราไม่ได้คาดคิดอะไรแบบนี้ไว้ก่อนเลย ไม่คิดว่า เอ็ด โซโลมอน และ จอน เอ็ม ชู จะเล่นอะไรแบบนี้ (เกี่ยวกับสัมพันธ์ของตัวละคร) ซึ่งไอ้จุดที่หนังเซอร์ไพรซ์นี้ อาจจะทำให้หลายๆ คนไม่ชอบก็ได้ เพราะดูเหมือนลักไก่ยังไงก็ไม่รู้ แต่ถ้าไม่อะไรมาก มองอีกมุมมันก็เป็นบทจบภาคนี้ที่ดีเหมือนกัน
ภาคนี้บทของ ไอล่า ฟิเชอร์ โดนตัดไป (นางท้องก่อนถ่ายทำพอดี) แล้วเอา ลูล่า ตัวละครใหม่เข้ามาแทน แสดงโดย ลิซซี่ แคปแลน ซึ่งการมาของ ลูล่า ก็สร้างสีสันให้กับหนังได้พอตัว เข้าขากับทีมจตุรอาชาที่เหลือมากๆ แอบขโมยซีนพอตัว (และแอบน่ารำคาญในบางที) ส่วน แดเนี่ยล แรดคลิฟฟ์ ที่รับบทตัวร้าย ดูยังไงๆ ก็ไม่มีรัศมีความร้ายเลยแม้แต่น้อย แดนไม่สามารถทำให้เราเชื่อได้ว่านี่คือตัวร้าย ดูเป็นเด็กเนิร์ดมากกว่าด้วยซ้ำ ความผิดพลาดครั้งใหญ่ในหนังเรื่องนี้คือการเพิ่มตัวละครฝาแฝดของ เมอร์ริต อย่าง เชส เข้ามา เป็นอะไรที่น่ารำคาญมาก (ถึงจะรัก วูดี้ ฮาร์เรลสัน ขนาดไหน แต่ไม่ใช่กับบท เชส ในหนังเรื่องนี้แน่นอน)
สรุปถ้าวัดๆ กันตรงๆ ภาคนี้สู้ภาคแรกไม่ได้ แต่ถ้าถามว่าภาคนี้สนุกและบันเทิงมั้ย ก็ขอบอกว่า ภาคนี้สนุกอยู่...
ความยาวทั้งหมด 129 นาที
คะแนน 7.5/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น