LES MISÉRABLES

LES MISÉRABLES / เล มิเซราบส์

ผู้จัดจำหน่าย : UNIVERSAL PICTURES

สตูดิโอผู้สร้าง : WORKING TITLE FILMS, CAMERON MACKINTOSH LTD.

ผู้กำกับ : ทอม ฮูเปอร์ (THE KING'S SPEECH)

ประเภทของหนัง : DRAMA | MUSICAL | ROMANCE

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง

อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง

“มหัศจรรย์ภาพยนตร์มิวสิคัลเต็มรูปแบบ ที่หลายทศวรรษจะมีซักครั้งหนึ่ง”

Les Miserables (เหยื่ออธรรม) ผลงานจากปลายปากกาของ วิคเตอร์ ฮูโก้ เมื่อปี 1862 คือหนึ่งในวรรณกรรมชิ้นเอกของโลกที่ถูกยอมรับและการันตีผ่านคนมาหลายยุคหลายสมัยกับเรื่องราวที่ผ่านไปกี่สิบปีเรื่องราวของ ฌอง วัลฌอง, ฌัลแวร์, ฟองทีน, โคเซตต์, มารีอุส ก็ยังไม่ตกยุควันเวลาผ่านไปผลงาน เหยื่ออธรรม ก็ยังคงยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในปี 1980 ตัวนิยายก็ถูกนำไปดัดแปลงเป็นละครเวทีโดยเป็นผลงานการประพันธ์เพลงของ 2 คู่หู อเลน บูบิลล์ และ ฌอง-มาร์ค นาเทล และควบคุมดนตรีโดย คล็อด-มิเชล สคอนเบิร์ก และในปี 1985 ตัวละครก็ถูกนำไปดัดแปลงเป็นละครเวทีโดยเปลี่ยนเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ โดยผู้ดัดแปลงเนื้อร้องก็คือ เฮอร์เบิร์ต เครตซ์แมน และแน่นอนว่าละครเวทียังคงแสดงจนถึงทุกวันนี้

ทอม ฮูเปอร์ ผู้กำกับรางวัลออสการ์จาก The King's Speech เล็งหนังเรื่องใหม่และรับรู้ถึงโปรเจ็คต์การดัดแปลงละครเวที Les Miserables ให้กลายเป็นภาพยนตร์มิวสิคัลแบบเต็มรูปแบบเลยได้กลายเป็นผู้กำกับของ Les Miserables พร้อมกับเลือกการถ่ายทำในรูปแบบร้องสดแตกต่างจากภาพยนตร์มิวสิคัลเรื่องอื่นๆ พร้อมกันนี้ยังได้ ฮิวจ์ แจ็คแมน, รัสเซลล์ โครว์, แอนน์ ฮาร์ธาเวย์, อแมนด้า ไซย์ฟรีด, เอ็ดดี้ เรดเมยน์ มารับบท ฌอง วัลฌอง, ฌัลแวร์, ฟองทีน, โคเซตต์, มารีอุส ตามลำดับ ซึ่งหลังจากที่ปล่อยตัวอย่างออกมาก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีและนี่คือภาพยนตร์มิวสิคัลเต็มรูปแบบที่ยิ่งใหญ่!!

โดยอย่างที่รู้กันตัวเนื้อหาของ Les Miserables เป็นอะไรที่อยู่สูงมากเกินกว่าที่จะเอาพูดถึงให้ละเอียดได้แบบไม่ตกหล่น ดังนั้นเราขอข้ามตรงนั้นไปเลยและขอมาพูดถึงตัวภาพยนตร์เพียวๆ เลยล่ะกันกับการใช้มิวสิคัลเป็นธีมหลักของเรื่อง, แน่นอนอย่างที่รับรู้ว่า Les Miserables คือภาพยนตร์มิวสิคัลเต็มรูปแบบแต่การใช้เพลงและการขับร้องดำเนินเรื่องเป็นอะไรที่แตกต่างกว่าภาพยนตร์ในปัจจุบันเป็นอย่างมากเหมือน The Artist ที่ตลอดเรื่องไร้บทพูดจนคนรุ่นใหม่อาจจะไม่คุ้นเคยเหมือนคนรุ่นเก่าๆ ที่ได้รับและสัมผัสกับภาพยนตร์ประเภทนี้มาเยอะอย่าง The sound of music ทำให้ความแตกต่างและความไม่คุ้นเคยอาจมีผลต่อการชมได้ ซึ่งในยุค 2000 เป็นต้นมาภาพยนตร์ที่เป็นภาพยนตร์มิวสิคัลก็คงไม้พ้น Mamma Mia! หรือที่ใกล้เคียงหน่อยก็คง High School Musical  หรือ Enchanted เป็นต้น

แต่ก็ใช่ว่าทุกคนเคยดูนี่จึงเป็นภาระอันหนักกับการทำให้คนไม่เคยสัมผัสภาพยนตร์มิวสิคัลมาก่อนรู้สึกอินไปกับภาพยนตร์ ตัวภาพยนตร์มิวสิคัลนั้นอธิบายจริงๆ ก็คือการร้องเพลงในเรื่องจะต้องมีที่มาที่ไปไม่ใช่จู่ๆ อยากร้องก็ร้องเลย เพลงต่อเพลง, เนื้อร้องต่อเนื้อร้อง นี่คือสิ่งที่เป็นปัญหาแน่ๆ สำหรับ Les Miserables แต่ขอโทษครับ Les Miserables สามารถทำรูปแบบภาพยนตร์มิวสิคัลแบบสอบผ่านแถมทำได้เกินหน้าเกินตาภาพยนตร์มิวสิคัลก่อนหน้าหลายๆ เรื่องอีกด้วย แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจากบทประพันธ์ชั้นยอดของ วิคเตอร์ ฮูโก้ แน่นอนที่ทำให้เมื่อดัดแปลงแล้วทำให้ทุกอย่างออกมาดี แต่อย่าลืมนะครับว่าส่วนหนึ่งที่เป็นอุปสรรคในการดัดแปลงก็คือตัววรรณกรรมนั้นมีถึง 5 เล่มใหญ่ๆ และมีความยาวเกิน 1,900 หน้า

ซึ่งเป็นภาระแน่ๆ หาก Les Miserables จะดัดแปลงจากตรงนั้นเลยและก็แน่นอนครับอย่างที่ทุกคนรู้หนังได้แบ็คอัพชั้นดีจากละครเวทีสุดยิ่งใหญ่โดยหนังเอาเนื้อหาของฉบับละครเวทีมาดัดแปลงได้ลงตัวไม่มีการตัดทอน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับ Les Miserables ฉบับนี้แต่ส่วนสำคัญที่ที่ทำให้ Les Miserables ออกมาเป็นภาพยนตร์ที่สวยงามสุดๆ ก็คือ บทเพลงสุดไพเราะและสุดยิ่งใหญ่ และ การแสดงชั้นยอดของทีมนักแสดงในภาพยนตร์นั่นเอง

I Dreamed a Dream, One More Day, Do You Hear the People Sing, Bring Him Home รวมถึงเพลงที่ถูกแต่งใหม่เป็นเพลงประกอบอย่าง Suddenly สามารถเติมเต็มภาพยนตร์ให้เป็นภาพยนตร์มิวสิคัลสุดยิ่งใหญ่ได้ จากเพลงหนึ่งสู่อีกเพลงหนึ่ง, จังหวะและทำนอง การรั่วกลอง เสียงเครื่องดนตรี นี่เป็นส่วนสำคัญที่หนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าในจังหวะบางฉากเพลงหนึ่งจบอีกเพลงจะมาในทันทีอย่าง One More Day จบและเพลง Do You Hear the People Sing ต่อในทันทีซึ่ง 2 เพลงนี้เป็น 1 ใน 3 เพลงเอกที่อยู่ในประวัติศาสตร์เพลงมิวสิคัลไปแล้ว ซึ่งนี่อาจจะเป็นจุดผิดพลาดเพียงจุดเดียวที่หนังมีเพราะการที่เพลงนี้จบอีกเพลงมาแถมเป็นเพลงเอก อารมณ์ที่ค้างจากเพลงเก่ายังอยู่ทำให้แทนที่จะยิ่งใหญ่และขนลุกตราตรึงในความทรงจำอาจจะไม่ได้จารึกมากเพียงใด แต่โดยรวมแล้วนับได้ว่าเพลงทุกเพลงอยู่ในขั้นไร้ที่ติครับ

ซึ่งถือเป็นความโชคดีที่ผู้เขียนสัมผัส 2 เพลงนี้มาก่อนหน้าแล้วและ Do You Hear the People Sing คือเพลงที่ผู้เขียนชอบที่สุดทำให้สามารถแยก 2 เพลงนี้ออกจากกันได้ แต่คนที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนน่าจะมีความรู้สึกแตกต่างจากผู้เขียนอยู่บ้างไม่มากก็น้อย, หากมีเพลงที่สุดยอดสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือทีมนักแสดงและผู้ขับร้องเพลง อย่างที่ทราบมาตั้งแต่ต้นก็คือหนังใช้วิธีการร้องสดไม่มีการอัดเสียงไว้แล้วมาลิปซิงที่หลังทำให้นักแสดงสามารถเข้าถึงอารมณ์ได้สุดๆ ดังนั้นสิ่งที่ผ่านมาสู่คนดูคือเสียงที่แท้จริงและอารมณ์ที่แท้จริงแบบสุดๆ ซึ่งเมื่อดูจากทีมนักแสดง ฮิวจ์ แจ็คแมน, รัสเซลล์ โครว์, แอนน์ ฮาร์ธาเวย์, อแมนด้า ไซย์ฟรีด พวกเขาคือลำดับต้นๆ ของฮอลลีวูดอยู่แล้วจึงไม่มีอะไรต้องไปกังขาเลยแม้แต่น้อย หรือแม้แต่ทีมนักแสดงชุดเล็กจนถึงชุดใหญ่, เด็กน้อยถึงคนชรา

อีกสิ่งที่ผู้เขียนชอบมากถึงมากที่สุดเหนือจากเพลงแล้วก็คือการกำกับภาพซึ่งผู้ทำหน้ากำกับภาพในหนังก็คือ แดนนี่ โคเฮน (The King's Speech, Johnny English Reborn) ซึ่งการกำกับของ โคเฮน นั่นทำออกมาสวยงามมาก อย่างฉากการแห่ศพของลามาร์คเป็นต้น หรือฉากท้ายเรื่องที่ทำออกมาได้สวยงามเป็นอย่างมากถึงมากที่สุด เสียดายที่ โคเฮน พลาดการเข้าชิงออสการ์ไปอย่างน่าเสียดาย, การกำกับของ ทอม ฮูเปอร์ ถือว่าฮูเปอร์โชคดีที่สุดที่ได้บทภาพยนตร์มาจากวัตถุดิบชั้นเยี่ยมทำให้ไม่แปลกใจกับการกำกับภาพยนตร์ออกมาให้ดีและกินขาดได้ขนาดนี้

สรุป

“LES MISERABLES เป็นหนึ่งในวรรณกรรมชั้นยอด, เป็นละครเวทีที่สุดยอดที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา และนับจากนี้และตลอดไปจะต้องนับ "ภาพยนตร์มิวสิคัล" ที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษเข้าไปอยู่ในประวัติศาสตร์ "เหยื่ออธรรม" ด้วยครับและหากไม่เกินไปหนักนี่คือภาพยนตร์ "ที่ควรมีโอกาศชมในโรงภาพยนตร์" เพราะภาพยนตร์ที่ดีและโอกาศดีขนาดนี้จะมาถึงอีกเมื่อไรก็ไม่รู้และที่แน่ๆ ไม่มาแน่ในทศวรรษหน้าแน่นอน”

ความยาวทั้งหมด 158 นาที

คะแนน 10/10