ARGO / อาร์โก้ แผนฉกฟ้าแลบ ลวงสะท้านโลก
ผู้จัดจำหน่าย : WARNER BROS. PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : GK FILMS, SMOKE HOUSE
ผู้กำกับ : เบน แอฟเฟล็ค (GONE BABY GONE, THE TOWN)
ประเภทของหนัง : DRAMA | THRILLER
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอัธรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
“อาร์โก้ยัดแม่มเถอะ”
หลายคนรู้จัก เบน แอฟเฟล็ค ในฐานะนักแสดงในบทพระเอกหน้าหล่อแต่แสดงดีบ้างไม่ดีบ้างจากหนังหลายๆ เรื่องทั้ง Armageddon, Daredevil, Pearl Harbor และก่อนหน้าจะรู้จักกันในฐานะนักแสดงก็รู้จักกันฐานะคนเขียนบท Good Will Hunting ที่ทำให้เบน แอฟเฟล็ค ได้รางวัลออสการ์ในสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่ก็ถูกครหาว่าคนแต่งและเขียนบทภาพยนตร์จริงๆ คือ แม็ตต์ เดม่อน เพื่อนบ้านที่เป็นเพื่อนซี้ในวัยเด็กที่อยู่และเติบโตขึ้นมาด้วยกัน แต่คำครหานั้นก็เบาบางลงเมื่อ เบน กำกับหนังเรื่อง Gone Baby Gone และในที่สุดคำครหาหายไปเมื่อหนังเรื่อง The Town ออกมา ทำให้เบนกลายเป็นผู้กำกับดาวรุ่งขึ้นมาทันที ซึ่งเบนก็พร้อมแล้วที่จะกลายเป็นผู้กำกับมากฝีมือของจริงกับหนังเรื่องล่าสุดที่สร้างมาจากเรื่องจริง "ARGO"
Argo คือเรื่องราวที่สร้างมาจากเรื่องจริงในปี 1979 ช่วงที่มีการปฏิวัติประเทศอิหร่าน กลุ่มปฏิวัติบุกยึดสถานทูตสหรัฐอเมริกาในกรุงเตหะร่าน มีการจับคนในสถานทูตอเมริกาไว้เป็นตัวประกัน แต่มีชาวอเมริกา 6 คนที่หนีออกไปได้แต่ไม่สามารถออกจากประเทศได้ ทำให้ทั้ง 6 คนต้องไปหลบซ่อนที่บ้านของท่านทูตแคนาดา ทำให้ CIA ต้องหาทางช่วยเหลือ 6 คนนั้นด้วยการหลอกทำหนังและเขาไปในอิหร่านเพื่อช่วยทั้ง 6 คน โดยหนังเก๋เรื่องนั้นมีชื่อว่า "ARGO"
เบน เอฟเฟล็ค กำกับหนังออกมาได้ดีมากครับ เบนกำกับโดยที่ยังอิงเค้าโครงเรื่องจริงเป็นหลัก ในหนังมีการตัดสลับฉากต่างๆ ที่เอาฟุตเทจที่มีคนถ่ายทำไว้ตอนกลุ่มปฏิวัติอิหร่านบุกเขาสถานทูตมาใช้ประกอบหนังในช่วงต้นเรื่อง โดยที่หนังยังคงเค้าโครงเรื่องจริงเป็นหลัก ไม่ได้มีการเล่าเกินเลยออกไป กลุ่มตัวละครที่อยู่ในหนังก็เป็นตัวละครที่มีตัวตนจริง อย่าง จอห์น แชมเบอร์ ที่ได้รางวัลกิตติมศักดิ์สาขาการเมคอัพยอดเยี่ยมจาก Planet of the Apes ฉบับเมื่อปี 1968 (Battle for the Planet of the Apes เองก็เป็นส่วนนึงในการช่วยตัวประกัน) รวมไปถึงบรรดาตัวละครระดับหัวหน้าของ CIA ทั้งหลายด้วบ ทำให้หนังยังคงความเป็นจริงอยู่ยังเกี่ยวข้องกับความเป็นจริงในโลกจริงๆ อยู่ไม่ได้หลุดไปไหนไกล
หนังมีการปูเรื่องให้มีความน่าสนใจตั้งแต่ต้นเรื่อง มีการเล่นกับอารมณ์ก็เป็นส่วนที่ดีที่สุดของหนัง หนังมีอารมณ์ตื้นเต้น, ระทึก, เอาใจช่วย ถึงแม้เราจะรู้อยู่แล้วว่ายังไงกลุ่มตัวประกันกลุ่มนี้ก็รอดจากที่รับรู้มาในหน้าประวัติศาสตร์ แต่หนังบีบอารมณ์คนดูมาได้ถึงขีดสุด ก็อดไม่ได้ครับที่เราจะไม่รู้สึกเอาใจช่วยให้กลุ่มนี้รอดออกไปได้ อาจจะไม่หวือหวาแต่หนังก็เอาคนดูอยู่หมัด ซึ่งอาจเป็นเพราะเราไม่ได้คาดหวังกับหนังตอนไปดูด้วยกเป็นได้ครับ ด้วยความไม่คาดหวังมากทำให้เราดูหนังได้แบบไม่ต้องคิดเรื่องนู้นเรื่องนี้สนใจแต่หนังดูความสนุก แต่ก็อย่างที่บอกหนังทำได้เหนือชั้นและเก็บได้ครบหมดทั้งตื้นเต้น และ ระทึก แถมยังมีมุกตลกที่ยังพออมยิ้มได้มาคลายความตื้นเต้นและระทึกได้
หลายคนอาจจะบอกว่าตัวละครที่ดีที่สุดของหนังก็คือตัวละครของ เบน แอฟเฟล็ค นั้นก็คือ โทนี่ เมนเดซ ใช่ครับตัวละครโทนี่ เมนเดซ คือตัวละครที่แบกรับหนังทั้งเรื่องไว้ได้ครับ แต่ในความคิดของผมตัวละครที่ดีที่สุดในหนังไม่ใช่โทนี่ เมนเดซ แต่เป็นบรรดาตัวละครทั้ง 6 คนที่เป็นตัวประกันที่ผมยอมรับว่าเป็นการแสดงที่ช่วยหนังได้มากโดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงกลางเรื่องเป็นต้นไปตัวละครกลุ่มนี้ก็สามารถแบกรับหนังไว้ได้เหมือนอย่างโทนี่ เมนเดซ ซึ่งในช่วงท้ายเรื่องยิ่งไม่ต้องพูดถึงแทบจะกลายเป็นกลุ่มตัวละครที่น่าจดจำได้ดีเลย นอกจากนี้ตัวละครของ จอห์น แชมเบอร์, เลสเตอร์ ซีเกล ที่มีความสำคัญในช่วงก่อนกลางเรื่องก็เป็นตัวละครที่น่าจดจำอย่างมากครับ
ดังนั้นถ้าบอกว่าเป็นตัวละครที่ดีแล้วจะไม่ยกย่องนักแสดงก็ไม่ได้ การแสดงของ เบน แอฟเฟล็ค อาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนักเพราะตัวละครนั้นเด่นเกินหน้าเกินตานักแสดง คือตัวละครเด่นจนไม่สนใจนักแสดงที่แสดง ที่เด่นจริงๆ ก็คือบรรดาตัวประกันทั้ง 6 ทั้งตัวละครและนักแสดงเหมือนเป็นคนเดียวกันคือเราจดจำตัวละครได้และก็จดจำนักแสดงได้เพราะการแสดงนั้นเยี่ยมจนต้องยกนิ้วให้จริงๆ ครับ, การกำกับของ เบน แอฟเฟล็ค ดีขึ้นกว่าตอน The Town อย่างเห็นได้ชัดครับใน The Town หนังยังมีช่วงรู้สึกเบื่อครับ แต่ใน Argo ไม่มีช่วงเบื่อจริงๆ ครับ อย่างที่บอกมีความระทึก ติ้นเต้น เนื้อเรื่องดี ปูบทเยี่ยม สรุปคือ หนัง "เอาอยู่" ครับ
หากเราจะเห็น เบน ขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีออสการ์เราก็ไม่แปลกใจครับ เพราะตอนนี้เบน แอฟเฟล็ค คือ "ตัวจริง" ในฐานะผู้กำกับมากฝีมือแล้ว คือสามารถบอกปู่คลินท์ อิสต์วู้ด ได้เลยว่าปู่มีทายาทในตำแหน่งนี้แล้วเรียบร้อยครับ ยิ่งเห็นการกำกับใน Argo แล้วยิ่งอยากให้ข่าวลือที่ว่า เบน จะกำกับ Justice League เป็นจริงขึ้นมาทันทีครับ เพราะจาก The Town และ Argo (ส่วน Gone Baby Gone ไม่เคยดู) เบน น่าจะคุมหนังที่เป็นทีมได้ดีมากครับ ยิ่งอยากให้ไม่เป็นข่าวลือไปกันใหญ่ เสียดายมากๆ
สรุป
“ARGO เป็นหนังที่ครบเครื่องดูสนุกคุ้มค่าทุกนาทีได้ดูครับ มีความระทึก ตื้นเต้น อารมณ์ดราม่าอยู่ในปริมาณที่พอดิบพอดี มีการบีบอารมณ์ที่ทำให้เรารู้สึกไปกับหนังได้ นักแสดงเล่นกันได้ดีกันทุกคน มีความน่าจดจำ การกำกับของ เบน แอฟเฟล็ค คือ ของจริง ผู้กำกับมากฝีมือตัวจริง”
ความยาวทั้งหมด 120 นาที
คะแนน 10/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น