วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

HUGO


HUGO / ปริศนามนุษย์กลของอูโก้


(20/02/2012) - 240 BATH

ผู้จัดจำหน่าย : PARAMOUNT PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : PARAMOUNT PICTURES & GK FILMS
ผู้กำกับ : มาร์ติน สกอร์เซซี่ (GANGS OF NEW YORK, THE DEPARTED)
ผู้อำนวยการสร้าง : จอห์นนี่ เด็ปป์
ประเภทของหนัง : ADVENTURE | DRAMA | FAMILY

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอัธรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“ผมมายืนอยู่ตรงนี้ได้ เพราะเด็กหนุ่มที่กล้าหาญคนนึง 
ที่ซ่อมหัวใจของหุ่นยนต์ที่พังแล้ว ด้วยเวทมนทร์แบบเด็กๆ ของเขา”


ผลงานที่มีโอกาศได้เข้าชิง ออสการ์ประจำปีนี้ถึง 11 สาขา อาทิ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม อีกทั้งยังไปคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม อีกด้วย, และเมื่อหนังนั้นได้มีโอกาศฉายในไทยแล้วทั้งที ก็ต้องลงทุนหนักๆ ไปดูซะหน่อย แบบ 3มิติ (เกือบจะไม่ได้ฉายในไทยอยู่แล้วเนื่องจากสาเหตุหลายประการนี่ถือว่าคนไทยโชคดีมากๆ เพราะถ้าหนังไม่ได้ชิงออสการ์ 11 บ้านเราคงอดดูไปแล้ว)


HUGO ถูกสร้างมาจากหนังสือนิยายวรรณกรรมเยาวชน (จริงๆ น่าจะเรียกว่านิยายภาพมากกว่า นิยาย เพราะตอนเป็นหนังสือ จะเป็นการอ่านแบบตัวหนังสือและภาพไปแบบควบคู่กัน) "The Invention of HUGO CABRET" โดยจากปลายปากกาและดินสอของ ไบรอัน เซลสนิค (หนังสือมีขายในไทยมานานแล้ว ส่วนผมยังตามล่าหนังสือเรื่องนี้มา 4-5 เดือนแล้วยังหาซื้อไม่ได้ซักที ใคนเจอว่าขายที่ใหนบอกกันหน่อยเน้อ) ในชื่อไทยว่า "ปริศนามนุษย์กลของ อูโก้ กาเบรต์" และเมื่อพอถูกทำเป็นภาพยนตร์ก็ได้ผู้กำกับชั้นครูอย่าง คุณลุงมาร์ตี้ มาร์ติน สกอร์เซซี่ ที่กระโดดลงมาทำกำกับด้วยเหตุผลที่ว่า ลุงชอบหนังสือเรื่องนี้ และลุงอยากกำกับหนังที่จะให้ลูกสาวได้ดูแบบไม่มีพิษไม่มีภัย แต่ HUGO ก็เหมือนถูกหวยหลายชั้นมากที่ได้คนที่รักในหนังสือมากำกับ และเคารพต่อนิยายมาก, เอาละเกริ่นมาเยอะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า


HUGO เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มนามว่า อูโก้ กาเบรต์ เด็กหนุ่มที่กำพร้าพ่อแม่ และต้องมาอยู่ในการดูแลของลุง และต้องแอบหลบๆ ซ่อน และขโมยของ เพื่อไปซ่อมตุ๊กตามนุษย์กล สมบัติชิ้นสุดท้ายของพ่อที่หลงเหลือไว้ก่อนที่ พ่อของเขาจะถูกไฟคลอกเสียชีวิต อีกทั้งอูโก้ยังต้องหลบ นายตรวจสถานีรถไฟที่เข้มงวด (ซาช่า บารอน โคเฮน) และเมื่ออูโก้ได้พบเจอเด็กสาวที่ชื่อว่า อิซาเบล เด็กสาวที่ทำตัวเป็นปริศนาที่มีสิ่งที่จะทำให้ตุ๊กตากลของอูโก้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง หลานสองของ จอร์จ เมลิเย่ส์ ชายแก่เจ้าของร้านขายของเล่นที่มีปริศนาอันยิ่งใหญ่เก็บไว้ และทั้งหมดนี้จะนำพาอูโก้ไปสู่ สิ่งที่ยิ่งใหญ่และซาบซึ่ง และเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล


HUGO คือภาพยนตร์ที่ต้องยอมรับว่า เป็นหนังไม่กี่เรื่องในโลกที่สมบูรณ์แบบในทุกๆ ด้าน เพราะไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องที่สุดยอดนั้น และเรียกน้ำตาและความประทับใจได้อย่างยิ่งใหญ่แล้ว เนื้อเรื่องของหนังก็ไม่มีพิษไม่มีภัยและยังให้สิ่งที่ดีๆ แก่คนดูแล้ว สิ่งที่หนังต้องการจะสื่อถึงคนดูมากที่สุดและเชื่อมโยงมากที่สุด ก็คือ 


ความฝัน ความสำคัญของวงการและเคารพและบอกเล่าคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหลายในภาพยนตร์ ดูจะได้จากการที่หนัง (นิยาย) เอาบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์และสำคัญต่อวงการภาพยนตร์อย่าง จอร์จ เมลิเย่ส์ (Georges Méliès) มาอยู่ในเนื้อเรื่องด้วยและให้ความสำคัญอย่างมากจากที่ดูไม่สำคัญในตอนแรกเท่าไร ต่อมาได้กลายเป็นตัวละครที่สำคัญที่สุดในเรื่อง และหนังยังค่อยบอกความลับของชายๆ ผู้นี้ที่มีความลับอยู่ในตอนต้น 


และ จอร์จ เมลิเย่ส์ ก็คือบุรุษที่มีความสำคัญต่อสิ่งที่เรียกว่า "ภาพยนตร์" และ จอร์จ เมลิเย่ส์ ก็คือบุรุษที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนในวงการนี้ อย่างเช่นมีคำๆ นึงที่พูดออกมาจากปากของ จอร์จ เมลิเย่ส์ ว่า "ความฝันนั้นมีอยู่รอบตัวเรา" (ดูได้จากสิ่งที่ เมลิเย่ส์ ก่อนที่จะทำภาพยนตร์) ที่พูดกับเด็กชายคนนึง ซึ่งต่อมาคำๆ พูดนั้นมีความสำคัญต่อชายหนุ่มคนนั้นมาก ที่ต่อมาเขาได้กลายเป็นคนที่ทำเพื่อวงการ "ภาพยนตร์" 
และทำเพื่อตัว "จอร์จ เมลิเย่ส์"



จอร์จ เมลิเย่ส ก็คือบุคคลที่เรียกได้ว่า เขาคือ บิดาแห่งวงการภาพยนตร์และเทคนิคภาพยนตร์อย่างแท้จริง ทั้งที่จะเจอปัญหาอย่างไรในชีวิตมาก็ตาม สิ่งที่เขายังรักและคิดถึงอยู๋เสมอก็คือ การรักในภาพยนตร์ ดูได้อย่างคำพูดที่เขาพูดในตอนท้ายๆ ของหนังได้ และถ้าหากใครอยากดูหนังที่ จอร์จ เมลิเย่ส์ กำกับและหนังที่ HUGO เอาไปนำเสนอเป็นหลักอย่าง A TRIP TO THE MOON แค่นี้ก็บอกถึงความยิ่งใหญ่ของเขาแล้ว และจากที่ผมบอกมาทั้งหมดแบบมีสาระบ้าง ไม่มีบ้าง จะกล่าวอย่างง่ายก็คือ 


"สิ่งๆ นึงที่จะเติมเต็มความฝันของคุณก็คือสิ่งที่เรียกว่า ภาพยนตร์" เพราะถ้าหากเป็นคนทั่วไปแล้ว HUGO ก็คือหนังที่ธรรมดาให้ความสุขแบบทั่วไป แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่รักในภาพยนตร์แล้ว HUGO ก็คือหนังที่จะต้องติดตาตรึงใจไปตราบนานเท่านาน


ทางด้านนักแสดงของเรื่องขอเน้นๆ และง่ายๆ คือ เจ้าหนู อาซ่า บัตเตอร์ฟิลด์ นั้นเล่นดีมาก
ๆ ทั้งแววตา น้ำเสียงและการแสดง ส่วนน้องนู โคลอี้ มอเร๊ตซ์ (Heat Girl จาก KICK-ASS) แสดงได้น่ารักและเคมีเข้ากับเจ้าหนู อาซ่า มากๆ และน่าจับตาดูอนาคตทั้งสองคนนี้ต่อไป ส่วนลุง เบน คิงส์ลี่ย์ ลุงแสดงได้มากๆ ทั้งน่ารัก และ ดูเศร้าสร้อยได้ตลอด และ เข้ากันกับเคมีของนักแสดงคนอื่นๆ อย่างกลมกลื่น สรุปเลยว่านักแสดงในเรื่องสามารถเล่นได้ถึงบทบาทของตนเอง และ เล่นเข้ากันในทุกจังหวะที่ต้องเล่น รวมไปถึงเจ้าหมาที่ แม็กซิมิเลียน ในเรื่องด้วย อ่อ รวมถึง จู๊ด ลอว์ ที่มาเป็นแขกรับเชิญด้วยบทของพ่ออูโก้


มาร์ติน สกอร์เซซี่ อย่างที่บอกเหตุผลในการมากำกับ HUGO ในตอนแรกแล้ว ลุงมาร์ตี้ คิดถูกมากๆ แล้วที่มาเปลี่ยนแนวมากำกับหนังแบบนี้ เพราะลุง กำกับได้อย่างยอดเยี่ยม ลึกซึ่งและกินใจ คนดูอย่างมาก และก็ใช้ทรัพยากรต่างๆ ได้คุ้มค่าทั้งดนตรประกอบ ภาพที่สวยงาม มุมกล้องที่ดุสุดยอดสวยงาม และตกตะลึงไปกับสิ่งที่เรียกว่า ภาพยนตร์ 3 มิติ ขนาดเจ้าพ่อหนัง 3มิติอย่าง เจมส์ คาเมรอน ยังบอกเลยว่านี่คือหนัง 3มิติที่ดีที่สุด ดังนั้นเมื่อได้ไป พิสูจน์มาแล้วก็ขอบอกเลยว่าดีที่สุดจริงๆ ครับ ฟันเฟืองยักษ์ หิมะลอย หรือ นครปารีส ที่ดูจับต้องได้และเหมือนอยู่ตรงหน้าจริงๆ อย่างนั้น HUGO เป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูแบบ 3มิติ และ HUGO จึงเป็นหนังที่ควรดูแบบ 3มิติในโรงภาพยนต์อย่างแท้จริง

คนเราเกิดมาเพื่อต้องทำอะไรซักอย่าง

และจากที่กล่าวมาทั้งหมดก็คือ HUGO เป็นหนังที่เคารพวงการภาพยนตร์และบอกเล่าความเป็นมาของวงการภาพยนตร์ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไรที่ HUGO มีโอกาศชิง OSCAR ถึง 11 สาขาและผมเชื่อว่า HUGO จะต้องกวาดมาอย่างน้อยก็ 5-6 รางวัลชัวร์ๆ และรางวัลใหญ่ของงานอย่าง สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม ไม่น่าจะพลาดรางวัลนี้แน่ๆ

โปสเตอร์โปรโมทการได้เข้าชิง Oscar 11 สาขา
สรุป
จดหมายคารวะและเคารพ, จดหมายขอบคุณวงการ “ภาพยนตร์” และขอบคุณคนดูคนที่รักในภาพยนตร์ ขอบคุณและยกย่องคนที่อยู่เบื้องหลัง คนที่มีความสำคัญต่อสิ่งที่คุณรักและต่อความฝันของคุณ คนที่ยิ่งใหญ่ คนแห่งโลกภาพยนตร์ “ความฝันอยู่รอบตัวคุณ เสนห์แห่งวงการภาพยนตร์”


ความยาวทั้งหมด 126 นาที
คะแนน 100/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger