MADAGASCAR 3: EUROPE'S MOST WANTED / มาดากัสการ์ 3 ข้ามป่าไปซ่าส์ยุโรป
(07/06/2012) - 170 BATH
ผู้จัดจำหน่าย : PARAMOUNT PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : DREAMWORKS ANIMATION
ผู้กำกับ : อีริค ดาร์เนลล์, ทอม แม็คเกรธ, คอนราด เวอร์นอน
(MADAGASCAR, MADAGASCAR : ESCAPE 2 AFRICA)
ประเภทของหนัง : ANIMATION | ADVENTURE | COMEDY
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอัธรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
“ถึงนายจะหมดศรัทธาในตัวเอง แต่สหายไม่หมดศรัทธาในตัวนาย”
หลังจากประสบความสำเร็จมากๆ ไปทั้ง ภาค 1 และ ภาค 2 ของผองสัตว์สุดฮาแห่งหนังอนิเมชั่นลายเส้นแบบเด็กๆ ทั้ง สิงโต อเล็กซ์, ท้าลาย มาร์ตี้, ฮิปโป กลอเรีย และ ยีราฟ เมลแมน ที่ภาคแรกไปผจญภัยกันที่ มาดากาสการ์ และภาคสอง ไปผจญภัยกันที่ แอฟริกา ที่สร้างเสียงฮาและเก็บเงินไปมากมาย คราวนี้ผองสัตว์สุดฮาทั้ง 4 และคิงจูเลี่ยน แหล่าบรรดาเพนกวินสุดฮา ได้กลับมาอีกครั้งในภาคที่ 3 ที่คราวนี้ขอไปซ่าส์กันถึง ยุโรป ในภาคที่ 3 ของมาดากาสการ์ โดยคราวนี้ผองเพื่อนทั้ง 4 ต้อนหนีจากการไล่ล่าของ กัปตันดูบัวร์ โดยไปอาศัยคณะละครสัตว์ซาราโกซ่า เพื่อจะหางทางกลับบ้านของเขาสวนสัตว์เซนทรัลปาร์ค นิวยอร์ค
คือต้องบอกก่อนว่าหนังอนิเมชั่นมาดากาสการ์เอาจริงๆ ทั้ง ภาค 1 และ 2 คืองานที่แหวกกฏของอนิเมชั่นยุคสมัยใหม่ นั้นก็คือการไม่ต้องไปสนใจเนื้อเรื่องเลย เน้นปล่อยมุกฮาอย่างเดียว เอาสนุก แต่สอดแทรกเรื่องราวมิตรภาพระหว่างเพื่อนทั้ง 4 ไว้ แถมลายเส้นก็แบบเด็กๆ นั้นคือเหตุผลที่ทำให้หนังประสบความสำเร็จ ถึงกับมีภาคแยกให้กับตัวเพนกวินจอมขโมยซีน กันเลย แต่มีนอกลู่นอกทางไปหน่อยในภาค 2 ที่ไปสนใจจะทำให้หนังมีน้ำหนักในทางเนื้อเรื่องมากขึ้น แต่สำหรับในภาคที่ 3 นั้นหนังได้กลับมาเข้าสู่เส้นทางเดิมแล้วนั้นก็คือเน้นปล่อยมุกฮาโดยไม่สนใจอะไรเลยในเนื้อเรื่อง แต่ก็ยังคงเรื่องราวมิตรภาพเอาไว้
ซึ่งในภาค 3 มุกตลกนั้นในความคิดผมนั้นก็ฮากว่าภาค 1 และ 2 รวมกันอีกนะครับ แถมหนังก็ดูสนุกพอๆ กับภาค 1 อีกด้วยแถมมีอะไรๆ ที่แหวกแนวกว่าภาค 1 และ 2 ด้วย (มีที่ใหนกันละ เครื่องบินวาร์ปได้ หรือ หมีขับมอเตอร์ไซค์ดูคาติ) เพราะการใส่คณะละครสัตว์เข้ามาก็ช่วยให้หนังมีสีสันมากขึ้นไปอีก แถมยังไปเสริมมุกให้ฮามากขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว แต่ด้วยการใส่ขณะละครสัตว์เข้ามานอกจากจะช่วยเพิ่มสีสันแล้ว คณะละครสัตว์ยังเป็นส่วนช่วยให้พองเพื่อนทั้ง 4 นั้นหาตัวตนที่แท้จริงให้กับตัวเองได้ ซึ่งการค้นหาตัวเองของผองเพื่อนทั้ง 4 นั้นคือส่วนที่ดีที่สุดในการใส่พวกเขามามากๆ คือไม่ได้เล่นกับความเป็นเพื่อนกันของทั้ง 4 อย่างเดียว คือมีอะไรใหม่ๆ ใส่เข้ามาด้วย
แต่การใส่พวกเขาเข้ามาเป็นส่วนนึงในภาคนี้ก็อาจจะทำให้แฟนๆ (อย่างผมเป็นต้น) ของมาดากาสการ์อาจจะทำใจไม่ได้กับเรื่องราวของพวกเขา “เพราะจะทำให้หนังปิดตำนานการหาทางกลับบ้านได้ซักที?” ซึ่งนั้นอาจจะหมายถึงการจบซี่รีย์หนังมาดากาสการ์ไปด้วย เพราะทุกอย่างในหนังจะเคลียร์ เพราะทุกอย่างจบลงอย่างแฮปปี้นั้นเอง แถมยังเล่นมีการเล่นมุกในภาค 1 ด้วยในตอนจบที่ส่ง .... ไปยังมาดากาสการ์ แต่สำหรับที่ขโมยซีนที่สุดในภาคนี้และทุกภาคก็คือ เพนกวิน และคิงจูเลี่ยน, หนังภาคนี้ดีมากอีกอย่างคือการใส่เพลงประกอบลงมาได้ดีครับ อย่างเพลง Fireworks ของ Katy Perry แถมเมื่อหนังได้ผู้กำกับที่เคยกำกับภาค 1 และ 2 อย่าง อีริค ดาร์เนลล์, ทอม แม็คเกรธ, คอนราด เวอร์นอน มาช่วยกันกำกับภาค ที่ 3 จึงทำให้งานนี้เป็นงานที่ดีที่สุดจริงๆ
สรุป
“ด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่ตลอดเวลาการดูไม่อยากให้หนังจบเลย ผสมกับหนังนั้น ฮามาก ฮามากมาย ฮาจนไม่อยากให้หนังจบไปเลยครับ ด้วยเหตุผลนี้ถ้าหากภาค 3 เป็นจะเป็นภาคสุดท้ายของมาดากาสการ์ หนังจะเป็นการจบที่ดีมากๆ แต่ด้วยเหตุผลนั้นอีกละ ถ้าหากหนังภาค 3 จะไม่เป็นภาคสุดท้ายของมาดากาสการ์ นั้นจะเป็นงานที่ดีกว่ามากๆ และสำหรับใน 3 ภาคทั้งหมดภาคนี้คือภาคที่ดีที่สุดครับ และเป็นงานที่มอบความสุขเต็มๆ”
ความยาวทั้งหมด 85 นาที
คะแนน 9/10
------------------------------------------------------------------
ใครที่ชอบอัพเดทข่าวสารวงการหนังขออนุญาติฝากแฟนเพจ KURENAI MOVIE ไว้ด้วยนะครับ มาอัพเดทข่าวสาร หรือ พูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์ แบบมีสาระบ้างไม่มีสาระบ้าง อัพเดทแบบไม่ให้ตกข่าวกันเลยครับ อย่าลืมมากด Like กันนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น