วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2556

UPSIDE DOWN


UPSIDE DOWN / นิยามรักปฏิวัติสองโลก


ผู้จัดจำหน่าย : MILLENNIUM ENTERTAINMENT
สตูดิโอผู้สร้าง : JOUROR PRODUCTIONS, STUDIO 37
ผู้กำกับ : ฆวน ดีเอโก้ โซโลนาส
ประเภทของหนัง : DRAMA | ROMANTIC | SCI-FI

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“หนังรักไซไฟที่ไอเดียเก๋ แต่น้ำเน่ายังไม่พอ”


UPSIDE DOWN หนังไซไฟดราม่าโรแมนติคสัญชาติฝรั่งเศษและแคนาดาของผู้กำกับ "ฆวน ดีเอโก้ โซโลนาส" ที่หนังมีไอเดียเก๋กับการกำหนดโลกสมมติขึ้นมาที่ให้มี 2 ดินแดนด้านล่างและด้านบนในโลกเดียวโดยมีสิ่งที่เชื่อมโยงสองโลกไว้ก็คือบริษัททรานส์เวิลด์ โดยวางเรื่องราวให้เป็นหนังรักที่เด็กหนุ่มจากด้านล่าง "อดัม" บังเอิญได้พบเจอกับ "อีเด็น" เด็กสาวจากโลกเบื้องบนทั้ง 2 พบเจอตกหลุมรักกันแต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อการแอบพบเจอทั้ง 2 คนถูกพบเจอจนเป็นเหตุทำให้อีเด็นต้องความจำเสื่อม!! วันเวลาผ่านไป 10 ปีทั้งสองเติบโตโชคชะตาของทั้งสองพบเจอกันบังเอิญแต่ชะตากรรมและโชคชะตากำลังเปลี่ยนเพราะแรงโน้มถ่วงเป็นเพียงส่วนประกอบเพราะต้องใช้ใจฝ่าฟันเพื่อหารักแท้

หนังขึ้นชื่อเป็นธีมหลักว่าเป็น "หนังรักโรแมนติก"  ที่โชคชะตาหรือแม้แต่แรงโน้มถ่วงก็มาขวางกันไม่ได้ประมาณรักอมตะของ โรมีโอและจูเลียต อะไรประมาณนั้นกันเลยทีเดียวแต่เมื่อหนังตีตราว่าเป็นหนังรักโรแมนติคการกระทำของตัวละครไม่สามารถแสดงและสื่อคำว่า โรแมนติค ออกมาได้ถ้าจะให้เรียกง่ายๆ ตามภาษาบ้านเราก็คือหนังยังน้ำเน่าได้ไม่พอนั้นเองอะไรประมาณนี้ การกระทำของตัวอดัมและอีเด็นยังสื่อคำว่าโรแมนติคออกมาไม่ได้ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะเนื้อเรื่องที่คิดจะโชว์ไอเดียล้ำเกินตัวหนังและเน้นหลักวิทยาศาสตร์อะไรประมาณนี้มากไป และไปจดจ่อกับหลักวิทยาศาสตร์มากไป แถมเมื่อหนังจดจ่อกับหลักการต่างๆ ในเรื่องหนังก็ไม่สามารถที่จะอธิบายเรื่องราวให้กระจ่างชัดออกมาได้

ดูเป็นเหตุผลลอยๆ ไร้หลักแหล่งไร้ส่วนที่จะรองรับเรื่องราว และตัวละครก็ไม่สามารถรองรับหลักเหตุผลของหนังที่จะพยายามสื่อได้ แม้แต่ตัวอดัมเองที่คิดค้นหลักการต้านแรงโน้มถ่วงตัวหนังก็เหมือนลืมและไม่สนใจและพยายามจะหาทางนำทางไปสู่บทสรุปของหนังอย่างเดียว ซึ่งถือว่าการนำเสนอไอเดียล้ำ กิ๊บเก๋แต่ห่างปราศจากจุดรองรับหนังก็ดูไม่ค่อยสนุก แต่ถ้าไอเดียนี้ถูกนำเสนอโดยปราศจากความเป็นหนังรักแล้ว นี่อาจจะเป็นหนังไซไฟวิทยาศาสตร์ที่ดีมากๆ ได้อีกเรื่องนึง ประมาณ Total Recall ฉบับปี 1990 และ 2012 รวมกันก็เป็นได้ แถมหนังที่พยายามใส่อดีตของตัวละครไว้จากช่วงแรกของหนังนั้นก็คือ อีเด็น ให้ความจำเสื่อมหนังก็ดูไม่สนใจบังเอิญอยากจะให้นึกออกก็นึกได้ซะอย่างนั้นนี่จึงเป็นจุดเสียของหนังที่ไม่สนใจสิ่งที่ปูทางไว้และหันไปสนใจสิ่งอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต่อธีมเรื่อง


ที่จะยกให้เป็นส่วนดีของหนังที่ไม่นับไอเดียสุดเก๋กล้านำเสนออย่างโลก 2 โลกในโลกเดียวด้านบนและล่าง สิ่งที่พอจะกู้หน้าให้แก่หนังได้คงไม่พ้น "จิม สเตอร์เจสส์" ว่าที่ผู้รับบทสตาร์-ลอร์ดใน Guardians of the Galaxy ที่สเตอร์เจสส์นำความสามารถที่เหนือมากๆ มาแบกรับส่วนที่เป็นจุดด้อยๆ ต่างๆ ของหนังได้แน่นอนว่าไม่สามารถแบกรับได้ทั้งเรื่องแต่โดยรวมก็ยังพอถ่วงไม่ให้หนังพังทลายไปได้ และอีกอย่างที่ดูจะแบกรับหนังไว้ได้คงไม่พ้นเพลงสกอร์ประกอบที่ประพันธ์โดย เบอนัวต์ ชาเรสต์ ที่ทำออกมาได้ยิ่งใหญ่และขนลุกที่หากหลับตาฟังอาจจะนึกว่าเป็นหนังเอพิคฟอร์มยักษ์บล็อคบัสเตอร์ออกฉายซัมเมอร์ก็เป็นได้ แต่เมื่อลืมดนตรีประกอบกับเนื้อเรื่องมันไปคนละทางกันมาก

ซึ่งผู้กำกับ ฆวน ดีเอโก้ โซโลนาส ผู้กำกับชาวอาร์เจนติน่าที่ต้องยอมรับเลยว่าไอเดียของเขาเหนือล้ำมากแต่กับการสื่อออกมาให้ดีเป็นจุดผิดพลาดสำคัญเพราะหนังนำเสนออกกมาได้ไม่ได้เท่าที่ควรถ้าจะเรียกให้ถูกก็คือไร้จุดยืนแต่ก็อย่างที่ไอเดียเก๋แต่ดำเนินเนื้อเรื่องแย่ก็เป็นได้แค่หนังธรรมดาแต่โซโลนาสอาจจะไปสนใจที่เอฟเฟกต์และมุมกล้องที่เน้นบนล่างสลับขั่วซึ่งถือว่าทำออกมาได้ดีและสวยมากๆ ซึ่งโดยรวมแล้ว UPSIDE DOWN เป็นหนัง “ที่มีไอเดียดีประมาณ Looper แต่ขาดการดำเนินเรื่องที่สนุกและขาดหัวใจสำคัญของเรื่องที่ไร้หลัก แต่หนังโชคดีที่ได้ จิม สเตอร์เจสส์ ช่วยไว้ ซึ่งโดยรวมแล้ว Upside Down เป็นหนังที่กลางๆ ไม่เด่นมากแต่ก็ไม่แย่จนดูไม่ได้ครับ”


ความยาวทั้งหมด 107 นาที
คะแนน 6.5/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger