THE MASTER

THE MASTER / เดอะ มาสเตอร์ บารมีสมองเพชร

ผู้จัดจำหน่าย : THE WEINSTEIN COMPANY

สตูดิโอผู้สร้าง : THE WEINSTEIN COMPANY, ANNAPURNA PICTURES

ผู้กำกับ : พอล โธมัส แอนเดอร์สัน (MAGNOLIA, THERE WILL BE BLOOD)

ประเภทของหนัง : DRAMA

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง

อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง

“ไม่เข้าใจเนื้อเรื่อง แต่การแสดงของนักแสดงคือสิ่งสุดยอดที่สุด”

THE MASTER หากแปลตรงตัวก็คือหมายถึงคนที่รู้อะไรแบบเชี่ยวชาญรู้อะไรในทางที่ตัวเองรับรู้แบบถึงแก่น ซึ่งคำว่า "The Master" ก็เหมาะสมอย่างมากที่จะเป็นหนังเรื่องใหม่ของ "พอล โธมัส แอนเดอร์สัน" ที่ว่ากันด้วยเรื่องราวดราม่าของลัทธิที่ทำหน้าที่บำบัดเบื้องลึกในจิตใจด้วยหลักการของลัทธิทั้งสะกตจิตหรือหลักทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งหนังนั้นเรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่หลายปี โดยหลักๆ นั้นจะอยู่ในปี 1950 ที่ทหารที่ไปสู้รบจากสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นมีการอาการทางจิตและไม่ปกติ ซึ่งตัวละครที่ว่าก็คือ "เฟร็ดดี้ เคว็ล" ชายหนุ่มที่บังเอิญแอบไปขึ้นเรือแล้วพบกับมาสเตอร์ที่เป็นชื่อเรื่องซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญของเรื่องอย่าง "แลงคาสเตอร์ ด็อดด์" ทั้งคู่เกิดความสนิทสนมจนด็อดด์ดูแลเฟร็ดดี้เป็นเหมือนอีกคนในครอบครัว

แต่เฟร็ดดี้ในอีกทางนึงก็เหมือนเป็นเครื่องมือทดลองที่ทางด็อดด์นำมาใช้เพื่อพิสูจน์หลักการของลัทธิซึ่งดูในอีกแบบจะเรียกว่าศิษย์และอาจารย์ก็เป็นได้เพราะอย่างนั้นเอง THE MASTER ก็มีนัยยะอีกทางที่แสดงถึงลูกศิษย์ (เฟร็ดดี้) และ อาจารย์ (ด็อดด์) ได้เช่นกัน ซึ่งตัวหนังนั้นแน่นอนว่าจะว่ากันด้วยเรื่องของลัทธิอย่างที่บอกไปซึ่งตัวหนังทำออกมาไม่ค่อยเข้าใจซักเท่าไร ไม่ว่าด้วยการที่เราไม่นับถือลัทธิหรือเปล่าหรือว่าเรานับถือศาสนาก็เป็นได้ แถมการสะกดจิตเราก็ยังไม่เคยทดลอง ทำให้เราไม่สามารถก้าวเข้าไปสู่โลกของหนังได้อย่างเท่าที่ควร แต่ก็ต้องยอมรับหนังนั้นนำเสนอและถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดีในด้านความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่อง แม้จะไม่เข้าใจนัยยะที่อยู่ในตัวหนังเลยก็ตามที ซึ่งหากจะอธิบายต่อไปก็จะวุ่นวายเปล่าๆ สำหรับตัวนัยยะที่หนังนั้นมี เพราะต้องขอยอมรับไม่เข้าใจจริงๆ

แต่ก็อย่างที่บอกแล้วว่าหนังถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์การพัฒนาของตัวละครออกมาได้ดี ทั้งตัวละครของทั้ง ฟีนิกซ์ และ ฮอฟฟ์แมน นั้นก็คือ เฟร็ดดี้ และ ด็อดด์ จากตอนแรกที่เป็นเจอหน้ากันครั้งแรกก็มีเรื่องวางมวยกันซะแล้ว แต่เรื่องราวต่อมาก็คือเฟร็ดดี้หลุดไปบนเรือของด็อดด์หลังจากนั้นก็เข้าสู่ความสนุกที่เข้าใจมากกว่าเนื้อเรื่องกับการได้ดูตัวละครทั้งสองพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความสนุกอีกอย่างที่ทำให้ความสัมพันธ์ของตัวละครเด่นชัดขึ้นไปอีกก็คือการแสดงที่เข้าขากันและมีเคมีที่ลงตัวแบบสุดๆ ของ โจอาคิน ฟีนิกซ์ และ ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน ที่นอกจากจะแสดงเข้าขากันแล้วอีกหนึ่งประกอบสำคัญก็คือ เอมี่ อดัมส์ ที่มาส่งเสริมตัวละครของนำชายทั้งสองให้โดดเด่นขึ้นไปอีก

จนเรียกได้ว่านี่อาจจะเป็นการแสดงที่โดดเด่นที่สุดในรอบปีก็เป็นได้ซึ่งเราไม่แปลกใจเลยหากในเวทีรางวัลต่างๆ ทั้งคู่ในบทนำเดี่ยวและสมทบชายและหญิงจะเดินขึ้นคว้ารางวัลในสถาบันต่างๆ มาครองได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งตัว The Master นั้น พอล โธมัส แอนเดอร์สัน หากไม่นับเรื่องถ่ายทอดออกมาค่อยเข้าใจเท่าไรทิ้งไป และมาดูเรื่องภาพหรือการใช้เพลงประกอบแทนถือว่า แอนเดอร์สัน สอบผ่านอย่างสบายๆ แต่ก็แอบเสียดายเหมือนกันหากหนังถ่ายทอดออกมาได้เข้าใจและไม่ทิ้งเครื่องหมายคำถามให้ไม่เข้าใจและเคลียร์คำตอบทุกอย่างในหนังให้เคลียร์ไม่แน่หนังอาจจะดูยิ่งใหญ่มากขึ้นกว่านี้

ปล. ขออภัยหากอ่านแล้วไม่เข้าใจ เพราะคนเขียนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองเขียนอะไรลงไป

สรุป

“THE MASTER แม้อาจจะถ่ายทอดเรื่องราวในออกมาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่ต้องยอมรับว่าด้านความสัมพันธ์ตัวละครหนังทำออกมาได้ดีจริงๆ ยิ่งการมีสุดยอดการแสดงของ โจอาคิน ฟีนิกซ์, ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน, เอมี่ อดัมส์ ยิ่งสุดยอดเข้าไปอีก โดยรวมแล้วหากหนังเคลียร์ให้เข้าใจกว่านี้หนังจะเป็นหนังระดับห้าดาวในทันที”