HOTEL TRANSYLVANIA / โรงแรมผี หนีไปพักร้อน
ผู้จัดจำหน่าย : SONY PICTURES, COLUMBIA PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : SONY PICTURES ANIMATION
ผู้กำกับ : เกนน์ดี้ ทาร์ทาคอฟสกี้ (DEXTOR'S LABORATORY, SAMURAI JACK)
ประเภทของหนัง : ANIMATION | COMEDY | FANTASY
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
“อนิเมชั่นเรื่องราวความรักพ่อลูกที่มีความสนุกเป็นจุดขาย”
ทำเงินในอเมริกาไปอย่างถล่มทลายจนทางโซนี่สั่งเดินหน้าสร้างภาคที่สองไปแล้วเรียบร้อยสำหรับ Hotel Transylvania ที่ในประเทศไทยหนังเคยเลื่อนฉายมาแล้วรอบนึงจนนึกว่าจะพบชะตาเดียวกันกับ ParaNorman แต่ในที่สุดโซนี่ก็หาวันฉายได้ซึ่งหนังก็เลือกลงวันที่ 5 ธันวาคมวันพ่อแห่งชาตินั่นเองช่างเหมาะเจาะกับธีมของเรื่องดีแท้ ซึ่งตัว Hotel Transylvania เป็นอนิเมชั่นของสตูดิโอลูกของโซนี่อย่าง โซนี่ อนิเมชั่น ซึ่งผลงานที่ผ่านตามาก็อย่าง The Smurfs เป็นต้นซึ่งสำหรับ Hotel Transylvania ก็เป็นผลงานกำกับของ "เกนน์ดี้ ทาร์ทาคอฟสกี้" ผู้กำกับที่อยู่เบื้องหลังหนังอนิเมชั่นอย่าง Dexter's Laboratory, Samurai Jack ซึ่งสำหรับ Hotel Transylvania ก็ได้ซูเปอร์สตาร์มากมายมาให้เสียงพากย์ทั้ง อดัม แซนด์เลอร์ (ซึ่งควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์ไปด้วย), เซเลน่า โกเมซ, เควิน เจมส์, แอนดี้ แซมเบิร์ก, สตีฟ บุสเซมี่ เป็นต้น
ซึ่งตัวหนัง Hotel Transylvania ก็ว่าด้วยเรื่องราวของ “โรงแรมทรานซิลเวเนียที่เป็นโรงแรมแสนปลอดภัยที่เหล่าผองผีปีศาจจะมาอาศัยอยู่อย่างสงบสุข ทั้ง มนุษย์หมาป่า, มัมมี่, แฟรงเก้นสไตน์, มนุษย์ล่องหน ฯลฯ ซึ่งประจวบเหมาะกับปีนี้เป็นปีที่ฉลองวันเกิดครบรอบ 118 ปีของเมวิสลูกสาวของท่านเคาท์ แดร็คคิวล่า ปีนี้จึงเป็นปีที่พิเศษแต่แล้วแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่าง "มนุษย์" ที่มีชื่อว่าโจนาธานก็ได้หลุดเข้ามายังโรงแรมทรานซิลเวเนียแล้วบังเอิญตกหลุมรักกับเมวิสลูกสาวท่านเคาท์งานนี้จึงเกิดเป็นความป่วนและความฮาที่สุดแสนจะเพลิดเพลิน” นี่คือเรื่องราวย่อๆ พอสังเขบครับ
ประเด็นหลักของหนังคือ "ความสนุก" และแน่นอนว่าหนังสร้างความสนุกให้แก่คนดูได้อย่างลงตัวเรื่องราวของบรรดาผีๆ อย่าง แดร็คคิวล่า, มนุษย์หมาป่า, มัมมี่ ฯลฯ ถูกนำเสนอผ่านเรื่องราวมากมายเหมือนกับ Rise of the Guardians ที่เป็นเรื่องราวของบรรดาเทพที่แน่นอนว่าก็เคยถูกนำมานำเสนอผ่านเรื่องราวมากมายเหมือนกัน ซึ่งทั้งสองเรื่องแม้จะดูเหมือนต่างกันแต่ก็ไม่ไกลกันนัก ฝั่งนี้ว่าด้วยเรื่องเทพ อีกฝ่ายว่าด้วยเรื่องปีศาจในรูปแบบหนังอนิเมชั่นที่ให้ความสนุกแก่คนดูกับฝั่งเทพว่ากันด้วยเรื่องความศรัทธาและเรื่องราวสุดมหัศจรรย์ ฝั่งปีศาจว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์พ่อลูกเป็นหลัก ซึ่ง Hotel Transylvania ก็ปรุงรสและเสริพออกมาได้ดี แม้จะดูขัดๆ อยู่บ้างกับการดำเนินเรื่องราวที่ดูรวดเร็วเกินไปและข้ามเรื่องราวสำคัญไปเยอะ
อย่างเช่นเรื่องราวในช่วงท้ายๆ เรื่องอย่าง "มนุษย์ยอมรับตัวตนที่แท้จริงของบรรดาปีศาจได้หรือยัง" หนังหยอดเรื่องราวไว้เพียงนิดเดียวเท่านั้นและตลอดเรื่องไปเน้นที่เรื่องราวพ่อลูกและมุกตลกเป็นหลัก ซึ่งตอนที่หนังไปเน้นเรื่องราวพ่อลูกหนังไม่ได้เน้นและไปสโคปเรื่องจนลืมความสำคัญอย่างมุกตลกและตัวละครตัวอื่นๆ แต่หนังเน้นเรื่องราวส่วนนี้ทีละนิดทีละนิด อย่างฉากนี้ใส่เรื่องราวไว้ ไปเน้นมุกตลกสักฉาก แล้วกลับมาเน้นและก็ข้ามไปอีกรอบเป็นอย่างนี้ไปตลอดเรื่อง ซึ่งหนังก็ทำออกมาดีและลงตัวทั้งแก่เด็กและผู้ใหญ่ อย่างเด็กก็ดูมุกตลก ส่วนผู้ใหญ่ก็ดูเรื่องความสัมพันธ์ตัวละคร แต่ที่บอกนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเด็กไม่รู้เรื่องเด็กก็ดูรู้เรื่องครับ ขึ้นอยู่กับอายุของเด็กด้วย ซึ่งความสัมพันธ์พ่อลูกก็ไม่ได้ดราม่าอะไรมากมายนักแต่หนังแสดงให้ความรักของพ่อลูกแบบน่ารักตามสไตล์หนังอนิเมชั่น
ส่วนมุกตลกนั่นถือว่าหนังยังเป็นรอง 3 สตูดิโอยักษ์อย่าง Pixar Animation, DreamWorks Animation, BlueSky Studios อยู่และอาจรวมไปถึง Illumination Entertainment ด้วย แต่ก็ต้องยอมรับมุกตลกหลายๆ มุขหนังก็ทำออกมาได้โอเคเหมือนกัน ไม่ได้ขำจนถึงขนาดตกเก้าอี้แต่ก็ทำให้อมยิ้มได้ มีการจิกกัดเรื่องราวตำนานของบรรดาปีศาจ อาทิ ความจริงแดร็คคิวล่าไม่กินเลือดมนุษย์แต่กินเลือดสังเคราะห์ ซึ่งก็ทำให้อมยิ้มได้ เป็นการจิกกัดที่ดี (เหมือนตอน Kung Fu Panda ที่กัดหนังกำลังภายในได้ดี), หากไม่นับเรื่องความสัมพันธ์ของพ่อลูก (แดร็คคิวล่ากับเมวิส) แล้ว ความสัมพันธ์ของตัวเรื่องก็ดูไม่สอดคล้องกันเท่าไรอย่างแดร็คคิวล่ากับเพื่อนคนอื่นๆ หนังไม่ปูเรื่องไว้เลย แต่ก็พอเข้าใจได้ที่ไม่ปูเรื่องไว้เพราะยังไงคนไปดูก็รู้จักตัวละครพวกนี้ดีแบบถึงลูกถึงคนกันอยู่แล้ว แต่ตัวละครใหม่อย่างแขกไม่ได้รับเชิญอย่างมนุษย์ที่มีชื่อว่า "โจนาธาน" หนังต้องทำให้ตัวละครเป็นที่รักให้ได้
อย่างนั่นทีมงานก็จัดให้และจัดหนักด้วยการให้ โจนาธาน อยู่กับ ท่านเคาท์แดร็คคิวล่า ตลอดเวลาซะเลย ซึ่งการจับให้อยู่ด้วยกันแน่นอนว่าเราจะเห็นการพัฒนาของตัวละครคู่นี้โดยเฉพาะแดร็คคิวล่าที่ในตอนแรกหนังอธิบายว่าแดร็คคิวล่าเป็นคนอมทุกข์แต่หลังจากดูไปเรื่อยๆ เราก็เห็นพัฒนาการของแดร็คคิวล่าจนได้โดยเราแทบไม่รู้ตัวแม้แกเปลี่ยนตอนไหนเพราะเอาแต่ดูมุกตลกของหนัง :D ซึ่งโดยรวมหนังคุมโทนได้อยู่จริงๆ ไม่ออกนอกประเด็นซักเท่าไรและไม่มีมุกตลกที่ดูเกินไปด้วย มุกตลกทุกมุขอยู่ในเกณฑ์ที่สอบผ่าน แถมหนังทำออกมาในลูกเล่นเกือบเป็นหนังเพลงซึ่งนอกเหนือจากมุกและความสัมพันธ์แล้วอีกอย่างที่ช่วยยกระดับหนังก็คือบรรดาเพลงทั้งหลายครับ
ต้องชมผู้กำกับอย่าง เกนน์ดี้ ทาร์ทาคอฟสกี้ ที่คุมน้ำหนักให้อยู่ในเรื่องราวในหนังในเวลาไม่ถึง 90 นาทีได้ (เพราะไม่นับเอนด์เครดิต) ซึ่งหากไปดูในเครดิตจากการเคยกำกับหนังการ์ตูนอย่าง Dexter's Laboratory และ Samurai Jack ก็ไม่แปลกใจเท่าไรที่หนังสามารถดูสนุกและมีเรื่องราวที่ชวนติดตาม แถมตัวอนิเมชั่นเองภาพก็สีสันสวยงามมากแม้จะไม่ดูในระบบ 3มิติก็ตาม, แถมเสียงไทยก็ทำออกมาได้คลื้นเคล้งมากคนให้เสียงก็พากย์ออกมาได้ดีโดยเฉพาะแดร็คคิวล่าที่พากย์ได้สนุก (คนเดียวกับที่ให้เสียง คิงจูเลี่ยนใน Madagascar ฉบับภาษาไทย) และโดยรวมแล้วเสียงไทยก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
สรุป
“HOTEL TRANSYLVANIA เป็นอนิเมชั่นยำใหญ่เหล่าผองผีที่ทำออกมาได้สนุกเกินคาด มุกตลกโดนและมีการนำเสนอเรื่องราวต่างๆ ที่เพลิดเพลิน เหมาะกับทุกเพศทุกวัยงานนี้ พากย์ไทยก็ได้ใจไปเต็มๆ โดยรวมแล้วสำหรับ "HOTEL TRANSYLVANIA" ไม่ควรพลาดและแนะนำควรรีบไปเช็คอินที่บ็อกซ์ออฟฟิศครับ”
ความยาวทั้งหมด 91 นาที
คะแนน 8/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น