วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

ELYSIUM


ELYSIUM / เอลลิเซี่ยม


ผู้จัดจำหน่าย : SONY PICTURES, TRISTAR PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : TRISTAR PICTURES, MEDIA RIGHTS CAPITAL
ผู้กำกับ : นีล บลอมแคมป์ (DISTRICT 9)
ประเภทของหนัง : ACTION | DRAMA | SCI-FI

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“งานเสียดสีสังคมเรื่องชนชั้น ที่ไปๆ มาๆ กลายเป็นงานป็อปคอร์นดูเพลิน!”


ELYSIUM เป็นงานกำกับหนังไซไฟเรื่องที่สองของ นีล บลอมแคมป์ หลังจากไปเสียดสีสังคมเรื่องเชื้อชาติจนประสบความสำเร็จกับ DISTRICT 9 เมื่อปี 2009 เสียดสีได้ดีขนาดหลุดไปชิงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์กันเลยทีเดียว บลอมแคมป์ หายไปสี่ปีกลับมาอีกทีคราวนี้กับ ELYSIUM หนังไซไฟที่ยังคงเป็นหนังที่เสียดสีสังคมเหมือนเดิมแต่คราวนี้ขอขยับประเด็นที่ใกล้ตัวเข้ามาหน่อยกับกับประเด็นเรื่องความแตกต่างของชนชั้น คนจนและคนรวย ผ่านสถานีอวกาศขนาดใหญ่ เอลลิเซี่ยม ที่เปรียบเสมือนคนรวยมีอันจะกิน มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน กับ โลกที่รกล้าง เปรียบเสมือนคนจน ที่ต้องมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก อยู่ไปแบบวันๆ ไร้จุดหมาย แต่ก็มีบางกลุ่มที่อยากจะไปยัง เอลลิเซี่ยม เพื่อชีวิตที่ไร้โรคภัยและเพื่อชีวิตที่ดีกว่า แต่มันก็แค่นั้น..!!

หนังเปิดประเด็นด้วยเนื้อหาที่หนักแน่นเรื่องการแบ่งชนชั้นผ่านตัวละครของ แม็กซ์ ดา คอสต้า (แม็ตต์ เดมอน) ชายหนุ่มที่เติบโตมาจากบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าที่นึกฝันไว้ว่าซักวันต้องไปยังเอลลิเซี่ยมให้ได้ หนังพาคนดูไปเจอความโหดร่ายของโลกในอนาคตที่แตกต่างราวฟ้ากับเหวผ่านมุมมองของแม็กซ์และคนบนโลก ณ ตรงนี้ยอมรับหนังเสียดสีสังคมได้อย่างน่าสนใจมากๆ ในช่วงแรกๆ จนถึงเกือบๆ กลางๆ เรื่อง ของหนัง มีอะไรให้เราสามารถไปคิดและต่อยอดได้ แต่กลับเป็นว่าแทนที่หนังจะสานต่อเรื่องราวประเด็นตรงนี้ต่อไปให้เจ็บแสบกว่านี้ และให้หนักยิ่งขึ้นกว่านี้ในช่วงครึ่งหลัง หนังกลับพลิกหน้ามือเป็นหลังมือจากหนังเสียดสีสังคมกลายมาเป็นหนังแอ็คชั่นจัดเต็มบันเทิงแทนซะได้ แต่ยังโชคดีหนังยังไม่ทิ้งประเด็นนี้ไปไหนแค่น้ำหนักมันเบาลงเท่านั้น


แต่ถึงหนังจะพลิกมาจนกลายเป็นหนังแอ็คชั่นป็อปคอร์นสูตรสำเร็จ แต่ก็ต้องยอมอย่างหนึ่งเลยว่าหนังก็ดูเพลินพอสมควร แต่จะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมกว่านี้มากๆ ถ้าหนังไม่พลาดในส่วนน้ำหนักความสำคัญในเรื่องประเด็นที่เปิดหัวไว้หนังจะเป็นอะไรที่เพอร์เฟกต์มากๆ เหมือนตอน DISTRICT 9 ที่ทำได้สำเร็จในทุกๆ ส่วนทั้งความมันส์, การเสียดสีสังคม และก็อารมณ์ร่วมที่มีต่อหนังและต่อตัวละคร หนังไปถึงจุดพีคได้หมด แต่กับ ELYSIUM หนังไปไม่ถึงแบบที่เรื่องก่อนทำไว้ได้เลยแม้แต่นิด มีดีก็ตรงความมันส์กับความพยายามนำประเด็นเรื่องชนชั้นมาเล่น แต่ก็อย่างที่บอกถ้าหนังไม่พยายามแอ็คชั่นมากเกินไปแต่ใส่ใจประเด็นที่เปิดหัวไว้แต่ต้นหนังจะสมบูรณ์แบบมากๆ

ดังนั้นไอ้จุดที่หนังพยายามทำให้ซึ้งในช่วงท้าย ไอ้คนดูอย่างเราก็ได้แต่อืมๆ เหรอๆ ไม่ได้รู้สึกอินเท่าที่ควร หรือจริงๆ อาจจะไม่ได้เป็นที่เรื่องประเด็นแต่อาจจะเป็นที่ตัวละครที่ตัวละครนำจากโลกทิ้งร้างมีเหตุผลที่ยอมรับได้ แต่ในส่วนตัวละครจากสถานีอวกาศ เหตุผลแต่ละอย่างดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลในบางจุด อยากจะเปลี่ยนใจก็เปลี่ยนโดยเฉพาะอีตา ครูเกอร์ (ชาร์ลโต้ ค็อปเลย์) ที่หลังๆ ชักหลุดคอนเซปต์อยากจะทำอะไรกันแน่ จะปกป้องเอลลิเซี่ยมหรือจะจัดการแม็กซ์กันแน่ แต่ถึงกระนั้น ELYSIUM ก็เป็นหนังไซไฟที่ดีอยู่ถ้าไม่พลาดไปในบางจุด อาจจะไม่เยี่ยมยอดเท่า DISTRICT 9 แต่ ELYSIUM ก็ไม่ได้แย่มากนักดูได้เพลินๆ ดีเหมือนกัน


ด้านเอฟเฟกต์ของหนังยอดเยี่ยมมากบนสถานีอวกาศเอลลิเซี่ยม อลังการงานสร้างตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากคุ้มค่า 115 ล้านดอลล่าห์ที่สตูดิโอทุ่มลงไป และสุดยอดจริงๆ กับการนำเสนอมุมกล้องที่แตกต่างกว่าหนังไซไฟทั่วไปขอชมตากล้องและทีมตัดต่อของหนังเรื่องนี้จริงๆ, แม็ตต์ เดม่อน เล่นดีตามสไตล์พี่แก ส่วนคุณป้า โจดี้ ฟอสเตอร์ ดูแก่ไปมากในหนังกับบทที่ดูเหมือนจะเด่นแต่กลับไม่เด่นอย่างที่คิด แต่กลับเด่นแบบคาดไม่ถึงคือ ชาร์ลโต้ ค็อปเลย์ ตีบทแตกกับบท ครูเกอร์ กับท่าทางเหมือนคนสติแตกแต่บางทีก็อาจจะรำคาญตัวละครตัวนี้พอสมควร แต่รำคาญสุดๆ คือสำเนียงของ ชาร์ลโต้ ในหนังเรื่องนี้ เพราะบางทีก็ฟังยากเกินไปเหมือนกัน...


ความยาวทั้งหมด 109 นาที
คะแนน 8/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger