วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

L'HOMME QUI RIT


L'HOMME QUI RIT (THE MAN WHO LAUGHS) / ปาฏิหาริย์รักจากโจ๊กเกอร์


ผู้จัดจำหน่าย : EUROPA CORP., MONO FILM (ในไทย)
สตูดิโอผู้สร้าง : INCOGNITA FILMS, FRANCE 3 CINÉMA, FRANCE 2 CINÉMA
ผู้กำกับ :  ฌอง ปิแอร์ อเมรีส์
ประเภทของหนัง : DRAMA

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“ชายผู้มีรอยยิ้มบนใบหน้า, หนังลิเกประเทศฝรั่งเศษ, พลาดจุดใหญ่คือตัวละคร!”


L'HOMME QUI RIT หรือในชื่อที่ทั่วโลกรู้จักกันในชื่ออย่าง THE MAN WHO LAUGHS หนังที่ดัดแปลงจากอีกหนึ่งวรรณกรรมของ วิคเตอร์ ฮูโก้ ผู้แต่ง LES MISÉRABLES ที่เคยถูกดัดแปลงมาแล้วหลายครั้งซึ่งเวอร์ชั่นที่พอจะเป็นที่รู้จักก็คือเวอร์ชั่นหนังเงียบเมื่อปี 1928 ของ พอล เลนี่ ที่ได้คำวิจารณ์ดีพอสมควรเลย (ซึ่งตัวหนังฉบับนี้ก็สามารถหาดูได้ในโลกออนไลน์แบบง่ายๆ ด้วย) และในปี 2012 ฌอง-ปิแอร์ อเมรีส์ ก็ได้กลับมาสร้างเรื่องราวชายของชายผู้มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าอีกครั้งโดยเลือก มาร์ค-อองเดรย์ กรองแด ให้รับบท กวินเปลน พร้อมกันนี้หนังยังได้ฉายในไทยโดย MONO FILM ในชื่อไทยว่า "ปาฏิหาริย์รักจากโจ๊กเกอร์"


ในฉบับปี 1928 ที่เป็นหนังเงียบหนังจบด้วยเรื่องราวแบบมีความสุขของตัวละคร ซึ่ง! ไม่เหมือนต้นฉบับของ วิคเตอร์ ฮูโก้ ที่จริงๆ ต้องจบแบบโศกนาฏกรรม! ในงานฉบับปี 2012 ก็เลยจัดความเคารพใส่ต้นฉบับมันซะเลย แต่แทนที่จะจบแบบโศกนาฏกรรมแบบเอาคนดูอยู่หมัดหนังกลับทำให้คนดู "งง" ไปกับหนังได้เลย ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือ หนังไม่สามารถสร้างอารมณ์ร่วมกับคนดูได้ ด้วยการเล่าเรื่องที่ธรรมดาเกินไปทั้งๆ ที่เอาจริงๆ บทหนังก็ไม่ได้แย่อะไรมากเท่าไร แต่กลับมาตายน้ำตื้นที่การมิติของตัวละคร เพราะทุกการกระทำของตัวละครมันช่างไร้น้ำหนักเป็นที่สุด ทั้งเรื่องความรักของตัวละครที่หนังเอาไม่อยู่และไม่ทำให้เชื่อได้ว่าตัวละครจะรักกันได้ (ถึงหนังจะพยายามให้เชื่อว่ารักกันก็เถอะน่ะ)

ทั้งๆ ที่หนังก็เล่าเรื่องได้น่าสนใจในช่วงต้นของหนัง แต่ด้วยอย่างที่บอกหนังไม่ผ่านในเรื่องการสร้างมิติของตัวละคร การกระทำของตัวละครก็ดูเป็นงานที่หนักไปทางลิเกเกินไป ทั้งคำพูดที่สวยหรูแต่ไม่ทำให้เชื่อได้ พูดอย่างทำอีกอย่าง หรือแม้แต่ความเชื่อของตัวละคร หนักไปกว่านั้นประเด็นของหนังที่พยายามจะเล่นอย่าง ความแตกต่างของคนในสังคม กลับเล่าได้เบาบางมาก มันก็เลยเป็นอะไรที่น่าเบื่อเกินไปหน่อย ทั้งๆ ที่หนังก็เต็มไปด้วยเรื่องที่ใหญ่โตสามารถทำเป็นงานที่ดีแบบเกรดเอได้! แต่อย่างน้อยสิ่งที่พอทำให้เราอยู่กับหนังไปจนจบได้คือ "มาร์ค อองเดรย์ กรองแด" ที่เล่นได้ดีในบทของกวินเปลนเป็นอย่างมาก...


ความยาวทั้งหมด 95 นาที
คะแนน 6/10

ปล. หนังเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับโจ๊กเกอร์ในแบทแมนน่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger