วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

GRAVITY


GRAVITY / กราวิตี้ มฤตยูแรงโน้มถ่วง


ผู้จัดจำหน่าย : WARNER BROS. PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : ESPERANTO FILMOJ, HEYDAY FILMS
ผู้กำกับ : อัลฟอนโซ่ คัวรอน (CHILDREN OF MEN)
ประเภทของหนัง : DRAMA | SCI-FI | THRILLER

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“องก์ที่สี่ของ ALIEN ฉบับขยายที่ไม่มีอสูรกาย มีเพียงแค่ความกดดัน กับ ความอลังการ!”


สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับ GRAVITY ก็คือ งานด้านภาพและวิชวลเอฟเฟกต์ในฉากอวกาศสุดแสนอลังการและดนตรีประกอบของ สตีเว่น ไพรซ์ ที่ยกระดับหนังไปอีกระดับ และการได้ดูบนจอ IMAX ในระบบ 3มิติที่ช่วยยกระดับหนังจริงๆ สำหรับ GRAVITY (กราวิตี้ มฤตยูแรงโน้มถ่วง) หนังใหม่ของผู้กำกับ อัลฟอนโซ่ คัวรอน (CHILDREN OF MEN) ที่เขียนบทร่วมกับ โฆนาส คัวรอน ลูกชาย กับหนังที่มีนักแสดงเพียงน้อยนิดไม่ถึงสิบคนถ้าดูจากเอนด์เครดิต ที่โดดเด่นสุดคือ แซนดร้า บูลล็อค กับ จอร์จ คลูนี่ย์ ในบทนำ ดร.ไรอัน สโตน และ แม็ตต์ โควัลสกี้..!!

เปิดตัวด้วยคำวิจารณ์ขั้นยอดเยี่ยมสำหรับ GRAVITY ได้เต็มร้อยในเว็บมะเขือเน่า เจมส์ คาเมรอน ยังออกมาชมว่าเป็นหนังที่ดีที่สุดที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ ถูกยกย่องให้เป็นตัวเต็งออสการ์ปีหน้า และเป็นหนังที่จะส่ง แซนดร้า บูลล็อค ได้ออสการ์ตัวที่สอง!! ซึ่งเอาจริงๆ เลยน่ะ เราไม่สนคือเราอยากดูหนังเท่านั้นไม่ได้แคร์คำวิจารณ์หรือคำยกย่องอะไรนั้นเท่าไร ก็คือแค่อยากดูเท่านั้นล่ะน่ะ ซึ่งพอได้ดูแล้ว..!


มันคือองก์ที่สี่ของ ALIEN (ตอนที่ริปลี่ย์เจอเอเลี่ยนในยานอวกาศในช่วงที่กำลังกลับโลก) แต่แตกต่างกว่าตรงที่ไม่มีเอเลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้องแม้แต่นิดเดียว มีเพียงแค่การเอาชีวิตรอดของตัวละครนำ กับการโชว์พลังหญิงกับการอยู่คนเดียวแบบเคว้งคว้างในอวกาศกับสถานการณ์บีบบังคับในอวกาศของตัวละครที่ แซนดร้า บูลล็อค แสดงนำ หนังโชว์เทคนิคการนำเสนอได้ดีครับ ลุ้นระทึกไปกับการหาทางเอาชีวิตรอดบนอวกาศของตัวละคร ซึ่งหนังพยายามกดดันคนดู ซึ่งก็กดดันในบางช่วงบางตอน อย่างตอนต้นๆ เรื่องถึงช่วงกลางๆ เรื่อง ส่วนช่วงท้ายแล้วแต่ความสามารถของคุณผู้ชมเลยครับ (แต่สำหรับผมรู้สึกช่วงท้ายธรรมดาเกินไปนิด) แถมกับบางช่วงของหนังรู้สึกจะหาทางออกอะไรง่ายๆ ไปนิด ไอ้ที่ควรกดดันแบบลืมหายใจก็เลยรู้สึกธรรมดาเกินไปไม่ลุ้นเท่าที่ควร แต่ก็เอาน่ะหยวนๆ ไปล่ะกัน

หนังนำเสนอผ่านมุมมองหลายๆ แบบที่รู้สึกว่าได้ผลดีคือการนำเสนอในแบบแทนสายตาหรือมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ทำได้ดีเหมือนอยู่ในเหตุการณ์เองเลย และที่เด่นชัดคือการใช้เรื่องฉากลองเทคตามสไตล์ อัลฟอนโซ่ คัวรอน มาพยายามกดดันทั้งตัวละครและคนดู หนังมีฉากลองเทคที่ยาวมากๆ กับอีแค่ฉากเปิดเรื่องก็ยาวเกินสิบนาทีหรือจะพูดให้โอเวอร์หนักกว่านี้นี่คือหนังที่เป็นหนังที่ลองเทคยาวที่สุดก็ว่าได้ประมาณยาวที่สุดในวงการภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ประมาณ 90 นาทีเอง (ถ้าจะนับล่ะน่ะ) กับการใช้ฉากลองเทคมาผสมกับบางจังหวะบางช่วงที่้เป็นการนำเสนอผ่านบุคคลที่หนึ่งขอบอกกดดันน่ะกดดันได้ดีเลย แต่ก็กดดันน่ะระดับหนึ่งแต่เหมือนเคยกดดันมามากกว่านี้มาก่อน ช่วงท้ายไอ้ที่ควรจะกดดันเลยรู้สึกไปทางเฉยๆ


แต่สิ่งที่เชิญเพิ่มอารมณ์ร่วมกับตัวหนังที่รู้สึกว่าได้ผลคือสกอร์ประกอบของ สตีเว่น ไพรซ์ ที่ใช้ได้ผลกับหลายช่วงของหนังที่ คัวรอน เลือกใช้ได้ดีและกับบางช่วงที่ คัวรอน กลับไม่ใช้ดนตรีมีเพียงแต่ภาพก็รู้สึกว่าโอเคเหมือนกัน เงียบและพยายามกดดันคนดู ใช้ได้เลยทีเดียว แต่ที่ดูดีที่สุดก็คืองานด้านภาพของ เอมมานูเอล ลูเบซสกี้ ที่ทำได้สวยงามยิ่งพอมาร่วมกับซีจีผลที่ได้คืออลังการงานสร้างจริง โดยเฉพาะ ฉากในอวกาศ นี่อลังการและสวยจริง ยิ่งได้ดูบนจอ IMAX รู้สึกว่ามันอลังการจริงๆ ช่วยยกระดับความอลังการมากขึ้นไปอีก ส่วนภาพ 3มิติ ดีกับบางช่วง

กับประเด็นอะไรนั้นที่พอจับได้คืออย่าคิดว่าชีวิตนี้ไม่มีความหมาย หนังนำเสนอได้เด่นชัดผ่านภาพหลอนที่ ดร. ไรอัน คิดไปเอง แต่กับการนำเสนอเบาบางเหมือนอากาศนอกอวกาศ แต่ทำเป็นพูดไปหนังใส่ก็เท่านั้นล่ะเพราะหนังจงใจเล่นเรื่องความกดดันของตัวละครกับคุณผู้ชมมากกว่า เพราะงั้นเรื่องประเด็นอะไรนั้นมองข้ามไปไม่ต้องสนอะไรมันมากนัก ดูที่ตัวหนังพอ ส่วนไอ้เรื่องกดดันอะไรมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับตัวบุคคลจริงๆ


การแสดงของ แซนดร้า บูลล็อค เธอคุมหนังและแบกหนังไว้ทั้งเรื่องจริงซักประมาณ 85% ของทั้งเรื่อง ถ้าการแสดงระดับสุดยอดระดับ THE BLIND SIDE ส่งเธอได้ออสการ์แบบงงๆ ในสายตาคนดู การแสดงใน GRAVITY ก็น่าจะส่งเธอได้ออสการ์แบบงงๆ ได้เหมือนกัน ส่วน จอร์จ คลูนี่ย์ มาน้อยๆ แบบเดียวกับที่ เซอร์ แอนโธนี่ ฮ็อปกินส์ ทำไว้ใน THE SILENCE OF THE LAMBS คือมาน้อยแต่ส่งผลกับตัวละครนำในการไปสู่บทสรุป แม้ใน GRAVITY ช่วงท้ายอาจจะไม่พีคเท่าที่ควรก็ตาม ป๋าจอร์จอาจจะได้ชิงออสการ์สมทบชายแต่น่าจะยากพอสมควรที่จะได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับคู่แข่งเลย

สรุปที่ว่า เจมส์ คาเมรอน ออกมาชมว่าเป็นหนังที่ดีที่สุดที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ ใช่เลยมันดีที่สุดล่ะก็มันอยู่ในอวกาศทั้งเรื่องนี่ แต่ถ้าบอกว่าเป็นหนังไซไฟที่ดีที่สุดมั้ยคำตอบขอบอกว่า ไม่ ครับ มีดีกว่านี้เยอะ ส่วนจะเป็นหนังกดดันที่เยี่ยมที่สุดมั้ยอันนี้ก็ไม่อีกล่ะ แต่ถ้าถามว่าเป็นหนังที่งานด้านภาพยอดเยี่ยมที่สุดมั้ย คำตอบนี้ คงใช่...


ความยาวทั้งหมด 90 นาที
คะแนน 8/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger