FROZEN / ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ
ผู้จัดจำหน่าย : WALT DISNEY STUDIOS MOTION PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : WALT DISNEY ANIMATION STUDIOS
ผู้กำกับ : คริส บัค (TARZAN) และ เจนนิเฟอร์ ลี (เขียนบท WRECK-IT RALPH)
ประเภทของหนัง : ANIMATION | ADVENTURE | COMEDY
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
“ว่าที่เจ้าหญิงองค์ที่ 12 และ 13 แห่งดิสนีย์
หนังที่เป็นความลงตัวของดิสนีย์ยุคเก่าและยุคใหม่!!”
รู้สึกเป็นปลื้มที่เห็นดิสนีย์ได้ดิบได้ดีและหาแนวทางตัวเองเจอตั้งแต่ตอน TANGLED และมาคืนฟอร์มสุดยอดมากจาก WRECK-IT RALPH เมื่อปีที่แล้ว จนต่อเนื่องมาในปีนี้กับ FROZEN หนังอนิเมชั่นเรื่องใหม่เรื่องที่ 53 จากดิสนีย์ที่คราวนี้ก็กลับมาจับเรื่องราวเจ้าหญิงอีกครั้ง โดยดัดแปลงมาจากเรื่องเล่า THE SNOW QUEEN ของ ฮานส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซ่น โดยใน FROZEN นี้ได้ คริส บัค จาก TARZAN และ เจนนิเฟอร์ ลี มือเขียนบทจาก WRECK-IT RALPH มากำกับร่วมกัน โดยทำให้หนังกลายเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นมิวสิคัลได้แบบคาดไม่ถึง และจัดเต็ม! และได้ คริสเทน เบลล์, ไอดิน่า เมนเซล, จอช แกด, โจนาธาน กรอฟฟ์ และ ซานติโน่ ฟอนตาน่า มาให้เสียงพากย์ใน FROZEN!!
นี่เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างงานสไตล์อนิเมชั่นยุคเก่าของดิสนีย์กับงานอนิเมชั่นยุคใหม่ของดิสนีย์! นั่นก็คือการนำเพลงประกอบมาอยู่ในหนังจนไม่ต่างอะไรกับหนึ่งตัวละครสำคัญประมาณยุค 90 ทั้ง BEAUTY AND THE BEAST, ALADDIN มารวมเข้ากับเนื้อหาที่ดูสดใหม่ในยุคใหม่ของดิสนีย์ แน่นอนเนื้อหายังเป็นสากลดูได้ทุกเพศทุกวัยเหมือนเดิม แบบรู้ว่าบทสรุปของหนังจะจบแบบไหน แต่ตัวละครในหนังจะมีชีวิตมีความคิดที่เข้ากับยุคสมัยมีอะไรบางอย่างในจิตใจ (ลองย้อนไปดู WRECK-IT RALPH เป็นตัวอย่าง) นั่นก็ทำให้ FROZEN เหมือนกลับไปยังยุคดิสนีย์เรอเนสซองส์ ยุคที่ดิสนีย์จัดว่าพีคที่สุด แต่ก็มีอารมณ์ของหนังอนิเมชั่นยุคใหม่ของดิสนีย์ (ดิสนีย์รีไววัล) เป็นสำคัญ
ใน FROZEN อย่างที่บอกว่ามีการนำเพลงมาประกอบอยู่ในหนังและสำคัญต่อเนื้อหา ในหนังเรื่องนี้ทีมงานดิสนีย์ทำงานด้านเพลงประกอบได้โดดเด่นมากทำได้ดีตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้าย ทำให้ตลอดการดู FROZEN เราก็อยากรู้ต่อไปว่าเพลงที่จะปรากฏเป็นเพลงต่อไปคือเพลงอะไร ถึงแม้ตอนที่ดูจะเป็นพากย์ไทยแต่ก็กลับมาหาเพลงฟังทั้งอัลบั้มจนได้ นั่นทำให้เรารู้อีกอย่างว่าทีมงานดิสนีย์ไทยจัดเต็ม (จริงๆ ดิสนีย์ไทยก็จัดเต็มตลอดมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วล่ะโน่ะ) ต้นฉบับกับแปลเป็นไทยจัดว่าสุดยอดมาก โดยเฉพาะเพลง LET IT GO ที่ในต้นฉบับร้องโดย ไอดิน่า เมนเซล (อันนี้ฟังตั้งแต่ก่อนหนังเข้าฉาย) ก็สุดยอด พอเป็นฉบับไทยที่ร้องโดย แก้ม เดอะสตาร์ ก็สุดยอดพอๆ กัน เพราะงั้นครับไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้อรรถรสของหนัง
ด้านเนื้อเรื่อง เนื้อหาในหนัง เป็นงานหนังที่จัดว่าดูได้ดูดีและดูเพลินตามและสนุกตามสไตล์ดิสนีย์ แต่ก็มีกิมมิคในหนังที่พอพูดได้ใน FROZEN ที่แตกต่างจากหนังอื่นๆ ของดิสนีย์ คือการแหกกฏเรื่องเจ้าหญิง ที่ทำให้ในหนังมีเจ้าหญิงสององค์ หรือการสร้างมุกตลกที่ทำได้เหนือกว่าหนังทั่วๆ ไปของ ดิสนีย์ คือ หนังปล่อยมุกมาเป็นชุดและได้ผลตลอด แต่ถึงกระนั้นหนังยังคงเนื้อเรื่องและความสำคัญของการดำเนินเรื่องของหนังไว้ได้ และสำคัญที่สุดถึงจะอย่างไรก็ตามหนังก็ยังคงความสำคัญของเจ้าหญิงทั้งสองได้ มันเลยเป็นอะไรที่ดูจะแตกต่างจากหนังเรื่องอื่นๆ ของ ดิสนีย์ อยู่เล็กน้อย
แต่ที่ต้องพูดถึงเป็นพิเศษขอบอกว่ามันคืองานด้านภาพและรายละเอียดของหนัง โดยเฉพาะ รายละเอียดของ หิมะ, น้ำแข็ง หนังเก็บรายละเอียดได้แบบเป๊ะๆ รายละเอียดในหนังที่แตกต่างกัน ขอบอกว่าเริ่ดค่ะทีมงานดิสนีย์ทำได้ดีเกิน และด้านภาพก็ขอบอกว่าสวยจัดเต็มจริงๆ...
ความยาวทั้งหมด 108 นาที
คะแนน 9/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น