NOAH / โนอาห์ มหาวิบัติวันล้างโลก
ผู้จัดจำหน่าย : PARAMOUNT PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : REGENCY ENTERPRISE
ผู้กำกับ : ดาร์เรน อโรนอฟสกี้ (BLACK SWAN)
ประเภทของหนัง : ACTION | ADVENTURE | DRAMA
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
“ครึ่งแรกจัดว่าพีค ครึ่งหลังจัดว่าดราม่าและน่าเบื่อ”
ถัดจาก BLACK SWAN ยอดผู้กำกับ ดาร์เรน อโรนอฟสกี้ กลับมาพร้อมกับ NOAH งานหนังที่ใหญ่กว่าทั้งสเกล ทั้งทุนสร้าง และใหญ่กว่าในแง่ของประเด็นเพราะนี่เป็นหนังที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ละเอียดอ่อนที่สุดในโลกนั่นคือศาสนา เพราะงั้นไม่แปลกที่หนังจะโดนแบนในหลายประเทศแบบไม่ได้ออกฉาย! กับ NOAH หนังที่ว่าด้วยเรื่องจากตำนานไบเบิลเรื่องราวของโนอาห์ผู้สร้างเรืออาร์คเพื่อช่วยสัตว์และครอบครัวของเขาจากหายนะน้ำท่วมโลกตามคำสั่งของพระเจ้าและเป็นการสร้างโลกใบใหม่ของพระเจ้านั่นเอง...
...ถ้านับในแง่ในด้านความบันเทิงตัว NOAH มีทั้งจุดที่พีคกับหนังและตื่นเต้นกับหนังลุ้นไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและก็มีช่วงที่นิ่งมาก และก็เป็นช่วงที่ทั้งดราม่าและก็น่าเบื่อไปพร้อมกัน ซึ่งจุดที่ตื่นเต้นและจัดว่าพีคที่สุดของหนัง (ในด้านความบันเทิง) ก็คือครึ่งเรื่องแรกช่วงเวลาก่อนเกิดหายนะที่หนังสามารถโชว์เทคนิคหลายๆ อย่างของตัวหนังได้ทั้งการเล่าเรื่องที่จัดว่าน่าสนใจ ด้านสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์ ด้านดนตรีประกอบที่ทำได้ยิ่งใหญ่มาก เป็นครึ่งแรกของหนังจัดโชว์อะไรหลายๆ อย่างได้น่าตื้นเต้นมาก
แต่กลับครึ่งเรื่องหลังหนังปรับโหมดไม่ได้โชว์พวกสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์อะไรมากนัก แต่กลายเป็นงานหนังดราม่าที่สองแง่สองง่ามในเรื่องของพระเจ้าและศาสนา (จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังโดนแบนในประเทศที่เคร่งศาสนา) แต่ด้วยความที่ครึ่งหลังดูจะเป็นงานดราม่าที่เน้นเรื่องเครียดเป็นหลัก เราจะไม่รู้สึกเอนจอยกับหนังแม้แต่น้อย และนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้หนังน่าเบื่อ เพราะหนังใช่เวลาเล่าเรื่องตรงนี้มากโขพอสมควร เพราะงั้นจะเบื่อก็ไม่แปลก
ดาร์เรน อโรนอฟสกี้ ยังทำหนังได้ดีกับหนังที่ดูจะเป็นงานที่ต่อยอดหลังดูหนังจบได้ ให้มาพูดถึงประเด็นที่หนังมีอยู่ ทั้งเรื่องของมนุษย์ และแม้แต่พระเจ้า และในแง่ของความศรัทธาที่มีต่อศาสนา, หนังไม่ได้เข้าในระบบ IMAX 3D แต่ในไทยระบบที่ดีที่สุดในแง่ระบบเสียงอย่าง ดอลบี้ แอทมอส หนังเข้า ซึ่งระบบนี้ก็ทำได้ดีมากในการแยกเสียง ช่วงที่เน้นเสียงประกอบระบบนี้ทำได้ดีมากจริงๆ
หนังอาจจะดีและแย่ในการเล่าเรื่องแต่ก็ยอมรับว่าหนังก็สร้างประเด็นอันใหญ่โตไว้มาก หนังมีส่วนดีสำคัญก็คือทีมนักแสดงระดับเกรด A ทั้ง รัสเซลล์ โครว์, เจนนิเฟอร์ คอร์เนลลี่, เซอร์ แอนโธนี่ ฮอปกินส์ และ เรย์ วินสโตน ต่างทำหน้าที่ได้ดี ส่วนรุ่นเล็กอย่าง ดักลาส บูธ, เอมม่า วัตสัน และ โลแกน เลอร์แมน ต่างทำหน้าที่ของตนได้ดีครับ...
ความยาวทั้งหมด 138 นาที
คะแนน 7/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น