BOYHOOD / ในวันฉันเยาว์
ผู้จัดจำหน่าย : UNIVERSAL PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : IFC PRODUCTIONS, DETOUR FILMPRODUCTION
ผู้กำกับ : ริชาร์ด ลิงค์เลเตอร์ (BEFORE TRILOGY, SCHOOL OF ROCK)
ประเภทของหนัง : DRAMA
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
“หนังที่พูดได้ว่า 'สักครั้งที่จะเจอในชีวิต' กับการเฝ้ามองการเติบโตของคนๆ นึงบนจอหนัง!”
..การที่หนังสักเรื่องจะสำเร็จสมบูรณ์ออกมาไม่ง่ายอย่างน้อยก็กินแรงเป็นปีๆ เพื่อให้หนังเสร็จสมบูรณ์ กับหนังเรื่องนี้ก็เหมือนกัน "BOYHOOD" (ในวันฉันเยาว์) งานกำกับเรื่องใหม่ของ ริชาร์ด ลิงค์เลเตอร์ ที่ใช้เวลาถ่ายทำสิบสองปี!! ตั้งแต่เมื่อปี 2002 หลัง ลิงค์เลเตอร์ ได้เลือก เอลล่าร์ โคลเทรน ในวัย 8 ขวบมารับบท เมสัน จูเนียร์ ก่อนเวลาล่วงเลยไปสิบสองปีหนังถึงเสร็จสมบูรณ์ (ถ่ายทำกันหนึ่งสัปดาห์ในแต่ล่ะปี) ซึ่งไอ้ระหว่างที่ถ่ายทำ ลิงค์เลเตอร์ เองก็ทำหนังเสร็จไปถึงแปดเรื่อง! (SCHOOL OF ROCK มาจนถึง BEFORE MIDNIGHT)..
..อาจจะไม่ได้เป็นหนังที่ยอดเยี่ยมในความคิดผู้เขียนมากนัก แต่ถามว่าไอ้ความยาว 15 นาทีจะครบสามชั่วโมงของหนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่คุ้มค่าหรือเสียดายเวลาหรือไม่? คำที่จะตอบมีได้เพียงคำว่า คุ้มค่าที่ได้ชมได้สัมผัสประสบการณ์ที่พูดได้ว่านี่มันคือหนังสักเรื่องที่สักครั้งที่เราจะเจอในชีวิต เพราะว่านี่คือหนังที่เป็นหนังประวัติศาสตร์ที่ ริชาร์ด ลิงค์เลเตอร์ และผู้มีส่วนร่วมในหนัง BOYHOOD เรื่องนี้ จารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ภาพยนตร์!! นับตั้งแต่มีการทำหนังเรื่องแรกในปี 1895!..
..ถ้าเป็นหนังทั่วๆ ไปหากจะเล่าการเปลี่ยนแปลงของตัวละครจากเด็กไปเป็นวัยรุ่น หรือวัยรุ่นไปเป็นผู้ใหญ่ (หรือผู้ใหญ่ไปเป็นคนแก่) กรณีอย่างนี้มีสามตัวเลือก อย่างแรกคือ เปลี่ยนนักแสดง นี่เป็นเทคนิคที่เบสิคที่สุด แต่ถ้าไม่ตัวเลือกต่อมาจะเป็นแต่งหน้า-เมคอัพ (กรณีนี้หนังที่ผ่านมาก็แบบ จอห์นนี่ เด็ปป์ นั่งเมคอัพจากตอนโต้ตอนหนุ่มไปเป็นตอนแก่ใน THE LONE RANGER (กอร์ วอร์บินสกี้, 2013) หรือ จอห์นนี่ น็อกซ์วิลล์ แปลงโฉมเป็นคนแก่ใน JACKASS PRESENTS: BAD GRANDPA (เจฟฟ์ ทรีเมนน์, 2013) แต่ถ้ากลัวไม่สมจริงพอต้องนี่ โมชั่นแคปเจอร์ แบบ แบรด พิตต์ ใน THE CURIOUS CASE OF BENJAMIN BUTTON (เดวิด ฟินเชอร์, 2008) แล้วกับ BOYHOOD นี่ล่ะใช่ตัวเลือกไหนกัน?..
..คำตอบก็คือ 'ไม่ได้ใช้เลย' เราถึงกล้าพูดว่านี่เป็นหนังที่จะเป็นประวัติศาสตร์กับการที่หนังเลือกที่จะเล่าเรื่องการเติบโตของตัวละครในหนังตั้งแต่เป็นเด็กอนุบาล-ประถมจนขึ้นมหาวิทยาลัยด้วยนักแสดงเพียงคนเดียว เราจึงได้เห็น เอลล่าร์ โคลเทรน ตั้งแต่วัยเด็กยันเติบโตพร้อมเผชิญโลกกว้างนี้ ได้เห็น เมสัน พบเจอเหตุการณ์ต่างๆ (พ่อและแม่หย่ากัน, แม่แต่งงานใหม่ แล้วก็เลิก ย้ายบ้านไปมา ส่วนมากเหตุการณ์จะมาจากแม่) ซึ่งนี่เป็นหนังก้าวพ้นวัยที่เรียลที่สุดในแง่ด้านความสมจริงของการเติบโตของตัวละคร (แต่ไม่ใช่หนังก้าวพ้นวัยที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้เราชอบ THE KINGS OF SUMMER (จอร์แดน วอกต์-โรเบิร์ตส, 2013) มากที่สุด (หนังก้าวพ้นวัยจะโดนไม่โดนมันก็ขึ้นอยู่กับหนังกับตัวคนดูมีจุดร่วมเหมือนกันหรือไม่ ก็แล้วแต่คนน่ะบางที))..
..ริชาร์ด ลิงค์เลเตอร์ อาจจะไม่ได้ทำ BOYHOOD ยาวนานและทรหดเท่าไตรภาค BEFORE (SUNRISE, SUNSET, MIDNIGHT) เพราะกว่าหนังไตรภาคชุดนั้นจะจบก็ปาไปกว่า 18 ปี (1995-2013) แต่เรื่องนี้ก็แค่ 12 ปี แต่ในความแตกต่างของสองเรื่องก็มีจุดรวมที่เหมือนกันอยู่ ครับเราไม่ได้พูดถึง อีธาน ฮอว์ค อย่างแน่นอน แต่จุดรวมที่ว่านั่นก็คือ การเล่าเรื่องการเติบโตของตัวละครสักตัวหนึ่งอย่างในไตรภาคบีฟอร์ก็เล่า สัมพันธ์ของ เจสซี่ กับ เซลีน (ตอนที่เขียนนี้ยังไม่ได้ดูภาคมิดไนท์รอและหวังสักวันจะได้ดู) แต่ BOYHOOD ก็เปลี่ยนมาเล่าการเติบโตของ เมสัน แทน..
..องค์ประกอบต่างๆ ที่ดูเรียลของ BOYHOOD มีความน่าสนใจให้เราเห็นและติดตาม ในที่นี้ไม่ได้พูดถึงตัวละครแต่เล่าถึงองค์ประกอบที่อยู่รอบตัวทั้งเพลงและดนตรีที่เปลี่ยนแปลงไปตามปี, อุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ ตั้งแต่เกมส์ยันมาถึงไอโฟนแม้แต่ เฟซบุ๊ค!!, เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริง สงครามในอีรักไปจนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2008 อะไรก็ตามนี้ หรือแม้แต่เรื่องที่ไม่รู้จะเกิดหรือไม่อย่าง STAR WARS: EPISODE VII !! หนังมันจึงดูมีความน่าสนใจและสมควรค่าต่อการเฝ้าตามการเติบโตของตัวละครเป็นอย่างมาก, BOYHOOD ไม่ใช่หนังก้าวพ้นวัยที่ดีที่สุด แต่เป็นหนังที่เราได้เห็นการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงที่สมจริงที่สุด และนี่เป็นหนังที่คุ้มค่าต่อการดูครับ คุ้มค่าพอเมื่อเพลง Hero ของ Family of the Year ขึ้นตอนท้ายเรื่องคุณจะขนลุกครับ...
ความยาวทั้งหมด 165 นาที
คะแนน 8/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น