วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

THE LONE RANGER


THE LONE RANGER / หน้ากากพิฆาตอธรรม


ผู้จัดจำหน่าย : WALT DISNEY STUDIOS MOTION PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : JERRY BRUCKHEIMER FILMS
ผู้กำกับ : กอร์ เวอร์บินสกี้ (PIRATES OF THE CARIBBEAN TRILOGY, RANGO)
ประเภทของหนัง : ACTION | ADVENTURE

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“Hi-yo! Silver, Away!! ความบันเทิงฉบับคาวบอย”


THE LONE RANGER คือละครวิทยุเรื่องดังในปี 1933 ก่อนที่ต่อมาจะกลายเป็นภาพยนตร์ชุดทางทีวีตั้งแต่ปี 1949 - 1957 กินเวลาถึง 5 ซีซั่นกว่า 221 ตอน ซึ่งเรื่องราวของ THE LONE RANGER เป็นเรื่องของชายสองคน โลน เรนเจอร์ ชายสวมหน้ากาก และ ตอนโต้ ชายจากเผ่าอินเดียแดง ที่ออกเดินทางปราบเหล่าร้ายทั่วอเมริกา สำหรับ THE LONE RANGER นั้นเคยมีฉบับภาพยนตร์ออกฉายเมื่อปี 1956 และมีภาคต่อในปี 1958 จนประมาณปี 1981 ก็มีฉบับใหม่ออกมา และแล้วในปี 2013 นี้ โลน เรนเจอร์ และ ตอนโต้ ก็กลับคือสู่แผ่นฟิลม์อีกครั้ง กับการปลุกชีพซีรี่ย์ที่ตายไปแล้วโดยยอดโปรดิวเซอร์มือทองแห่งยุคที่เคยสร้างปรากฏการณ์มานับครั้งไม่ถ้วนอย่าง เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ และกำกับโดย กอร์ เวอร์บินสกี้..!!

ครั้งนึง เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ เคยพยายามนำสูตรสำเร็จที่ทำให้ซีรี่ย์ PIRATES OF THE CARIBBEAN ดังเป็นพลุแตกมาแล้วมาใช้กับ PRINCE OF PERSIA: THE SANDS OF TIME เมื่อปี 2010 นั้นก็คือ บทสนทนาของตัวละคร, การพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละคร, การดำเนินเรื่องของหนัง, ความฮาที่หนังใส่เข้ามา, ฉากแอ็คชั่นสุดอลังการ ซึ่งผลที่ได้ก็ไม่เวิร์คในด้านการทำเงินเพราะทุนสร้างถึง 200 ล้าน แต่เก็บกลับมาแค่ 335 ล้านซึ่งเกินทุนสร้างแต่ก็ไม่กำไร แต่ถามว่าหนังสนุกหรือไม่ก็ตอบว่าจัดว่าสนุกและให้ความบันเทิงมากๆ อยู่ และกับ THE LONE RANGER คือความพยายามครั้งที่สองของ บรัคไฮเมอร์ ซึ่งหนังก็จัดว่าให้ความบันเทิงมากๆ!!


หนังมีลูกล่อลูกชนเยอะมาก ทั้งบทสนทนาของตัวละครก็เยี่ยมยุทธมาก โดยเฉพาะยามใดมันหลุดมาจากปากของตอนโต้ หรือทั้งการดำเนินเรื่องก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ดี อาจจะติดแค่ว่าหนังนานไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเบื่ออะไร ก็สนุกอยู่ ความฮาก็มี อีกทั้งการพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครซึ่งก็คือ โลน เรนเจอร์ และ ตอนโต้ ก็ทำให้เราติดตามไปได้ตลอดเรื่อง แต่หากเอาไปเปรียบเทียบกับชุด PIRATES OF THE CARIBBEAN จะพบได้ว่ามันสู้ไม่ได้ ทั้งหมดที่กล่าวมาสู้ไม่ได้แม้แต่นิด แต่การเอาสูตรสำเร็จของซีรี่ย์ PIRATES OF THE CARIBBEAN มาใช้ก็ส่งผลดีต่อ THE LONE RANGER เป็นอย่างมาก อาจจะเป็นรองอยู่แต่อย่างน้อยด้านฉากแอ็คชั่นก็จัดว่าบันเทิงอยู่ เพราะฉากไคลแม็กซ์ก็อลังการสุดๆ

ซึ่ง THE LONE RANGER จัดว่าเป็นหนังที่มีความบันเทิงเป็นจุดขายสำคัญ ภายใต้องค์ประกอบชั้นยอดอย่าง โปรดัคชั่นอลังการ, ทีมนักแสดง, ผู้กำกับ, โปรดิวเซอร์, ทีมงานเบื้องหลัง ซึ่ง THE LONE RANGER อาจจะดำเนินเรื่องสนุก แต่หนังก็มีปัญหาอยู่หน่อยด้านตัวบทเพราะเห็นจุดผิดพลาดเยอะแยะ ทั้งความต่อเนื่องของหนังเอง ซึ่งจุดผิดพลาดนี้ก็ไม่รู้ไปเลียนแบบ PIRATES OF THE CARIBBEAN หรือเปล่า แต่โดยสรุปแล้วเราก็มองข้ามไปได้เพราะก็ไม่ได้ไปขัดกับความสนุกโดยรวมของหนังอะไรหนักแถมอีกอย่างอย่าลืมว่ามันเป็นหนังที่โปรดิวซ์โดย เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ ก็ทำให้เราเออออไปกับหนังได้จนตลอดรอดฝั่ง


ตัวตอนโต้ กับ โลน เรนเจอร์ จัดว่ามีความสัมพันธ์ที่โดดเด่นตั้งแต่ฉากแรกยันฉากสุดท้ายที่ทำให้เห็นถึงการพัฒนาของตัวละครที่ต้องบังเอิญจับคู่กันทำงานด้วยจุดประสงค์ส่วนตัว จนทำให้อยากรู้ว่าทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อไปหากมีโอกาศทำภาคต่อ อีกทั้งหนังมีประเด็นสอดแทรกเรื่องความยุติธรรมเข้ามา คนดีใส่หน้ากากปราบความไม่ยุติธรรมก็ดูจะสื่อได้ดี แต่เหนือสิ่งอื่นใดนี่คือการปลุกชีพครั้งสำคัญจริงๆ ให้กับ ซีรี่ย์ที่ตายไปแล้วอย่าง THE LONE RANGER ให้กลับมาคืนชีพได้เป็นผลสำเร็จ ขอวกกลับมาที่ด้านฉากแอ็คชั่นซักหน่อยหนังใช้ประโยชน์จากงานโปรดัคชั่นได้ดีมาก โดยเฉพาะฉากแอ็คชั่นบนรถไฟในช่วงท้าย ที่โดดเด่นมาก รวมถึงฉากอื่นๆ หนังก็ใช้ประโยชน์ของโปรดัคชั่นได้ดีมากๆ

หนังเป็นหนังประเภทที่ดูได้ทุกเพศทุกวัยครับ หากต้องการหนังประเภทบันเทิงก็จัดไปเลย, การแสดงของ จอห์นนี่ เด็ปป์ ก็จัดว่าดีขโมยซีน อาร์มี่ แฮมเมอร์ อยู่พอสมควร แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องยอมรับว่า เคมี ของ เด็ปป์ และ แฮมเมอร์ เข้ากันอยู่พอสมควรหากไม่ติดว่า เด็ปป์ แย่งซีน แฮมเมอร์ ไป แต่หากว่าป๋าเด็ปป์ที่ว่าแน่ก็โดนม้าซิลเวอร์ขโมยซีนไปอยู่เหมือนกัน ด้านนักแสดงคนอื่นๆ อย่าง วิลเลี่ยม ฟิตเนอร์ ก็เด่นในบทตัวร้าย บุตช์ หรือ ทอม วิลคินสัน ก็เด่น หรือแม้แต่ รูธ วิลสัน ก็สวยเด่นอยู่พอสมควร แต่ดูแล้วหากไม่นับ เด็ปป์ และ แฮมเมอร์ อีกคนที่เด่นเกินหน้าเกินตาคงไม่พ้น เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์ ในบท เร็ด ที่เด่นทุกครั้งที่ออกมา


กอร์ เวอร์บินสกี้ ทำหนังออกมาได้ดีไม่ทิ้งลายตัวเอง แต่อย่างที่บอกหนังมีปัญหาเรื่องบทที่เห็นจุดผิดพลาดแต่ก็อย่างที่บอกเออออไปกับมันได้ เวอร์บินสกี้ สร้างสรรค์หนังให้ออกมาสนุกได้โดยไม่ต้องสนตัวบทภาพยนตร์, ฮานส์ ซิมเมอร์ มาทำสกอร์ในหนังเรื่องนี้จะจัดว่าแกผิดฟอร์มก็เป็นได้เพราะ 90% ของสกอร์ที่แกคอมโพเซอร์ขึ้นมาดูจะไม่ส่งให้หนังเด่นขึ้นมา ยกเว้นสกอร์ที่มีชื่อว่า FINALE ที่ใช้ในฉากแอ็คชั่นสุดท้ายที่มีอารมณ์ความเป็นคาวบอยผสมจังหวะที่ฟังก็รู้ว่าสื่อความเป็นอเมริกา นั้นเป็นสกอร์ที่โดดเด่นและเวิร์คที่สุดและมีประโยชน์สุดๆ กับฉากแอ็คชั่น ซึ่งจัดว่าสกอร์เดียวลบข้อผิดพลาดของสกอร์ในหนังเรื่องนี้ได้...

สรุป
“THE LONE RANGER เป็นหนังคาวบอยเอพิคผจญภัยบล็อคบัสเตอร์ที่สามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย มีฉากแอ็คชั่น รวมถึงโปรดัคชั่นชั้นยอดใส่เข้ามา และก็โดดเด่นในด้านตัวละคร และโดดเด่นด้านความบันเทิง ผ่านบทสนทนา การดำเนินเรื่องที่ไม่สนใคร แต่มีปัญหาด้อยเรื่องบทที่เห็นจุดอ่อน แต่โดยรวมก็ผ่าน เหมาะสมมากหากได้ทำภาคสอง”


ความยาวทั้งหมด 149 นาที
คะแนน 8/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger