PAWN SACRIFICE

PAWN SACRIFICE / เดิมพันชาติรุกฆาตโลก

ผู้จัดจำหน่าย : BLEECKER STREET MEDIA

สตูดิโอผู้สร้าง : MICA ENTERTAINMENT

ผู้กำกับ : เอ็ดเวิร์ด ซวิค (THE LAST SAMURAI, LOVE & OTHER DRUGS)

ประเภทของหนัง : BIOGRAPHY | DRAMA

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง

อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง

“เสียสละตัวเบี้ยแล้วมุ่งหน้าสู่ชัยชนะ การแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ โทบี้ แม็คไกวร์”

ถึงแม้ว่าตัวหนังจะว่าด้วยเรื่องวงการหมากรุกแต่ถึงกระนั้นถ้าคุณจะไปดูหนังเรื่องนี้ถึงแม้ไม่รู้เรื่องกฏกติกาของการเล่นหมากรุกคุณก็สามารถที่จะดูหนังเรื่องนี้รู้เรื่องได้อย่างแน่นอน และสำหรับ PAWN SACRIFICE (ศัพท์วงการหมากรุกหมายถึงการเสียสละ ตัวเบี้ย (พอน) เพื่อเดินหน้าต่อไปหรือมุ่งสู่ชัยชนะ) เป็นงานกำกับชิ้นใหม่ของ เอ็ดเวิร์ด ซวิค (THE LAST SAMURAI, BLOOD DIAMOND และ LOVE & OTHER DRUGS) ครับ

โดยหนังนั้นจะเน้นไปที่การเล่าเรื่องชีวิตของนักหมากรุกอัจฉริยะของอเมริกาอย่าง บ็อบบี้ ฟิสเชอร์ (รับบทโดย โทบี้ แม็คไกวร์) ที่ตกกลายเป็นเครื่องมือของชาติปลุกขวัญกำลังใจแด่ผู้คนในช่วง 'สงครามเย็น' ในเวลานั้นที่ บ็อบบี้ ต้องมีศึกปะทะกับ บอรีส สเปสส์กี้ (ลีฟ ชไรเบอร์) สุดยอดนักหมากรุกของโซเวียต ในศึกชิงแชมป์โลกประจำปี 1972 นั่นทำให้แมทช์นี้กลายเป็นศึกชิงแชมป์ระหว่างสองขั่วอำนาจของโลก อเมริกา ปะทะ โซเวียต !!

ด้วยการที่หนังเป็นหนังที่เล่าเรื่องหมากรุกเป็นหลักแต่สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในการชมหนังเรื่องนี้กลับหาใช่เรื่องหมากรุกครับ แต่กลับเป็นที่การเล่าเรื่องและการแสดงอันเฉียบขาดของ โทบี้ แม็คไกวร์ ครับ โอเคหมากรุกก็สำคัญนั่นแหละเพราะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หนังเดินเรื่องไปข้างหน้าได้ แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปจะพบว่าหนังเล่าเรื่องชีวิตจิตๆ ของ บ็อบบี้ ได้อย่างถึงแก่นครับ

ด้วยความที่ บ็อบบี้ เนี่ยเขาเป็นอัจฉริยะของวงการหมากรุกมาตั้งแต่เด็ก แถมวัยเด็กยังเจอเรื่องแปลกๆ จากที่บ้านมากมายไหนจะเป็นเด็กไม่มีพ่ออีก ก็เลยมีปัญหากับเรื่องนู่นนี่นั่นมากมาย จนเกิดเป็นอาการทางจิตขึ้นมา พอเติบโตขึ้นมาไอ้อาการนี้ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ พอมาจุดๆ หนึ่ง บ็อบบี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลาที่รอวันระเบิด แถมต่อมายังถูกปั่นหัวเรื่องรักชาติ, ยิว, คอมมิวนิสต์ อีก ซึ่งไอ้ระเบิดเวลาที่ว่าก็ดันมาระเบิดในศึกชิงแชมป์โลกอีก!

ซึ่งไอ้ตัวหนังเนี่ยเล่าเรื่องได้ดีมากน่ะเปิดเรื่องได้น่าสนใจพอตัวแต่แทนที่พอหนังดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ แล้วจะดรอปลงแต่กลายเป็นว่าหนังกลับเล่าเรื่องได้ดีไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ และมาพีคสุดๆ ในช่วงศึกชิงแชมป์โลก คือเนื้อเรื่องและเนื้อหาหนังดีมาก ฉากเล่นหมากรุกในท้ายเรื่องก็ทำได้ตื่นเต้นและลุ้นมาก (นี่ขนาดรู้บทสรุปศึกชิงแชมป์โลกมาก่อนยังระทึกไปด้วยเลย)

แต่ถึงจะเล่าเรื่องได้ดีเพียงไรแต่ถ้าไม่มีการแสดงที่ดีและสมบูรณ์แบบของ โทบี้ แม็คไกวร์ เนี่ยบางทีหนังอาจจะไม่วิ่งมาถึงตรงนี้ก็ได้น่ะ โทบี้ เข้าถึงบทมากทั้งสีหน้า, แววตา, ท่าทางและการแสดง แต่เอาจริงๆ ไม่กล้าพูดว่าบท บ็อบบี้ ฟิสเชอร์ คือบทที่ โทบี้ เล่นแล้วเหมาะสมที่สุดน่ะ แต่บท บ็อบบี้ ฟิสเชอร์ นี่เป็นบทที่โชว์ความสามารถการแสดงของ โทบี้ ได้ยอดเยี่ยมที่สุดครับ...