THE TRANSPORTER REFUELED

THE TRANSPORTER REFUELED / คนระห่ำคว่ำนรก

ผู้จัดจำหน่าย : EUROPA CORP

สตูดิโอผู้สร้าง : EUROPA CORP

ผู้กำกับ : คามิลล์ เดลาแมร์ (BRICK MANSION)

ประเภทของหนัง : ACTION | CRIME | THRILLER

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง

อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง

“เติมน้ำมันให้กับแฟรนไชส์ ทรานสปอร์ตเตอร์ !!"

แฟรงค์ มาร์ติน เจ้าของสมญานาม "ทรานสปอร์ตเตอร์" บุรุษผู้ที่รับขับรถรับส่งทุกอย่างแลกกับเงิน! โดยแฟรงค์จะทำงานให้กับลูกค้าภายใต้กฏ 3 ข้อคือ 1. ดีลห้ามเปลี่ยนแปลง, 2. ห้ามบอกชื่อ และ 3. ห้ามไม่เปิด นี่คือข้อมูลสั้นๆ ที่คอหนังแอ็คชั่นน่าจะรู้จักกันดีจากแฟรนไชส์ เดอะ ทรานสปอร์ตเตอร์ ที่โด่งดังภายใต้ชื่อของ เจสัน สเตแธม ซึ่งแฟรนไชส์ฉบับสเตแธมจบลงไปในปี 2008 แต่ในปี 2015 นี้ทีมผู้สร้างชุดเดิมนำโดย ลุค เบสซง ตัดสินใจคืนชีพแฟรนไชส์ เดอะ ทรานสปอร์ตเตอร์ อีกหน! โดยหนนี้เรียกว่ายกเครื่องใหม่ก็ว่าได้โดยเปลี่ยนดารานำจาก เจสัน สเตแธม มาเป็น เอ็ด สไครน์ อีกหนึ่งดาราจากซีรี่ย์สุดฮิต GAME OF THRONES ภายใต้งานกำกับของ คามิลล์ เดลาแมร์ (BRICK MANSION)

ถ้า แฟรงค์ มาร์ติน มีกฏในการทำงานอยู่ถึง 3 ข้อ คนดูอย่างเราก็มีกฏอยู่เพียงข้อเดียวเท่านั้น! คืออย่าเอาฉบับ เอ็ด สไครน์ ไปเปรียบเทียบกับฉบับที่ เจสัน สเตแธม นำแสดง เพราะถ้าขืนเอาฉบับนี้ไปเปรียบเทียบล่ะก็... เนื้อหาในภาคนี้เกิดขึ้นเมื่อ อันนา (รับบทโดย โลน ชาบาโนล) หญิงสาวปริศนาผู้ว่าจ้าง แฟรงค์ ให้มาทำงานที่แฟรงค์ถนัด แต่แล้วเมื่อพ่อของแฟรงค์ แฟรงค์ ซีเนียร์ (รับบทโดย เรย์ สตีเวนสัน) โดนจับตัวไปโดยอันนาเพื่อบีบบังคับให้แฟรงค์ร่วมมือในการโค่นล้มแก็งค์มาเฟีย นั่นทำให้แฟรงค์ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องร่วมมือช่วยเพื่อให้พ่อปลอดภัย

คือเรื่องย่อมันมีแค่ไหนเรื่องราวจริงของหนังทั้งหมดก็มีแค่นั้นจริงๆ นั่นแหละครับ เพราะงั้นถ้าจะมาดูเอาเนื้อหาหรือบทดีๆ นี่คงไม่ใช่คำตอบที่ดีสักเท่าไร.. แต่ถึงกระนั้นหนังก็มีดีอยู่น่ะ ซึ่งไอ้มีดีที่ว่านี่ไม่ใช่ฉากแอ็คชั่นน่ะแต่เป็นเรื่องของนักแสดงหรือทางด้านของตัวละครมากกว่า เอ็ด สไครน์ เป็น แฟรงค์ มาร์ติน ที่เท่บาดจิตบาดใจมากๆ มีเสน่ห์ชวนให้ (สาวๆ) หลงไหล ในขณะเดียวกัน โลน ชาบาโนล ก็เป็นตัวนำฝ่ายหญิงที่ทั้งสวยดุแถมยังเซ็กซี่และมีเสน่ห์บาดใจ (หนุ่มๆ) มาก แต่ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็โดนกลบรัศมีจริงๆ เมื่อต้องเข้าฉากพร้อมกับ เรย์ สตีเวนสัน ในบท แฟรงค์ ซีเนียร์ ซึ่งมีเสน่ห์ยังไงขอไม่บอก แต่ไอ้คำว่าโดนแย่งซีนจนหมดเนี่ยใช้กับกรณีนี้ได้เลย

แต่ถึงอย่างนั้นถ้าจะมาดูเอาความมันส์ความสนุกหนังมันก็พอตอบสนองนีดได้อยู่ไม่มากก็น้อยครับ แต่แอบเสียดายที่ซัมเมอร์นี้ (หรือต้องบอกว่าปีนี้) ดันมีหนังที่ใช้รถไลล่าอยู่หลายเรื่องแถมทุกเรื่องดันทำได้โคตรดีทั้ง ฟิวเรียส 7 หรืออย่าง แมด แม็กซ์ ฟิวรี่ โร้ด อะไรพวกนี้ หรือแม้แต่พวกที่มีซีนไล่ล่าด้วยรถสั้นๆ แต่ดันทำได้สนุกมากอย่าง มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล - โร้ก เนชั่น หรือ เดอะ แมน ฟรอม อั.ง.เ.คิ.ล. (ฉากไล่ล่าตอนเปิดเรื่อง) และนั่นทำให้ เดอะ ทรานสปอร์ตเตอร์ กลายเป็นว่าเทียบกันแล้วหนังอยู่ในลำดับท้ายๆ เลยก็ว่าได้ในเรื่องของการซิ่งรถแอ็คชั่นอะไรแบบนี้

แต่ถ้าไม่ใส่ใจอะไรมากมายกับฉากแอ็คชั่นที่ต้องใหญ่ต้องมันส์แบบหนังบล็อคบัสเตอร์ทุนสูง แต่ต้องการดูอะไรที่เน้นเท่ๆ แบบเจ๋งๆ ไว้ก่อน แบบศิลปะการป้องกันตัว "เดอะ ทรานสปอร์ตเตอร์" น่าจะใช่สำหรับคุณ ซึ่งในหนังเนี่ยมีฉากหนึ่งที่เท่มากคือฉากที่ แฟรงค์ ออกไปกระทืบนักเลงพร้อมกับรถที่ไหลไปช้าๆ เป็นอะไรที่เท่ได้ใจจริงๆ แต่ก็อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า คืออย่าเอาฉบับ เอ็ด สไครน์ ไปเปรียบเทียบกับฉบับที่ เจสัน สเตแธม นำแสดงน่ะ ขอเตือนไว้เลย...