วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

CONAN THE BARBARIAN


CONAN THE BARBARIAN / โคแนน นักรบเถื่อน


(29/08/2011) - 130 BATH

สตูดิโอผู้สร้าง : LIONGATE
ผู้กำกับ : มาร์คัส ไนสเพล (FRIDAY THE 13TH)
ประเภทของหนัง : Action, Adventure, Fantasy

เนื้อเรื่องย่อ
ในยุคสมัยไฮบอเรีย ยุคที่โลกเต็มไปด้วยมนตรา สัตว์ร้าย นักรบ และ ของวิเศษ โลกได้ถือกำเนิด นักรบเพียงหนึ่งเดียว ที่ยืนหยัดต่อสู้ไม่ยอมแพ้ใคร ด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์ของเขา และ ความแค้นในใจที่ถูกฆ่าล้างเผ่าพันธ์ โคแนน (เจสัน โมมัว) หลังจากครอบครัวและคนในเผ่าถูก คฮาลาร์ ซิมส์ (สตีเฟ่น แลง) ฆ่าตายทั้งหมด เพราะต้องการครอบครอง “หน้ากากแห่งอาเครอน” ที่สามารถชุบชีวิตคนตายให้กลายเป็นอมตะ เขาคือผู้เดียวที่รอดชีวิตและเติบโตมาเป็นนักรบผู้แข็งแกร่ง โคแนนต้องฝ่าฟันอุปสรรคและสัตว์ร้ายในตำนานมากมาย เพื่อเอาชนะศัตรูและแก้แค้นให้เผ่าของเขา 
ภารกิจที่จุดประกายจากความแค้นส่วนตัว กลับกลายเป็นสงครามมหากาพย์กับกองทัพศัตรูสุดโหด ปีศาจร้ายที่น่าสะพรึงกลัว และการผจญภัยที่เหนือจินตนาการ โคแนน พบว่าเขาเป็นเพียงความหวังเดียว ที่จะกอบกู้การล่มสลายของยุคไฮบอเรียจากเงื้อมมือของปีศาจร้าย

มุมมอง
จากนิยายของ โรเบิร์ต อี ฮาวเวิร์ด สู่หนัง และกลายเป็นหนังแจ้งเกิด ผู้ว่าคนเหล็ก "อาร์โนล์ด ชวาร์ซเนคเกอร์"
หนังเล่าเรื่องตั้งแต่จุดกำเนิดของ โคแนน ที่มาที่ไปอย่างไร และ ทำไมถึงต้องตามหาอาฆาตล้างแค้น 
จุดเด่นของหนังคือ แอ็คชั่นที่สุดยอด และ โหด ดิบ เถื่อน ที่ว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงได้เรต R ที่อเมริกา (แต่เข้าไทยกลายเป็น น. 15+ ซะงั้น) ซึ่งจุดนี้ก็ไม่ได้สำคัญกับหนังเท่าไรนัก แต่ว่าก็มีข้อติของหนังคือ บทที่ยังไม่ค่อยแข็งแรงของหนังอยู่ อาทิ บทการรักกันของ พระเอก และ นางเอก ที่รักกันแสนง่าย กัน เกินไป แต่ก็พอมองข้ามไปได้ หรือ บทของพ่อลูก ของ คฮาลาร์ ซิมส์ และ มารีค ที่ยังไม่โดนเด่นพอ (ถ้าหนังเล่นจุดนี้มากกว่านี้หนังจะดีขึ้นมาก) หนังยังมีบทดราม่า ตลก แอ็คชั่น สลับกันไปมา ที่พอนำมากลบจุดผิดพลาดได้ (แต่ไม่มาก) และแอ็คชั่นที่มากลบจุดด้อยได้
แต่ที่คิดว่าดีที่สุดนั้น เป็นเรื่องราวกับรักของพ่อลูก ระหว่าง โคแนน กับ โคริน ที่เป็นความรักกันที่สามารถตายแทนกันได้ ในช่วงแรกและเป็นจุดสำคัญของเรื่องต่อจากนั้น

ด้านการแสดง เจสัน โมมัว ฟิต และ ดูดี ในบทของโคแนน (หนังเรื่องแรกที่รับบทพระเอกเต็มตัวเรื่องแรก) แต่ก็ยังดูมีการแสดงที่แข็งๆ อยู่
ราเชล นิโคลส์ สวยและโดดเด่น งดงาม ดูดี ในหนัง

สรุป
หนังเป็นหนังที่สร้างขึ้นมาเพื่อของแอ็คชั่นโดยเฉพาะ ดิบ เถื่อนได้ใจ ฆ่าเป็นฆ่า เลือดเป็นเลือด ตื้อเต้นเวลาแอ็คลั่น และเอาใจหนุ่มๆ (แต่ไมมาก อย่าหวังเลยว่าจะมีให้คุณดูเยอะเต็มตา) สนุกสุด ถ้าหากได้ดูแบบ 3D เพราะหนังสร้างมาเพื่อฉาย 3D โดยเฉพาะ

หนังยาวทั้งหมด 113 นาที
คะแนน 7.5/10

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

COWBOYS & ALIENS


COWBOYS & ALIENS / สงครามพันธุ์เดือด คาวบอยปะทะเอเลี่ยน


(28/08/2011) - 150 BATH

สตูดิโอผู้สร้าง : PARAMOUNT PICTURE, DREAMWORKS PICTURE, UNIVERSAL PICTURE
ผู้กำกับ : จอน ฟาฟโร (IRON MAN, IRON MAN 2)
ประเภทของหนัง : Action, Sci-Fi, Thriller


เนื้อเรื่องย่อ
ในปี 1873 ดินแดนอริโซนา ชายแปลกหน้า (เคร็ก) ที่ไม่มีความทรงจำในอดีตหลงเหลืออยู่เลย ได้บังเอิญผ่านเข้ามาในแอ็บโซลูชัน เมืองใจกลางทะเลทราย สิ่งเดียวที่บอกใบ้ถึงอดีตของเขาคือกุญแจมือลึกลับที่ห้อยอยู่ที่ข้อมือข้างหนึ่งของเขา สิ่งที่เขาค้นพบก็คือชาวเมืองแอ็บโซลูชันไม่ต้อนรับคนแปลกหน้า และก็ไม่มีใครเดินตามท้องถนนเว้นเสียแต่ได้รับคำสั่งจากร้อยโทกฎเหล็ก โดลาร์ไฮด์ (ฟอร์ด) นี่เป็นเมืองที่ชาวเมืองใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความกลัวโดยแท้
แต่แอ็บโซลูชันก็กำลังจะได้สัมผัสกับความกลัวที่น่าสะพรึงยิ่งกว่านั้น เมื่อเมืองที่โดดเดี่ยวแห่งนี้ถูกผู้มาเยือนจากฟากฟ้าโจมตี สัตว์ประหลาดเหล่านี้ที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงและมาพร้อมกับแสงจ้าแสบตาเพื่อลักพาตัวชาวเมืองผู้ไม่อาจปกป้องตัวเองได้ไปทีละคน ได้ท้าทายทุกสิ่งที่ชาวเมืองเคยรู้จัก
บัดนี้ ชายแปลกหน้าที่พวกเขาเคยปฏิเสธกลับกลายเป็นความหวังในการรอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของพวกเขา ขณะที่มือปืนหนุ่มคนนี้เริ่มจดจำได้ว่าเขาเป็นใครและเขามาจากที่ไหน เขาก็ค้นพบว่าตัวเองซ่อนความลับที่อาจทำให้เมืองแห่งนี้มีโอกาสที่จะตอบโต้กลับเหล่าเอเลียนได้ ด้วยความช่วยเหลือจากนักเดินทางผู้เร้นกาย เอลลา (โอลิเวีย ไวลด์) เขาก็ได้รวบรวมผู้ช่วยที่เคยเป็นคู่ปรับในครั้งเก่าของเขามาก่อน ซึ่งประกอบไปด้วยชาวเมือง โดลาร์ไฮด์และลูกสมุน พวกนอกกฎหมาย และนักรบอาปาเช เพื่อรับมือกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่คุกคามพวกเขาอยู่ เมื่อพวกเขารวมตัวกันต่อต้านศัตรูเดียวกัน นั่นหมายถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญหน้าครั้งสำคัญเพื่อความอยู่รอดของพวกเขา

มุมมอง
คาวบอย & เอเลี่ยน หนังที่สร้างมาจากหนังสือการ์ตูนชื่อเดียวกัน ของ สก็อตต์ มิตเชล โรเซนเบิร์ก ที่เขียนเมื่อปี 1997!!
หนังกำกับโดย จอน ฟาฟโร (ZATHURA, IRON MAN, IRON MAN 2)
เป็นหนังแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใครด้วย คอนเซปต์ที่วาด้วย เหล่าคาวบอยต้องมาสู่กับพวกเอเลี่ยนจากต่างดาว!!

จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือการดึงเอาจุดเด่นของหนัง คาวบอย ออกมาได้ดีและ ยังคงจิตวิญญาณของหนังคาวบอยตะวันตกที่จะต้องถือปืนยิงกันไว้ได้ ถ้าหากหนังเรื่องนี้มันชื่อว่า "คาวบอย" มิใช้ "คาวบอย & เอเลี่ยน" เพราะหนังได้เปลี่ยนจาก หนัง คาวบอย ธรรมดา กลายเป็นหนัง แอ็คชั่น-ไซไฟ ตื่รตาตระการใจไปในทันที!!

แต่เหมือนหนังจะไปทุ่มใส ตรงส่วนของแอ็คชั่นและโปรดักชั่นมากไป ทำให้ตรงส่วนของจุดที่ต้องการจะสื่อกับคนดูเสียไป นั้นก็ บท ที่ดูหลวมไปและไม่เข้าใจอยู่นิด แต่ก็ไม่มาก แต่ว่า ยังมีส่วนดีของหนัง นั้นก็คือ การแสดงของนักแสดงที่เล่นได้ดีอยู่มาแก้ในส่วนนี้

แดเนียล เคร็ก (Casino Royale, Quantam of Solace) ที่มารับบท เจ็ค โลเนอร์แกน ชายหนุ่มที่ความจำเสื่อม แต่ต้องมาสู้กับเอเลี่ยน และต้องตามหาความทรงจำในอดีตคืนมา พี่เคร็ก เล่นได้คงมาตรฐานของตัวเองไว้ ที่ก็ บทนิ่งๆ ยิงปืน ปังๆๆๆ แค่นั้นละ
แฮร์ริสัน ฟอร์ด (Indiana Jones) ในบทของ ผู้พัน โดลาร์ไฮด์ ที่ค่อยเปลี่ยนจากชายที่แข็งกระด่าง แล้วมาอ่อนโยนในที่สุด (ทั้งทีตอนแรกออกจะร้ายกาจ ซะอย่างนั้น) ป๋า ฟอร์ด ทำได้ดีในส่วนนี้
โอลีเวีย ไวลด์ (Tron: Legacy) ในบทของ เอลล่า สเวนสัน หญิงสาวปริศนาในเมือง ที่มีความลับอันยิ่งใหญ่ โอลิเวีย ไวล์ด สวยและโดนเด่น และใจถึง!! พัฒนาจาก ทรอน ขึ้นมาเยอะ
โนอาห์ ริงเกอร์ (The Last Airbender) ในบทของ เอมเม็ต ทาร์กการ์ท เล่นดีและโดนเด่นแย่งซีนทุกครั้งที่ปรากฏตัว ทั้งที่เป็นการแสดงเรื่องที่ 2 ในเครดิตของเจ้าหนูคนนี้
และที่สุดยอดที่สุดขอยกให้ แซม ร็อคเวลล์ (IRON MAN 2) เล่นดีมากในบทของ ด็อค (เล่นดียังไงต้องไปดูกันเอง)

สรุป
เป็นหนังที่ดีในส่วนแอ็คชั่นทีใส่มาให้มาเต็ม 100 และการแสดงที่ดีของนักแสดง แต่มีของเสียอยู่ในส่วนของบทอยู่ ทำให้กลายเป็นที่ดูสนุกในส่วนแอ็คชั่นตระการตา และเหมือนเป็นการเกือบจะเอาชื่อมาทิ้งของ จอน ฟาฟโร!!

หนังยาวทั้งหมด 118 นาที
คะแนน 7.5/10

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

WU XIA



WU XIA / นักฆ่าเทวดา แขนเดียว

(10/08/2011) - 89 BATH

สตูดิโอผู้สร้าง : WE PICTURE
ผู้กำกับ : ปีเตอร์ ชาน

เรื่องราวใน Wu Xia เกิดขึ้นช่วงปลายราชวงศ์ชิง เมื่อ หลิวจินซี (ดอนนี่ เยน) ช่างทำกระดาษที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับ อายู (ถังเหว่ย) ภรรยาและลูกชายทั้งสองคนในหมู่บ้านเล็กๆ แต่แล้วการเดินทางมาของผู้ชายคนหนึ่ง ก็ทำให้โลกอันแสนสงบของเขาต้องจบลง
ซูไป๋จิ่ว (ทาเคชิ คาเนชิโร่) นักสืบจากเมืองหลวง เดินทางเข้ามาสืบสวนถึงการเสียชีวิตของโจรสองคน ที่ถูกสังหารจากการป้องกันตัวของ หลิวจินซี แต่ด้วยการชันสูตรด้วยวิธีการแบบตะวันตก ซูไป๋จิ่ว ค้นพบว่าทั้งสองไม่ใช่โจรธรรมดา แต่เป็นนักฆ่าที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการต่อสู้… แล้วชาวบ้านทั่วไปอย่าง หลิวจินซี สามารถจัดการนักฆ่ามืออาชีพได้ยังไง?
ด้วยความเป็นคนใฝ่ศึกษาศาสตร์กังฟู ซูไป๋จิ่ว ได้ข้อสรุปว่านี่ไม่ใช่โชคของ หลิวจินซี เขาต้องมีฝีมือในการต่อสู้อย่างแน่นอน การสืบสวนของ ซูไป๋จิ่ว นำเขาโยงไปถึง “72 อสูร” สมาคมนักฆ่าที่โหดเหี้ยมและอันตรายที่สุด ที่สมาชิกแต่ละคนถูกฝึกให้ฆ่าคู่ต่อสู้ โดยเฉพาะ ซือฟู่ (หวังหยู่) หัวหน้าสมาคมนักฆ่า ที่มีเคล็ดลับวิชาที่ทรงพลังในแบบที่ไม่มีใครเทียบได้
แต่ยิ่ง ซูไป๋จิ่ว ขุดค้นอดีตของ หลิวจินซี มากเท่าไร เขาก็ยิ่งสับสนว่า หลิวจินซี พูดความจริงหรือว่ากำลังหลอกเขาอยู่ เพื่อที่จะไขคดีนี้ ซูไป๋จิ่ว ตัดสินใจเข้าทำร้าย หลิวจินซี หวังที่จะให้เขาเผยความลับออกมา แต่ หลิวจินซี กลับนิ่งเฉยและถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ทำให้ ซูไป๋จิ่ว รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำ แต่ก่อนที่เขาจะถอดใจและกลับเมืองหลวง ก็มีหลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่งที่ยืนยันว่า แท้จริงแล้ว หลิวจินซี ก็คือ ถังหลง รองหัวหน้าของกลุ่ม 72 อสูร ที่เชี่ยวชาญเรื่องในการสังหารที่สุด วันหนึ่ง ถังหลง รู้สึกเสียใจกับความผิดที่เขาได้ก่อ และตัดสินใจทิ้งความชั่วร้ายเอาไว้เบื้องหลัง
ข่าวคราวเรื่องที่กบดานของ หลิวจินซี ได้ล่วงไปถึงหูของ ซือฟู่ ซึ่งยังทำใจไม่ได้กับการถูกหักหลังโดยคนที่เขารักเหมือนลูก ซือฟู่ ส่งสารไปบอก หลิวจินซี ว่าจะสังหารทุกคนในครอบครัว ถ้าเขาไม่กลับมาอยู่ในสมาคมนักฆ่า โดยในขณะที่ ซูไป๋จิ่ว ซึ่งรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงก็ต้องตัดสินใจว่าจะนำ หลิวจินซี กลับไปรับโทษดีหรือไม่ สามนักฆ่ามือดีที่สุดจากกลุ่ม 72 อสูร ก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านเพื่อนำตัว หลิวจินซี กลับไปเช่นกัน
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายจะเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของทุกคน เมื่อ ซูไป๋จิ่ว ต้องเลือกระหว่างความยุติธรรมหรือศีลธรรม เส้นทางสู่การไถ่บาปของ หลิวจินซี ที่เต็มไปด้วยเลือดจะลงเอยเช่นไร

หนังดำเนินเนื้อเรื่องผ่านการต่อสู้ และ ปมในอดีตของ หลิวจินซี ที่ส่วนมากจะมาพร้อมกับฉากแอ็คชั่น สลับกับการสืบสวนคดีของ ซูไป๋จิ่ว สลับกันไปมา ทำให้คนดูมีความรู้สึกร่วมไปกับในหนัง และ ไม่รู้สึกเบื่อ แม้จะมีความรู้สึกเนื่อยๆ เบื่อๆ ของหนังอยู่สักนิดก็เถอะ และในฉากกลางๆเรื่อง ถึง ช่วงหนังจบ ตัวหนังจะมีความดราม่า อยู่มากๆ ระหว่าง หลิวจินซี และ ซูไป๋จิ่ว เกี่ยวกับปริศนาเกี่ยวข้องกับพ่อของ และอดีตของ หลิวจินซี ที่เป็นลูกชายของหัวหน้ากลุ่ม 72 อสูร!!
อนึ่งขอ ชื่นชมความสามารถของ ปีเตอร์ ชาน มากๆ ในความสามารถในการกำกับ ที่สามารถเล่าเรื่องได้ครบรส ทั้งบทตลก ดราม่า และ แอ็คชั่น ที่เมื่อไปรวม กับ การกำกับ คิวบู๊ ของ ดอนนี่ เยน แล้ว ผลผลิตที่ออกมาจึงกลายเป็นว่า หนังออกมาได้ครบรสมากๆ และลงตัวในเกือบทุกด้าน แม้จะมีปัญหาในการเล่าเรื่อง ที่อาจทำให้คนดู งงและมึน กับหนัง นิดๆ ในบางช่วง แต่นั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหากับหนังเรื่องนี้เลยสักนิดเดียว
ส่วน การแสดงที่ต้องชื่นชมที่สุดในเรื่องต้องยกให้ให้กับ ทาเคชิ คาเนชิโร่ ที่เล่นได้ดีมากในบทของ ซูไป๋จิ่ว คุณนักสืบทีเข้ามาสืบคดี และบทในเรื่องที่เค้าต้องเลือกระหว่างความยุติธรรมและศิลธรรมในการไขคดี ซึ่งรวมกันแล้ว ออกมา เป็นการแสดงที่ลงตัวกับ ดอนนี่ เยน และ บทบาทที่ลงตัวของเค้า ทำให้สามารถบอกได้ว่า นี่คือคู่ ที่ลงตัวมากๆ ในการแสดงหนังเรื่องนี้
สรุปนี่คือการกลับมาของ ปีเตอร์ ชาน ที่สามารถบอกได้ว่าเกือบจะ เพอร์เฟกต์ ส่วน คุณพี่ ดอนนี่ เยน นั้น มาตรฐานคงเส้นคงว่า มาตั้งแต่ ยิปมันแล้ว
ส่วนใครที่ งง กับชื่อเรื่องของหนังเรื่องนี้ "นักฆ่าเทวดา แขนเดียว" ในหนังจะมีการบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้

ความยาวหนัง 126 นาที

คะแนน 8.5/10

วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554

RISE OF THE PLANET OF THE APES



RISE OF THE PLANET OF THE APES / กำเนิดพิภพวานร

(06/08/2011) - 150 BATH

ผู้จัดจำหน่าย : 20TH CENTURY FOX
ผู้กำกับ : รูเพิร์ต ไวแอตต์


ภาพยนตร์เรื่อง RISE OF THE PLANET OF THE APES (กำเนิดพิภพวานร) เป็นการผสมผสานของการบอกเล่าเรื่องราวในจินตนาการกับการก้าวกระโดดของวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ขั้นต่อไป สำหรับภาพยนตร์ประสบการณ์ของภาพยนตร์ที่มีอารมณ์ความรู้สึกและฉากแอ็คชั่นที่ไม่เหมือนภาพยนตร์เรื่องไหนมาก่อน โดยเป็นการเริ่มต้นจากความถือดีของมนุษย์ซึ่งเป็นชนวนเหตุการณ์ต่างๆ ที่นำไปสู่ความฉลาดของฝูงวานร และเป็นการท้าทายแห่งดินแดนของเราซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีอำนาจในการครองโลก ซีซ่าร์เป็นวานรอัจฉริยะตัวแรกที่ถูกมนุษย์ล่อลวง และลุกขึ้นมานำเผ่าพันธุ์ของเขาเพื่อแข่งขันกับอิสรภาพอย่างน่าตื่นเต้น และเผชิญหน้ากับมนุษยชาติในท้ายที่สุด
โดยเรื่องราวใน Rise of the Planet of the Apes เกิดขี้นในยุคปัจจุบัน เมื่อนักวิทยาศาสตร์หนุ่มไฟแรง วิล ร็อดแมน (เจมส์ ฟรังโก้) ได้ทำการทดลองยาฟื้นฟูเซลล์ชนิดใหม่กับลิง จนทำให้ลิงมีความก้าวกระโดดทางด้านสติปัญญาเกินขีดจำกัด เมื่อบวกกับพละกำลังที่มีอยู่ สุดท้ายแล้ว พวกลิงเหล่านี้ก็คิดการใหญ่หวังปลดแอกตัวเองจากมนุษย์!

สรุป
หนังเล่าเรื่องดีตั้งแต่ต้น ไม่ว่าการที่ วิล ต้องการสร้างยาเพื่อรักษาโรคอัลไซเมอร์ของพ่อซึ่งจะเป็นเหตุที่ทำไมวิล ถึงต้องเลี้ยง ซีซาร์ รวมถึงพัฒนาการของเจ้าลิง ซีซาร์ ตั้งแต่เป็นลิงแสนเชืองไปถึงการเป็นหัวหน้าในการปฏิวัติ ว่าทำไมถึงต้องทำกับมนุษย์อย่างนี้ หนังเรื่องนี้ยังต้องการแสดงให้เห็นถึง "ความทะนงตน คิดว่าตัวเองคือผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์ และพยายามลองดีกับธรรมชาติ โดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา" ซึ่งเป็นใจความสำคัญของหนัง อนึ่ง เหมือนว่า RISE OF PLANET OF THE APES ยังน่าจะมีภาคตอไปเพราะทิ้งปมสำคัญไว้ ว่า แล้วทำไมยังไงลิงพวกนี้ถึงกลายเป็นเจ้าของโลกในอนาคตได้ 
สำหรับการแสดงที่ต้องชื่นชมในเรื่อง คือ "แอนดี้ เซอร์คิส" ที่แสดงเป็น วานรซีซาร์ ในเรื่อง เป็นการแสดงที่สุดยอด แล้วเมื่อ ไปรวมกับ CG ททำให้รู้สึกราวกับว่า ลิงซีซาร์ เหมือนมีชีวิตจริง

หนังความยาว 105 นาที

คะแนน 9/10
Powered By Blogger