วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

LEE DANIELS' THE BUTLER


LEE DANIELS' THE BUTLER / เกียรติยศพ่อบ้านบันลือโลก


ผู้จัดจำหน่าย : THE WEINSTEIN COMPANY
สตูดิโอผู้สร้าง : FOLLOW THROUGH PRODUCTIONS, SALAMANDER PICTURES
ผู้กำกับ : ลี แดเนี่ยลส์ (PRECIOUS, THE PAPERBOY)
ประเภทของหนัง : BIOGRAPHY | DRAMA

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“หนังดีที่น่าเบื่อ แต่ก็เป็นหนังบอกเล่าประวัติศาสตร์การแบ่งแยกสีผิวที่น่าจะเอาไปเรียนในห้องเรียนได้ดี (หรือเปล่า?)”


อย่างที่บอกเลยครับ ‘หนังดีที่น่าเบื่อ’ สำหรับหนังใหม่ของ ลี แดเนี่ยลส์ แห่ง PRECIOUS และ THE PAPERBOY นั่นก็คือ LEE DANIELS' THE BUTLER ซึ่งคำว่าหนังดีที่น่าเบื่อก็คือ อย่างแรกเลยครับคำว่า หนังดี หนังเป็นหนังที่ดีมากๆ เป็นหนังที่ทำให้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์การแบ่งแยกสีผิวของอเมริกา การต่อสู้ของคนผิวสีเพื่อความเท่าเทียมกัน ผ่านตัวละครของ ซีซิล เกนส์ ตัวละครพ่อบ้านในทำเนียบขาวที่อ้างอิงมาจาก ยูจิน อัลเลน พ่อบ้านที่อยู่ในทำเนียบขาวมาหลายสิบปี ไหนจะมีเรื่องราวของประธานาธิบดีแต่ละคนให้เรียนรู้อีก ถือว่าหากจะนับว่าหนังเป็นหนังที่ทำให้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ในห้องเรียนก็นับว่าเป็นหนังที่ดีไม่ต่างกับ LINCOLN ของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก เมื่อปีที่ผ่านมา หากเอาไว้เรียนล่ะก็น่ะ

แต่กับอย่างที่สองคำว่า น่าเบื่อ คือไอ้คำว่าน่าเบื่อเนี่ยในที่นี้คือ หนังดำเนินเรื่องได้น่าเบื่อเกินไปจะด้วยเหตุผลที่หนังดำเนินเรื่องข้ามประธานาธิบดีคนนั้นไปคนนี้เร็วเกินไปหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ เฉลี่ยประธานาธิบดีคนหนึ่งมีเวลากันไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ มีที่โดดเด่นหน่อยก็คือช่วงของ ประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน (อลัน ริคแมน) แต่กับประธานาธิบดีคนอื่นที่มีบทบาทน้อยไปหน่อยกับไอ้การจะดำเนินเรื่องใส่เนื้อที่กระทบต่อเนื้อหาเลยดูไม่หนักแน่นเท่าที่ควรจะเป็น เพราะใส่มาได้เบาบางจนเกินไป ทั้งเรื่องของประธานาธิบดีต่อเรื่องการแบ่งแยกสีผิวหรือเรื่องการเมือง ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วหนังสามารถสร้างอิมแพ็คต่อเนื้อเรื่องได้ดีกว่านี้


กับอีกประเด็นของพ่อกับลูก กับพ่อที่เป็นพ่อบ้านในทำเนียบขาวและกับลูกที่เป็นนักเคลื่อนไหวอิสรภาพความเท่าเทียมของคนผิวสีหนังก็ใส่น้ำหนักได้ไม่หนักแน่นเท่าที่ควรจะทำได้ ทำให้ภาพรวมหนังไม่ได้ทำได้ดีเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่หนังน่าจะทำได้ดีกว่านี้กว่าที่เป็นอยู่ ไอ้กับการติดตามชีวิต ซีซิล เกนส์ ในฐานะพ่อบ้านอันนี้ก็ทำได้ดีเป็นบางช่วง แต่กับโดยรวมก็หนักไปทางเรื่อยๆ แต่หนังก็ถือกับไม่ได้ดูลำบากนัก ก็แค่โดยรวม LEE DANIELS' THE BUTLER หนักไปทางหนังเหมือนไม่รู้จะเล่นประเด็นตรงไหนกันแน่ จะเรื่องของพ่อบ้าน หรือจะเอาเรื่องของ พ่อกับลูก หนังก็ไม่รู้ว่าจะเล่นตรงไหน หรือจะเอาเรื่องการแบ่งแยกสีผิวกับเรื่องการเมือง หนังก็ทำได้ธรรมดาจนเกินไป โดยรวมเอาไว้เป็นหนังไว้เรียนก็พอได้

ยอมรับเลยน่ะพวกเรื่องประวัติศาสตร์น่ะสนใจพอสมควร แต่หนังทำไม่ได้เท่าที่ควรจะทำได้ จะให้คำว่าเป็นหนังยอดเยี่ยมแบบสุดก็คงไม่ได้ ก็อย่างที่บอกเอาไว้เรียนก็พอได้ล่ะน่ะ, ด้านการแสดงด้วยการที่นักแสดงเยอะ (มาก) แต่จุดศูนย์กลางจะอยู่ที่ครอบครัว เกนส์ ที่หลักๆ ก็มี ฟอเรสท์ วิทเทคเกอร์, โอปราห์ วินฟรีย์, เดวิด โอเยโลโว สามคนนี้มีเคมีการแสดงที่เกือบจะเข้ากัน ดูเหมือนจะเข้ากันแต่ก็ไม่ ดูขาดๆ เกินๆ ไปหน่อย ไอ้ที่มีคนยกให้ ฟอเรสท์ วิทเทคเกอร์ จะได้ออสการ์นั้นจากที่ดูในหนังเฉยๆ อาจจะได้ชิงแต่ก็คงยากล่ะน่ะ แต่ที่รู้สึกโดดเด่นแบบขโมยซีนก็คือ คิวบ้า กู้ดดิ้ง จูเนียร์ กับ เลนนี่ คราวิทซ์ ในบทเพื่อนร่วมงาน...


ความยาวทั้งหมด 132 นาที
คะแนน 7/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger