วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556

LINCOLN


LINCOLN / ลินคอล์น


ผู้จัดจำหน่าย : 20TH CENTURY FOX
สตูดิโอผู้สร้าง : DREAMWORKS SKG, PARTICIPANT MEDIA
ผู้กำกับ : สตีเว่น สปีลเบิร์ก (SCHINDLER'S LIST, WAR HORSE)
ประเภทของหนัง : BIOGRAPHY | DRAMA | HISTORY

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
“ยิ่งใหญ่และเกริกเกียรติ การแสดงสุดทรงพลังของ แดเนี่ยล เดย์-ลูอิส”


LINCOLN ผลงานเกริกเกียรติของพ่อมดแห่งวงการฮอลลีวูด "สตีเว่น สปีลเบิร์ก" ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ประจำปี 2013 มากที่สุดถึง 12 สาขารางวัลรวมถึงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม แม้ในท้ายที่สุดหนังจะเก็บมาได้แค่ 2 สาขาแต่หนึ่งในสองสาขาที่ได้ก็เป็นรางวัลใหญ่ประจำงานนั่นก็คือนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม "แดเนี่ยล เดย์-ลูอิส" ในบทประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา เอบราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ส่วนอีกสาขาที่ได้ก็คือ ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม ซึ่งในตอนแรกคาดว่าสงสัยอาจจะได้ชมหนังจากแผ่นซะแล้ว แต่ในที่สุดทางผู้จัดจำหน่ายในไทยก็เอาหนังมาฉายแบบจำกัดโรงสิ้นสุดการรอคอยของแฟนหนังชาวไทยซักที

LINCOLN จะว่าด้วยเรื่องราวของ เอบราฮัม ลินคอล์น ในช่วงสุดท้ายของชีวิตที่อยู่ในช่วงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลิกทาส ช่วงไม่กี่เดือนก่อนโดนลอบสังหารที่ฟอร์ดเธียเตอร์ ซึ่งในช่วงเวลาไม่กี่เดือนถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของชนชาวสหรัฐเป็นอย่างมากซึ่งก็สามารถเล่าเป็นหนังได้เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งตัวหนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือเรื่อง "Team of Rivals: The Political Genius of Abraham Lincoln" ของ ดอริส เคิร์น กู้ดวิน ซึ่งตัวบทหนังจะดัดแปลงโดย โทนี่ คัชเนอร์ จากหนังเรื่อง Munich, ซึ่งตัวหนังนั่นจะมีตัวละครอยู่เยอะมากซึ่งยังไงก็จำได้ไม่หมด แต่หากจำได้หมดการดูหนังเรื่องนี้จะสนุกขึ้นหลายเท่าแต่หนังก็จะเน้นที่ตัวละครหลักๆ อย่าง เอบราฮัม ลินคอล์น, แมรี่ ท็อดด์ ลินคอล์น, วิลเลี่ยม ซีวาร์ด, ธาเดอุส สตีเฟ่น เป็นหลัก


ซึ่งตัวหนังนั้นมีจังหวะการเล่าเรื่องที่ไหลลื่นและไม่รู้สึกเบื่อ แม้ในบางทีเราจะไม่เข้าใจว่าตัวละครประกอบพูดอะไรอยู่เพราะมันเป็นเรื่องการเมืองในอดีตที่บางทีก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ตรงนั้นก็ไม่สำคัญเท่าไร เพราะเมื่อหนังถึงคราวต้องทำจริง พูดจริง หนังก็เอาคนดูอยู่ อีกทั้งตัวหนังก็ดำเนินเรื่องได้กระชับชับไวจนบางทียังรู้สึกเลยว่า หนังมันสั้นไปด้วยซ้ำ ซึ่งตัวหนังมีความยาวอยู่ 2 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งถือว่านานเอาเรื่อง แต่หนังทำออกมาสนุกจนบางทีคิดว่าสั้นด้วยซ้ำ ซึ่งจังหวะและอารมณ์ที่หนังเล่น ประกอบกับสกอร์ของ จอห์น วิลเลี่ยมส์ ที่ยิ่งใหญ่และทรงพลัง ก็แน่นอนว่างานนี้การดูหนังก็จะรู้สึกอินไปกับหนังได้ไม่อยากนัก เพราะมีตัวละครอย่าง เอบราฮัม ลินคอล์น แค่นี้ก็เพียงพอต่อการที่จะมีความรู้สึกร่วมได้ไม่ยาก แม้จะไม่ได้เป็นคนอเมริกาก็ตามที

บทพูดในหนังก็มีความสำคัญต่อหนังเป็นอย่างมากครับเอาง่ายๆ ตัว ลินคอล์น ในหนังเนี่ย ไม่ได้พูดมากซักเท่าไรนัก แต่เมื่อพูดทีก็ทำให้ขนลุกได้อย่างตอนที่ ลินคอล์น พูดเรื่องหลักยูคลิดกับทหาร 2 นายในช่วงกลางเรื่อง ที่ว่าด้วยหลักสิ่งสองสิ่งเท่าเทียมกันแค่นี้ก็รู้สึกอินและขนลุกแล้วครับ ซึ่งเสียอย่างเดียวสุนทรพจน์อมตะอย่าง "รัฐบาลของประชาชน, จากประชาชน, เพื่อประชาชน จะไม่มีวันสูญหายไปจากโลก" ในหนังไม่ได้มาจากลินคอล์นแต่มาจากคำพูดของทหารผิวสีนายหนึ่ง ซึ่งถ้าออกมาจากปากของลินคอล์นจะรู้สึกยิ่งใหญ่มากกว่านี้ครับ ซึ่งหากถามว่าข้อเสียในหนังเรื่องนี้อยู่ตรงไหน ขอบอกเลยครับว่าในงานหนังเรื่องนี้ ไม่มีจุดผิดพลาดและข้อเสียอยู่ในหนังเลยแม้แต่น้อยครับ


ซึ่งผู้กำกับอย่าง สตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่ช่วงหลังมักมาทำหนังประวัติศาสตร์อย่าง Schindler's List, Saving Private Ryan, Munich และล่าสุดกับ War Horse ก่อนมาถึง Lincoln ซึ่งใน Lincoln ให้อารมณ์เหมือน War Horse ที่รู้สึกดีกับมันแต่ไม่ได้หดหู่ไปกับมัน ซึ่งสปีลเบิร์กทำหนังออกมาได้งดงามในทางด้านตัวของ เอบราฮัม ลินคอล์น มากครับ ซึ่งสปีลเบิร์ก อยากทำมานานแต่ก็ไม่ได้ทำซะทีซึ่งสปีลเบิร์กก็ทำออกมาได้ไม่เสียชื่อครับ, เมื่อพูดถึง เอบราฮัม ลินคอล์น แล้วงานนี้ต้องพูดถึง แดเนี่ยล เดย์-ลูอิส ที่รับบท ลินคอล์น จนก้าวไปคว้าออสการ์ตัวที่ 3 ในชีวิตได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งป๋า แดเนี่ยล เดย์-ลูอิส นั่นรับบทลินคอล์นด้วยการใช้การแสดงแบบ เมต็อด แอ็คติ่ง (Method Acting)

ที่จะกินอยู่ไปกับบทนั้นทั้งวันทั้งคืนตลอดการถ่ายทำถึงขนาดคนในกองยังต้องเรียก ป๋าแดเนี่ยล เดย์-ลูอิส ว่า "Mr. President" ซึ่งงานนี้คงไม่ต้องบอกนะครับว่า แดเนี่ยล เดย์-ลูอิส แสดงได้แบบสุดยอดอย่างแท้จริงกับบทบาท เอบราฮัม ลินคอล์น ทั้งการแสดง, อารมณ์, สำเนียง กินขาดจริงๆ ครับ ไม่มีข้อโต้แย้งกับการคว้าออสการ์ครับ นอกจากนี้ ทอมมี่ ลี โจนส์ ในบท ธาเดอุส สตีเฟ่น ก็สุดยอดไม่แพ้กันครับ มีบทพูดมากกว่า ลินคอล์น ซะอีก ซึ่งการแสดงในฉากที่ออกไปพูดกลางสภานั้นกินขาดจริงๆ เสียดายไม่ได้ออสการ์มาประดับบารมีอีกตัว แต่ผู้ที่ได้ไปอย่าง คริสตอฟ วอลตซ์ งานนี้ผมยังไม่ดูแต่เค้าบอกว่าสมควรแล้วที่วอลตซ์ได้ไป


ส่วนอันนี้เห็นจะพูดถึงไม่ได้แม้จะไม่ได้ออสการ์ แต่ดนตรีสกอร์ของ ปู่จอห์น วิลเลี่ยมส์ ทำออกมาอย่างไร้ที่ติครับทั้งยิ่งใหญ่และทรงพลังเป็นอย่างมากและทำได้ดีกว่า War Horse แม้จะสู้ Schindler's List ไม่ได้แต่ก็ยิ่งใหญ่มากๆ หากต้องยกสกอร์ชุดที่โดดเด่นเป็นอันดับ 2 ในหนังดราม่ารางวัลของปู่จอห์นเห็นที่ Lincoln จะอยู่ตรงนั้นครับ ดังนั้นหากสรุป Lincoln ทั้งหมดก็จะได้ว่า “หนังประวัติศาสตร์ สุดยิ่งใหญ่ เหมาะสมกับทุกชนชาติในโลกนี้ หากพลาดดูในโรงหนังโอกาศนี้คงหายากแล้ว เพราะหนังยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง เพราะชื่อนักแสดง และผู้กำกับ, คนเขียนบม, คนทำสกอร์ และอื่นๆ งานนี้หนังไร้ที่ติทุกส่วน”


ความยาวทั้งหมด 150 นาที
คะแนน 10/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger