วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

DISNEY'S TOMORROWLAND


DISNEY'S TOMORROWLAND / ผจญแดนอนาคต


ผู้จัดจำหน่าย : WALT DISNEY STUDIOS MOTION PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : A113
ผู้กำกับ : แบรด เบิร์ด (THE INCREDIBLES, MISSION: IMPOSSIBLE - GHOST PROTOCOL)
ประเภทของหนัง : ACTION | ADVENTURE | MYSTERY | SCI-FI

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“ทูมอร์โรว์แลนด์ งานไซไฟป็อปคอร์นบล็อคบัสเตอร์ โดย แบรด เบิร์ด


และแล้วในที่สุดหนังไซไฟที่รอคอยมาเกือบๆ 3 ปีก็ได้ลงจอฉายสักทีสำหรับ "DISNEY'S TOMORROWLAND" ภาพยนตร์ที่นำชื่อเครื่องเล่นชื่อดังของ ดิสนีย์แลนด์ มาใช้เป็นชื่อหนัง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เราสนใจเทียบเท่ากับรายชื่อทีมงานของหนัง เอาแค่ชื่อผู้กำกับอย่าง แบรด เบิร์ด (THE INCREDIBLES, MISSION: IMPOSSIBLE - GHOST PROTOCOL) คนเดียวก็มีค่าพอที่เราจะเข้าไปตีตั๋วชมหนังเรื่องนี้แล้ว นี่ยังไม่นับมือเขียนบทอย่าง เดมอน ลินเดลอฟ (STAR TREK INTO DARKNESS) หรือแม้แต่นักแสดงนำ จอร์จ คลูนี่ย์ หรือ ฮิวจ์ ลอรี่ .. แค่สี่รายชื่อที่กล่าวมานี่ก็มีค่าพอแล้วที่เราจะไม่พลาดชมหนังเรื่องนี้แล้วล่ะครับ

ด้วยความที่หนังธีมของหนังนั้นเป็นแนวไซไฟวิทยาศาสตร์ (แม้ เบิร์ด จะออกมาบอกว่าหนังเรื่องนี้มันไม่น่าจะใช้หนังไซไฟ) เราจึงต้องคาดหวังว่าหนังมันจะต้องมีประเด็นที่ตลอดการดูสามารถเอาไปให้เซลล์สมอง (ของเราที่ไม่ค่อยจะมีเท่าไรนัก) สามารถขยับตัวไปตลอดเวลา ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะเราคาดหวังกับมันมากไปว่าหนังมันจะมีประเด็นที่พาเราร้อง อือหือ โอโห้ ตลอดเวลา แต่ท้ายที่สุดสิ่งที่หนังทำให้เราเห็นตั้งแต่เปิดเรื่องจนหนังจบเรื่องกลับเป็นความเงียบสงบ และงงกับตัวเองว่า 'อะไรหนังจบแล้วเหรอ?' (ขนาด INTERSTELLAR ที่เราว่างั้นๆ ประเด็นวิทยาศาสตร์ของหนังมันยังทำให้เราคิดนั้นคิดนี่ได้ตลอดเวลาเลยน่ะ แต่จะเอามาเปรียบเทียบก็ไม่ถูก เพราะหนังมันคนละประเด็นกันเลย)


ท้ายที่สุดประเด็นที่หนังนำมาเล่นจึงเป็นเพียงประเด็น 'ความแตกต่างเปลี่ยนโลก' เท่านั้น ซึ่งมันเป็นประเด็นโลกสวยสุดๆ เลยน่ะ ซึ่งนี่มันเป็นประเด็นที่โคตรจะเหมาะกับความเป็นหนังดิสนีย์เลยน่ะ แต่มันดูไม่เวิร์คที่จะนำมาเล่นกับหนังไซไฟ เพราะงั้นถ้าจะบอกข้อผิดพลาดสำคัญก็คือการที่หนังเรื่องนี้ดันเป็นหนังของดิสนีย์เนี่ยล่ะ คือไม่ได้บอกว่าจะกงจะเกลียดดิสนีย์หรืออะไรน่ะ เพราะไงเราก็โตมากับการเป็นเด็กดิสนีย์อยู่แล้ว แต่กับหนังเรื่องนี้เราขอค้านเลยคือถ้า TOMORROWLAND เป็นหนังของค่ายอื่นที่ทำหนังไซไฟแฟรนไชส์แจ๋วๆ เก่งๆ ยกตัวอย่างเช่น พาราเมาท์ (สตาร์เทรค), ฟ็อกซ์ (แพลเน็ท ออฟ ดิ เอปส์) หรือจะ วอร์เนอร์ ก็ได้ หนังมันอาจจะออกมาหรูหราและประเด็นคมคายและมีลูกล่อลูกชนกว่านี้ก็ได้บางที

แต่ถ้าตัดประเด็นความเป็นไซไฟออกไป (ให้หมดสิ้น) นี่ก็เป็นหนังที่มีลายเซ็นอันเป็นเอกลักษณ์และคงความสนุกในสไตล์หนังดิสนีย์ไว้อย่างครบถ้วนเลย วิสัยทัศน์และความเจ๋งของ แบรด เบิร์ด กับ เดมอน ลินเดลอฟ มันไปกันได้และเข้าขากันมากเลยน่ะ ภาพรวมถือว่าหนังนั้นมีความบันเทิงลงตัวเหมาะกับการเป็นหนังซัมเมอร์ ป็อปคอร์นบล็อคบัสเตอร์ มากๆ ถ้าไม่มองว่านี่เป็นหนังไซไฟที่ต้องมีประเด็นอะไรให้ใหญ่โต ถือว่าหนังทำหน้าที่ความสนุกและมอบความบันเทิงให้คนดูไม่ต่างอะไรกับแฟรนไชส์ที่ดัดแปลงมาจากเครื่องเล่นของดิสนีย์อีกเรื่องอย่าง ไพเรทส์ ออฟ เดอะ แคริบเบี้ยนส์


วิสัยทัศน์ของ แบรด เบิร์ด ยังคงน่าชื่นชมกับการเนรมิตโลกอนาคตที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจทุกครั้งยามที่เห็น กับการดำเนินเรื่องที่สามารถมองได้ว่า เบิร์ด เองก็เอาอยู่ (ถ้าไม่นับความเป็นไซไฟที่แกเอาไม่อยู่) บวกกับเสน่ห์ของตัวละครและเคมีที่เข้ากันมากของหนังแสดงทั้งสาม เคซี่ย์ (บริทท์ โรเบิร์ตสัน), แฟรงค์ (จอร์จ คลูนี่ย์) และ อธีน่า (ราฟฟี่ แคสซิดี้) ที่ทั้งสามคนยิงมุกรับมุกกันได้เข้าขากันมาก โดยเฉพาะ บริทท์ ที่เล่นได้ดีมาก ส่วน ป๋าจอร์จนี่ก็เล่นมุกหน้าตายได้ตลอดเวลา แต่ที่เด่นสุดคงเป็น ราฟฟี่ ที่เล่นได้น่ารักมากครับ

อีกจุดที่คิดว่าหนังทำได้ดีก็คือฉากแอ็คชั่นเนี่ยล่ะครับ โดยเฉพาะฉากแอ็คชั่นที่บ้านแฟรงค์ อันนี้ฉากนี้เราได้ดูตั้งแต่ตอนชม MARVEL'S AVENGERS: AGE OF ULTRON แล้วน่ะ แต่พอได้ดูซ้ำ แบรด เบิร์ด นี่มันทำฉากแอ็คชั่นได้เจ๋งจริงๆ น่ะ (แกเจ๋งด้านนี้อยู่แล้วมาตั้งแต่งานก่อนหน้าของแกแล้วล่ะมั้ง แต่พอมาเป็นแบบคนแสดงมันเลยดูเจ๋งสุดๆ), ด้านเอฟเฟกต์งานวิชวลคงไม่ต้องพูดลงทุนไป 190 ล้านเหรียญคงไม่ต้องพูดให้มากความ จุดที่ควรยกย่องที่เหลือๆ ก็สกอร์ของ ไมเคิล เกียคชิโน่ ที่ดนตรีของแกยังคงทำให้ภาพที่เห็นบนจอออกมายิ่งใหญ่เสมอจริงๆ อีกจุดคงเป็นเรื่อง IMAX นี่ล่ะ หนังทำได้ยิ่งใหญ่มาก ฉากใน ทูมอร์โรว์แลนด์ ยิ่งใหญ่มากพอดูบนจอยักษ์ IMAX


โอเคภาพรวมทั้งหมดของหนังนี่ถือว่าก็ดูสนุกพอตัวล่ะน่ะถ้าให้ดูซ้ำก็เอาน่ะเพลินๆ ใช้ได้ (เขียนไปเขียนมาคิดว่าบางทีหนังมันก็มีอารมณ์คล้ายๆ BACK TO THE FUTURE พอสมควรน่ะ ตรงที่เป็นหนังไซไฟแต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีประเด็นอะไรมากแต่ก็ดูสนุกได้ จุดนี้เราคิดว่าเพราะเราคาดหวังมากไปเลยผิดหวังน่ะบางที) - ใน TOMORROWLAND ซีนที่เราชอบที่สุดคงเป็นฉากในร้านขายของที่เกี่ยวกับหนังไซไฟล่ะ ซีนนั้นพาเราเนิร์ดแตกมากมีอีสเตอร์เอ็กก์ให้ตามหาตรึม ยกตัวอย่างเช่นของที่เกี่ยวกับ สตาร์วอร์ส เห็นเด่นชัดทั้งร้านแต่ที่พอเราปรี้ดแตกมากคือตอนที่ ฮิวโก้ มันเปิดประตูพร้อมเพลงธีมสตาร์วอร์ส หรือคอมิคส์ของ PLANET OF THE APES หรือ โปสเตอร์หนัง CLOSE ENCOUNTER OF THE THIRD KIND คือมันมีเยอะมากหาสนุกพอตัวเลย ปล. หนังมีการใช้เพลง There's a Great Big Beautiful Tomorrow เพลงธีมดิสนีย์แลนด์ในหนังด้วย...


ความยาวทั้งหมด 130 นาที
คะแนน 7.5/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger