วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

THE HUNGER GAMES: MOCKINGJAY - PART 2


THE HUNGER GAMES: MOCKINGJAY - PART 2 / เกมล่าเกม ม็อกกิ้งเจย์ พาร์ท 2


ผู้จัดจำหน่าย : LIONSGATE
สตูดิโอผู้สร้าง : COLOR FORCE, LIONSGATE
ผู้กำกับ : ฟรานซิส ลอร์เลนซ์ (I AM LEGEND)
ประเภทของหนัง : ACTION | ADVENTURE | DRAMA

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“ปิดตำนาน เกมล่าชีวิต!!”


นับตั้งแต่ที่ แคทนิส เอฟเวอร์ดีน (เจนนิเฟอร์ ลอว์เลนซ์) อาสาที่จะไปเป็นเครื่องบรรณการต่อสู้แทน พริมโรส เอฟเวอร์ดีน (วิลโลว์ ชิลด์) ผู้เป็นน้องสาวใน เกมล่าชีวิต ครั้งที่ 74 และสามารถเอาชนะมาได้พร้อมกับเพื่อนรวมเขต 12 อย่าง พีต้า เมลลาร์ค (จอช ฮัทเชอร์สัน) เธอก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิวัติแคปิตอลแบบเงียบๆ ก่อนที่ต่อมาเธอจะต้องกลับเข้าไปแข่งใน เกมล่าชีวิต ครั้งที่ 75 ควอเตอร์เควล์ อีกครั้งพร้อมกับ พีต้า ท้ายที่สุดเธอก็สามารถทำลายการแข่งลงได้เป็นผลสำเร็จพร้อมกับถูกพาตัวไปยังเขต 13 พร้อมกับได้กลายเป็นสัญลักษณ์ในการปฏิวัตินาม “ม็อคกิ้งเจย์” ! 

ภายหลังจากที่สามารถช่วย พีต้า ได้เป็นผลสำเร็จ แคทนิส และเหล่าสมาชิกเขต 13 ก็กระโจนเข้าสู่สงครามอีกหนและนี่ก็คือการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของ แคทนิส เอฟเวอร์ดีน สาวน้อยผู้มากับไฟสัญลักษณ์แห่งม็อคกิ้งเจย์ และนี่คือการปิดตำนานเกมล่าชีวิต หนังที่ดัดแปลงมาจากนิยายที่ร้อนแรงที่สุดในเวลานี้ “THE HUNGER GAMES: MOCKINGJAY - PART 2” !!


ด้วยความที่หนังต้องการเคารพและถ่ายทอดเรื่องราวจากหนังสือให้ดีที่สุดผลที่ได้ก็คือการแบ่งเป็นสองพาร์ท ซึ่งทำให้พาร์ทที่แล้วการเป็นอะไรที่ไม่ต่างกับยาเบื่อหรือยานอนหลับของใครหลายๆ คนด้วยความที่รายละเอียดมันเยอะมากในหนังสือพอมาทำเป็นหนังรายละเอียดก็เยอะตาม ทำให้การดำเนินเรื่องออกจะเป็นอะไรที่น่าเบื่อ ชวนหลับเอาได้ง่ายๆ สำหรับพาร์ทที่แล้ว, ทีนี้้กับ พาร์ทที่สองนี้แน่นอนว่าหนังยังดำเนินเรื่องแบบเก็บรายละเอียดเหมือนเดิม ซึ่งก็ต้องบอกว่า พาร์ทนี้เดินเรื่องตามหนังสือได้เป๊ะๆ แทบจะหน้าต่อหน้า ฉากต่อฉาก ไง ซึ่งก็คือดีไงสำหรับแฟนๆ ที่อ่านหนังสือมาก่อนคือเป็นปลื้มมากๆ (???)

แต่ก็นั่นแหละคือหนังมันเดิมตามหนังสือเลยไง รายละเอียดมันก็เลยเยอะ ทีนี้พอเอามาใส่ในหนังมันก็เลยเกิดอาการแบบว่า บทจะน่าเบื่อคือโคตรเบื่อ แต่ บทจะพีคจะสนุกคือโคตรพีคโคตรสนุก บอกไว้เลยก็ได้ว่าครึ่งแรกของหนังนะน่าเบื่อมากครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่าครึ่งหลังของหนังถือเป็นหนังคนละม้วนเพราะครึ่งหลังของเรื่องทำออกมาได้สนุก, ตื่นเต้น, ระทึก, มืดมน, หดหู่ และ บีบคั้นอารมณ์คนดูมากๆ นี่ขนาดอ่านหนังสือมาก่อนยังจะลุ้นไปกับตัวหนังเลยนะ นี่ถ้าไม่พลาดในส่วนของครึ่งแรกที่น่าเบื่อไปหน่อยหนังคงจะออกมาดีกว่านี้แน่นอนเลย


ภาคนี้ไฮไลท์สำคัญเลยแน่นอนคือภารกิจบุกแคปิตอลจับสโนว์นั่นแหละ ซึ่งไอ้กองร้อย 451 เนี่ยต้องบุกเข้าไป ซึ่งภาคที่แล้วนั้นแทบจะไม่มีฉากแอ็คชั่นที่เรียกว่า เซอร์ไววัล เอาตัวรอดตามธีม เกมล่าชีวิต เลย ภาคนี้ก็สมใจอยากครับ จัดเต็มมากครับ ลุ้นมาก ยิ่งคืบใกล้เข้าหา สโนว์ เท่าไรยิ่งระทึกมากขึ้น (และแน่นอนคนตายในหนังก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ) ซึ่งหนังเนรมิตพวก พ็อด ทั้งหลายรอต้อนรับ กองร้อย 451 ได้โหดสัสรัสเซียมากครับ แหม่!! ไม่อยากสปอยล์เลยจริงๆ เอาเป็นว่าต้องไปดูเองนั่นแหละน่ะ

เรียงตามความชอบ ม็อคกิ้งเจย์ (ทั้งสองพาร์ท) ยังเป็นรอง แคทชิ่งไฟร์ กับ ฮังเกอร์เกมส์ ตามความเห็นของผมละน่ะ (ตามลำดับชอบ แคทชิ่งไฟร์, ฮังเกอร์เกมส์ และ ม็อคกิ้งเจย์ (ทั้งสองพาร์ท)) ซึ่งจะว่าไปแล้ว แฟรนไชส์ นี้ก็เป็นอีกแฟรนไชส์ที่เคารพหนังสือมากจริงๆ นะ แต่ผมมองว่าไอ้ภาค ม็อคกิ้งเจย์ นี่ถ้าไม่แบ่งเป็นสองพาร์ทบางทีเรื่องมันอาจจะกระชับและไม่น่าเบื่อเหมือนที่เป็นอยู่ทั้งสองพาร์ทก็เป็นได้ในบางที แต่โดยรวม THE HUNGER GAMES: MOCKINGJAY - PART 2 ก็เป็นบทที่ปิดตำนาน เกมล่าชีวิต ได้ดีแหละ ตามมาขนาดนี้ก็ห้ามพลาด...


ความยาวทั้งหมด 137 นาที
คะแนน 7.5/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger