วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

A GOOD DAY TO DIE HARD


A GOOD DAY TO DIE HARD / วันดีมหาวินาศ คนอึดตายยาก


ผู้จัดจำหน่าย : 20TH CENTURY FOX
สตูดิโอผู้สร้าง : DUNE ENTERTAINMENT, INGENIOUS FILM PARTNERS
ผู้กำกับ : จอห์น มัวร์ (BEHIND ENEMY LINES, MAX PAYNE)
ประเภทของหนัง : ACTION | CRIME | THRILLER

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“เพื่อลูกพ่อทำได้ทุกอย่าง Yippee Ki-yay Mother Fucker!!, 
DIE HARD 5 ที่ไม่เด่นกว่า 4 ภาคก่อนแต่ยังมีสไตล์เหมือนเดิม”


ย้อนไปในปี 1988 คอหนังทั่วโลกได้รู้จักคนอึดตายยากนามว่า "จอห์น แม็คเคลน" ใน Die Hard ที่รับบทโดย บรูซ วิลลิส ก่อนที่จะรู้จักกันต่อมาและอย่างต่อเนื่องใน Die Hard 2, Die Hard: With a Vengeance, Live Free or Die Hard แต่รู้หรือไม่ใน Die Hard นั้นนอกเหนือจาก จอห์น แม็คเคลน แล้วเรายังได้รู้จักกับลูกสาวและลูกชายของจอห์นด้วยนั่นก็คือ ลูซี่ แม็คเคลน และ แจ็ค แม็คเคลน ซึ่งทาง ลูซี่ นั่นมีบทบาทไปแล้วใน Live Free or Die Hard เมื่อปี 2007 แต่กับแจ็คยังไม่มีบทบาทอะไรซักนิดแต่กับภาคล่าสุด A Good Day to Die Hard แจ็ค แม็คเคลน จะมีบทบาทซักทีโดยผู้มารับบท แจ็ค ก็คือ ไจ คอร์ทนี่ย์ ดาราจากซีรี่ย์ Spartacus: Blood and Sand และกับบทตัวร้ายใน Jack Reacher, A Good Day to Die Hard จะกำกับโดย จอห์น มัวร์ จาก Max Payne และ Behind Enemy Lines โดย A GOOD DAY TO DIE HARD เลือกวันดีมากๆ ในการฉายนั่นก็คือ 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์!

ใน A Good Day to Die Hard นี้ด้วยความที่ว่าหนังสั้นที่สุดในบรรดาซีรี่ย์คนอึดตายยากเพราะมีความยาวอยู่เพียง 97 นาทีผิดกับ Die Hard ที่ยาว 131 นาที, Die Hard 2 ที่ยาว 124 นาที, Die Hard: With a Vengeance ที่ยาว 131 นาที และ Live Free or Die Hard ที่ยาว 128 นาทีซึ่งหากตัดเครดิตออกไปอีกประมาณ 10 นาทีจะเท่ากับว่า A Good Day to Die Hard ยาวอยู่แค่ 80 นาทีกว่าๆ เท่านั้น นั่นเท่ากับว่า Die Hard ตอนที่ 5 จะไม่มีเวลาให้ออกนอกเรื่องเหมือนอย่างหลายๆ ภาคก่อนหน้า แต่จะต้องมุ่งเน้นไปข้างหน้าดำเนินเรื่องไปอย่างเดียว และก็ตามที่กล่าวครับใน A Good Day to Die Hard หนังไม่มีการเล่านอกเรื่องเลยแม้แต่น้อยครับ และหนังมุ่งไปข้างหน้า และรวดเร็วเป็นอย่างมาก


แน่นอนครับว่าบทภาพยนตร์และตัวเนื้อเรื่องหรือการดำเนินเรื่องของหนังไม่สามารถไปสู้กับทั้ง 4 ภาคก่อนหน้าที่มีเวลาให้เล่นอยู่เยอะและบทภาพยนตร์ที่เหมาะสมให้ใช้เวลาเล่นมากมายขนาดนี้ มีเวลาให้บีบอารมณ์คนดูอยู่ตลอด ซึ่ง A Good Day to Die Hard ไม่มีเวลาให้ทำขนาดนั้นแน่นอนหนังจึงเลือกที่จะเดินหน้าแบบกระชับชับไวตามสไตล์หนังฟอร์มยักษ์ยุคนี้ที่จะไม่เสียเวลากับอะไรทั้งสิ้นและมุ่งเน้นที่ส่วนที่จำเป็นแกนหลักของเรื่องเพียงอย่างเดียว ซึ่ง A Good Day to Die Hard แกนหลักๆ ที่หนังนำเสนอก็คือ ฉากแอ็คชั่นตามสไตล์คนอึด และ สายสัมพันธ์พ่อ-ลูกชายที่เหินห่างระหว่าง จอห์น แม็คเคลน ซีเนียร์ และ จอห์น แม็คเคลน จูเนียร์

ซึ่งเงื่อนไขแรก "แอ็คชั่น" หนังเทียบไม่ได้กับ Live Free or Die Hard ของ เลน ไวส์แมน ที่เป็นแอ็คชั่นแบบนอนสต็อปไม่ให้พัก และเทียบไม่ได้กับ Die Hard และ Die Hard: With a Vengeance ของ จอห์น แม็คเทียร์แนน ที่เป็นแอ็คชั่นแบบมีชั้นเชิงไม่ได้จะแอ็คชั่นเพียงอย่างเดียวแต่มีอะไรให้ติดตามแบบลุ้นระทึก ซึ่ง A Good Day to Die Hard สอบผ่านในส่วนของแอ็คชั่นที่ดูสนุกและก็สนุก แม้จะไม่มีลูกไม้อะไรให้แปลกแหวกแนวบ้างก็ตาม แต่ยังไงก็ยังเป็นแอ็คชั่นที่สนุก โดยเฉพาะฉากแอ็คชั่นขับรถไล่ล่าในมอสโกที่ใช้เวลาถ่ายทำนานถึง 55 วันก็เป็นอะไรที่อลังการและโคตรมันส์จริงๆ


เงื่อนไขที่สอง "สายสัมพันธ์พ่อ-ลูกที่เหินห่าง" หนังเปิดเรื่องอธิบายว่าพ่อลูกคู่นี้ไม่ลงรอยกันและไม่ได้เจอหน้ากันกว่า 3 ปีแถมการกลับมาเจอกันก็ทำให้ภารกิจลับของ แจ็ค พินาศไม่เป็นชิ้นดี นั่นคือการแนะนำตัว แจ็ค แม็คเคลน ลูกชายของคนอึด หลังจากนั้นหนังก็เริ่มเข้าสู่การสานสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ด้วยหลากหลายวิธีอาทิการพูดคุยซึ่ง ณ ตอนแรกไม่เวิร์ค บทก็เลยเอาตัวละครเข้าสู่อะไรแบบพื้นๆ ตามสไตล์แม็คเคลน นั่นก็คือฉากแอ็คชั่น และไม่น่าเชื่อสัมพันธ์ของพ่อลูกกลับดีๆๆๆ ขึ้นเรื่อย แต่ในที่สุดหนังก็กลับมาเหมือนคุย และก็ไปแอ็คชั่นต่อ แต่ผลที่ได้กลับออกมาดีอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งตรงส่วนเป็นส่วนที่น่าจดจำมากๆ เลยซึ่งหากหนังมีเวลาอะไรให้เล่นมากกว่าซึก 30 นาทีส่วนตรงนี้อาจจะเป็นอะไรที่ดีขึ้นมากกว่านี้ และอาจส่งผลถึงภาค 6 ที่อาจจะเห็นครอบครัวแม็คเคลนทั้งพ่อ, ลูกสาว, ลูกชาย มาอึดพร้อมกันแบบสุดยอดก็เป็นได้

แต่การใช้เวลาแค่นี้นำเสนอและออกมาดีก็ดีแล้วครับ เพราะใช้แค่นี้แต่ผลรวมในฉากปิดของหนังก็ดูอบอุ่นและสวยงามและฟินแบบสุดๆ แล้ว, ไจ คอร์ทนี่ย์ แข็งทื่อและไม่โดดเด่นอะไรเลยใน Jack Reacher แต่ใน A Good Day to Die Hard รับรองเลยว่า ไจ เกิดแน่นอน ไจ มีเคมีที่ลงตัวมากๆ กับ บรูซ วิลลิส และโดดเด่นมากกับรูปร่างที่สูงใหญ่ เวลาปรากฏบนจอคู่กับวิลลิสจึงโดดเด่นมากๆ รับรองงานนี้เกิดแน่นอน แต่อีกคนที่โดดเด่นก็คือ ยูลิย่า สนีเกอร์ ที่สวยคมขาวโอโม่มากๆ แม้จะปรากฏตัวในเรื่องไม่มากเท่าไรแต่ก็โดดเด่นทุกครั้งเมื่อปรากฏบนจอ ซึ่งหลังจากนี้เชื่อได้ว่า ไจ คอร์ทนี่ย์ และ ยูลิย่า สนีเกอร์ จะเกิดและโด่งดังแน่นอน


จอห์น มัวร์ กำกับ Die Hard ออกมาได้มีสไตล์ของตัวเองเป็นอย่างมาก อาจจะไม่ได้มีชั้นเชิงเหมือนกับ 4 ตอนก่อนหน้ากับผู้กำกับ 3 คน แต่ก็สามารถคุมหนังที่มีโปรดัคชั่นอลังการได้อยู่หมัด และมีการแบ่งสรรปันส่วนบทของตัวละครออกมาได้ดี ถึงแม้ว่าตัวบทการดำเนินเรื่องจะไม่โดดเด่นขนาด 4 ภาคก่อนหน้า แต่ก็ยังคงไม่ทิ้งลายหนังทิ้งไป ยังคงมีความเป็น จอห์น แม็คเคลน มีสไตล์ Die Hard อยู่มีมุกตลกที่ยังคงความเป็น Die Hard อยู่ โดยรวมแล้ว “A GOOD DAY TO DIE HARD ไม่ได้เด่นกว่า 4 ตอนก่อนหน้าแต่ก็ยังไม่ทิ้งลายหนังมีอะไรให้หน้าจดจำโดยเฉพาะกับตัว จอห์น ที่เพิ่ม แจ็ค เข้ามา และแน่นอนหนังยังคงมีความสนุกในตัวของมันเองครับ และยังไงหนังก็ยัง YIPPEE KI-YAY MOTHER FUCKER! เหมือนเดิมแน่นอน”


ความยาวทั้งหมด 97 นาที
คะแนน 8/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger