TEENAGE MUTANT NINJA TURTLES: OUT OF THE SHADOWS

TEENAGE MUTANT NINJA TURTLES: OUT OF THE SHADOWS /

เต่านินจา : จากเงาสู่ฮีโร่

ผู้จัดจำหน่าย : PARAMOUNT PICTURES

สตูดิโอผู้สร้าง : NICKOLODEON MOVIES, PLATINUM DUNES

ผู้กำกับ : เดฟ กรีน (EARTH TO ECHO)

ประเภทของหนัง : ACTION | ADVENTURE | COMEDY

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง

อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง

ขอออกตัวไว้ก่อนเลยละกันว่าเป็นหนึ่งในคนที่ชอบ TEENAGE MUTANT NINJA TURTLES มากๆ เรียกว่าถึงขั้นรักเลยดีกว่า ตอนแรกคิดว่าที่ชอบมันมากอาจจะเพราะได้ดูในระบบ 4DX พอแผ่นออกซื้อมาเปิดดูอีกรอบก็พบว่าไม่ใช่เพราะระบบแต่ชอบที่ตัวหนัง ไม่แปลกที่เราจะรอและคาดหวังกับภาคสองพอสมควรพอตัว ซึ่งในภาคนี้นั้นได้เปลี่ยนผู้กำกับจาก โจนาธาน ลีเบสแมน มาเป็น เดฟ กรีน จาก EARTH TO ECHO พร้อมเพิ่มตัวละครใหม่ๆ ที่แฟนๆ รักเข้ามา เช่น เคซีย์ โจนส์ (สตีเฟ่น อาเมลล์) และ บีบ็อบ (แกรี่ แอนโธนี่ วิลเลี่ยมส์) และ ร็อคสเตดดี้ (สตีเฟ่น “เชมัส” ฟาร์เรลลี่) เป็นต้น

สำหรับจุดอ่อนเพียงจุดเดียวและอย่างเดียวในภาคสองนี้ “TEENAGE MUTANT NINJA TURTLES: OUT OF THE SHADOWS” นี้ก็คือเรื่องของบทหนังและเนื้อหาในภาคนี้ที่ทั้งอ่อนและกลวงโบ๋เอาซ่ะมากๆ ซึ่งอันที่จริงแล้วเรื่องบทก็ไม่ต่างอะไรกับภาคแรกเท่าไรนักหรอกแต่ภาคแรกมันยังมีประเด็นมีเรื่อง พี่น้อง เรื่องครอบครัว ให้พูดถึงอยู่บ้าง สวนทางกับภาคนี้ที่ไม่มีอะไรเลย คือถ้าไม่นับเรื่องที่สี่พี่น้องเต่านินจาอยากเป็นมนุษย์ และก็เรื่องความซี้ของพี่น้องที่หนังพูดลอยๆ เอาผ่านๆ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเลยน่ะ เน้นให้ดูง่ายไม่ซับซ้อน เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี

คือภาคนี้ถ้าไม่นับจุดอ่อนเรื่องบทหนังที่ไม่มีอะไรเลย นอกนั้นก็ไม่มีอะไรจะติเลยน่ะ หนังทำหน้าที่ตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งความสนุกและบันเทิง คือดูเหมือนภาคนี้เหมือนทำมาเอาใจแฟนๆ ที่เป็นแฟนนินจาเต่าและก็เป็นแฟนภาคแรกเลย ทั้งการมาของ บีบ็อบ และ ร็อคสเตดดี้, เคซีย์ โจนส์ รวมถึงวายร้ายจากต่างมิติอย่าง แครง และการกลับมาของ ชเรดเดอร์ อาจจะมีขัดใจอยู่บ้างเรื่อง แครง ที่ดูเหมือนยัดๆ เข้ามาไปนิด และก็บทของ ชเรดเดอร์ (ที่เปลี่ยนนักแสดงเป็น ไบรอัน ที หรือ ดริฟท์คิง จาก THE FAST AND THE FURIOUS: TOKYO DRIFT) ที่ภาคนี้ ชเรดเดอร์ ดูไม่มีความน่าเกรงขามเหมือนกับที่ภาคแรกเป็นเลยแม้แต่นิดเดียว

การดำเนินเรื่องนี่จัดว่าเร็วมากๆ หนังยาว 112 นาที เกือบๆ สองชั่วโมง แต่ความรู้สึกเหมือนหนังยาวชั่วโมงเดียว เดินเรื่องเร็วมากๆ, ฉากแอ็คชั่นในหนังก็ทำได้ดีมาก ดูจะดีกว่าภาคแรกซ่ะอีก สนุกตื่นเต้นมาก คือเนื้อเรื่องไม่มีอะไรเลย แต่ฉากแอ็คชั่นนี่โคตรดี ฉากแอ็คชั่นต้นเรื่องที่ขับรถไล่ล่ากันนี่ดีมาก ฉากแอ็คชั่นที่สู้กับ แครง ท้ายเรื่องนี่ก็ดี แต่ฉากแอ็คชั่นที่ดูจะเป็นไฮไลท์ภาคนี้คือฉากที่ บราซิล เลย ที่กินยาวตั้งแต่ฉากบนฟ้ายันน้ำตก คือสนุกมากซีเควนซ์นี้ เจ๋งมากไม่แพ้ฉากภูเขาหิมะในภาคแรกเลย

ณ ตอนแรกคิดว่า สตีเฟ่น อาเมลล์ จะเข้ามาแล้วจะทำให้ตัวละคร เคซีย์ โจนส์ พัง แต่พอได้ดูได้ชมเต็มๆ คำตอบกลับไม่ใช่เลย กลับกัน อาเมลล์ กลับทำให้ เคซีย์ โจนส์ ฉบับนี้มีความเท่มีเสน่ห์น่าค้นหาด้วยซ้ำ คือ อาเมลล์ เล่นดีและมีเสน่ห์มากๆ ในบทนี้ แถมเคมียังเข้ากับทางด้าย เมแกน ฟ็อกซ์ ในบท เอพริล โอนีล มากด้วย ส่วนพลพรรคเต่านินจาทั้งสี่ทั้ง ลีโอนาร์โด้, ราฟาเอล, โดนาเทลโล่ และ ไมเคิลแองเจโล่ ยังคงเข้าขากันและบทบาทเด่นเหมือนเดิม เสน่ห์ยังล้นเหลือเหมือนเดิม กลับกันพอมี เคซีย์ โจนส์ เข้ามาคนที่หายไปเลยในภาคนี้ คือกลายเป็นตัวประกอบไปเลยก็คือทางด้านของ ท่านอาจารย์สปลินเตอร์

อีกคนที่หวิดจะหายไปเป็นตัวประกอบก็คือ เวิร์น (หรือฉายาในภาคนี้ ฟัลคอน) ของ วิลล์ อาร์เน็ตต์ ยังดีที่ครึ่งหลังได้มีบทโชว์อยู่ หลายคนอาจจะไม่ชอบ บีบ็อบ และ ร็อคสเตดดี้ (แลดูมีความน่ารำคาญไม่น้อย) แต่สำหรับเราโคตรชอบ สร้างสีสันให้กับเรื่องมาก เป็นคู่ปรับที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับเต่านินจาทั้งสี่และ เคซีย์ โจนส์ เหลือเกิน, สุดท้าย เดฟ กรีน ทำหน้าที่กำกับได้ดีไม่แพ้ทางด้าน ลีเบสแมน ครับ ถ้าไม่ติดเรื่องบทที่กลวงๆ ไปนิดนอกนั้นทุกอย่างโอเคหมด อนึ่ง หนังเหมาะกับ IMAX มากทำฉากแอ็คชั่นได้อลังการมาก โดยเฉพาะฉากที่บราซิล ปล. อาจจะไปพิสูจน์แบบ 4DX อีกสักรอบ...