THE BFG

THE BFG / เดอะ บีเอฟจี ยักษ์ใหญ่หัวใจหล่อ

ผู้จัดจำหน่าย : WALT DISNEY STUDIOS MOTION PICTURES

สตูดิโอผู้สร้าง : AMBLIN ENTERTAINMENT

ผู้กำกับ : สตีเว่น สปีลเบิร์ก (E.T. THE EXTRA-TERRESTRIAL)

ประเภทของหนัง : ADVENTURE | FAMILY | FANTASY

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง

อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง

“โรอัลด์ ดาห์ล + ดิสนีย์ + สตีเว่น สปีลเบิร์ก = แล้วคุณจะรัก บีเอฟจี”

สิ่งหนึ่งที่คนที่ได้ชม (และก็บังเอิญว่าชอบ) หนังเรื่องนี้ (ส่วนใครที่ไม่ชอบก็ตัวใครตัวมัน) สิ่งหนึ่งที่ทุกคนน่าจะเป็นหลังดูจบก็คือหลงไปกับเสน่ห์ของสองตัวละครนำทั้งสอง ทั้ง บีเอฟจี และก็ โซฟี่ ที่มีเสน่ห์บนจออย่างมาก กับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ดูไม่ประดิษฐ์จนเกินไปแต่เป็นธรรมชาติและค่อยเป็นค่อยไปแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความน่ารัก ที่จะทำให้คนดูตกหลุมรักทั้ง บีเอฟจี และ โซฟี่

THE BFG เรื่องนี้ชอบอย่างหนึ่งก็ตรงที่ สตีเว่น สปีลเบิร์ก และมือเขียนบทผู้ล่วงลับอย่าง เมลิสซ่า เมธีสัน (และเธอคือคนเขียนบท E.T. THE EXTRA-TERRESTRIAL ด้วย) ค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ของ โซฟี่ และ บีเอฟจี ไปแบบไม่ได้เร่งรีบอะไร ค่อยเป็นค่อยไป แต่เต็มไปด้วยความประทับใจในตอนจบ หนังมีความน่ารัก ชวนอมยิ้ม อารมณ์เดียวกับ E.T. อะไรแบบนั้น คือเอาจริงๆ มองว่า THE BFG หนังมันก็ใช้สูตรเดียวกันกับ E.T. นั่นแหละ แค่เปลี่ยนจาก มนุษย์ต่างดาว มาเป็น ยักษ์ แทน แถม บีเอฟจี นี่ก็เหมือนกับ อีที ในหลายๆ มุม ทั้งความเป็นมิตร แถม บีเอฟจี ก็เป็นยักษ์ตัวเล็กเมื่อเทียบกับยักษ์ด้วยกัน ยักษ์ตัวอื่นทำร้ายมนุษย์ แต่ บีเอฟจี ไม่

แต่ว่ากันที่ตัวหนังจริงๆ ก็มีความรู้สึกแอบผิดต่อ โดนัลด์ ดาห์ล เล็กน้อย ช่วงกลางๆ เรื่อง สปีลเบิร์ก เล่าเรื่องได้เนื่อยๆ มีความช้า มีความชวนงีบชวนที่จะหลับมากๆ ทั้งๆ ที่ช้วงต้นๆ เกือบถึงกลางเรื่อง หนังเปิดตัวได้อย่างน่าสนใจ แต่หนังก็มาดรอปลงไปช่วงกลางๆ เรื่องอย่างที่บอก เลยมีความรู้สึกชวนงีบเล็กน้อย แต่พอหนังผ่านพ้นช่วงนั้นช่วงกลางเรื่องไปได้ อะไรๆ ในหนังก็สนุกไปหมด มีความเล่นใหญ่ มีความน่ารัก มีความสนุก ไปจนจบเรื่อง

คือก็ไม่ได้เห็น สปีลเบิร์ก ที่ทำหนังแนวเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดีและมีความฟีลกู้ด ขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้ว คือกลายเป็นว่าความเป็นเด็กในตัวของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก บวกับความเป็นเด็กของค่ายดิสนีย์ รวมถึงเสน่ห์ที่เด็กและผู้ใหญ่น่าจะชอบในหนังสือของ โดนัลด์ ดาห์ล ทำให้เรื่องนี้มีความเป็นการรวมพลังกันที่เข้าขากันและลงตัวกันมากๆ แถมธีมหนังเรื่องความฝันนี่ก็เข้ากันๆ กับ 3 คนนี้ซะเหลือเกิน

กับเรื่องนี้น้องหนู รูบี้ บาร์นฮิลล์ ที่รับบท โซฟี่ และ มาร์ค ไรแลนซ์ ที่รับบทท บีเอฟจี มีเคมีที่โดนและก็ลงตัวกันมากครับ หนูรูบี้เรื่องนี้มีความน่ารัก คือน่ารักแบบสุดๆ ไม่รู้จะบรรยายไงดี (เอาใจช่วยหนูให้ไปได้ไกลบนเส้นทางสายนี้นะ) ส่วน มาร์ค ไรแลนซ์ เองก็เล่นเป็น บีเอฟจี ได้มีเสน่ห์มาก ชอบน้ำเสียงของ ไรแลนซ์ ในบท บีเอฟจี มาก ฟังแล้วดูเป็นมิตรและอบอุ่น ดูจบแล้วรัก บีเอฟจี เลย

อาจจะมีข้อเสียเรื่อง CG พวกยักษ์ที่รู้สึกมีความไม่เนียนเท่าไรนัก แต่เอาเข้าจริงๆ เราก็พอลืมๆ ข้อเสียตรงนี้ไปได้อยู่ เพราะหนังก็มีจุดดีที่เอามากลบข้อด้อยได้อยู่ แถมสกอร์ของ จอห์น วิลเลี่ยมส์ เองก็ช่วยยกระดับความแฟนตาซีของเรื่องนี้ไปได้ไกลพอสมควร...