GHOSTBUSTERS

GHOSTBUSTERS / บริษัทกำจัดผี

ผู้จัดจำหน่าย : SONY PICTURES

สตูดิโอผู้สร้าง : COLUMBIA PICTURES, GHOSTCORPS, VILLAGE ROADSHOW PICTURES

ผู้กำกับ : พอล ฟีก (BRIDEMAIDES, SPY)

ประเภทของหนัง : ADVENTURE | COMEDY | SCI-FI

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง

อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง

“Who You Gonna Call? That's right! GHOSTBUSTERS !!”

กระแสต่อต้านหนัง GHOSTBUSTERS ฉบับรีบู๊ตพลังหญิงของ พอล ฟีก จากแฟนๆ โกสท์บัสเตอร์ส รุ่นเก่านั้นนับว่ารุนแรงมาก ตั้งแต่ยังไม่เริ่มถ่ายทำจนถ่ายทำเสร็จ พอปล่อยตัวอย่างก็ยังโดนต่อต้านไม่เลิก จนแล้วจนรอดหนังกำลังจะฉายก็ยังโดนต่อต้าน ซึ่งถามว่านี่เป็นแฟน บริษัทกำจัดผี ต้นฉบับมั้ย? ก็ขอบอกว่าเป็น (แม้จะเกิดไม่ทันตอนหนังฉายก็เถอะ) แม้เวลาจะล่วงเลยมาเกิน 30 ปีแล้ว แต่ถึงกระนั้นหากหยิบเอามาดูในยุคนี้สมัยนี้มันก็ยังคงเป็นหนังที่ดูสนุกอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง

ส่วนกับฉบับ 2016 นี้ถ้าถามความรู้สึกว่า แอนตี้ กับหนังฉบับนี้มั้ย? ก็ขอตอบเลยครับว่า “ไม่” ! แม้แต่นิดเดียว แถมเอากำลังใจช่วยฉบับนี้ให้ฝ่าฟันไปได้ด้วยซ้ำ คือเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการดัดแปลงและเปลี่ยนแปลงของ โกสท์บัสเตอร์ส เท่าไร นี่มันยุคไหนปีไหนสมัยไหนกันแล้ว ความเปลี่ยนแปลงมันก็ต้องมีกันบ้าง แถมด้วยความที่เราเองก็ผ่านการดูการชมหนังรีบู๊ต (หรือสานต่อตำนาน) มามากมายหลายสิบเรื่องในระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา ก็ขอตอบว่าไม่มีปัญหาอะไรกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้แม้แต่น้อย

และพอได้ชมฉบับนี้แล้ว ความรู้สึกต่อหนังฉบับนี้ คืออย่างแรกเลย หนังเนี่ยให้ความเคารพต่อตัว โกสท์บัสเตอร์ส ต้นฉบับมากๆ ไม่ได้ไปทำลายต้นฉบับเลยแม้แต่น้อย (ส่วนใครที่มองว่าการเปลี่ยนเพศของตัวละครคือการทำลาย อันนี้ก็แล้วแต่) คือหนังมันก็ยังคง “ธีม” หลังของที่เป็นเอกลักษณ์ของ โกสท์บัสเตอร์ ไว้หมด แถมทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยนี้ แต่มันก็ยังคงเรื่องราวของ วิทยาศาสตร์ ปะทะ สิ่งเหนือธรรมชาติเหมือนเดิม ขอย้ำเลยครับว่า พอล ฟีก ไม่ได้ทำลาย โกสท์บัสเตอร์ส แม้แต่นิดเดียว

อย่างที่บอกว่า พอล ฟีก ให้ความเคารพต้นฉบับพอสมควร (ฟีก นี่เป็นแฟนตัวยง) มันก็จะมีอะไรๆ ที่ทำให้เราแอบนึกถึงต้นฉบับอยู่เล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้าง ถ้าไม่นับชุด ไม่นับรถ เอ็คโต้-1 อะไรพวกนี้ (จริงๆ ตอนแรกนี่แอบด่าเรื่องดัดแปลง สไลเมอร์ กับ พัฟ มาร์ชเมลโลว์ แมน น่ะตอนแรก แต่พอได้ดูจริงๆ มันคือการดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยในเรื่อง) เอาจริงๆ เนี่ย ฟีก ทำได้ขนลุกตั้งแต่ตอนที่หนังขึ้นโลโก้ โกสท์บัสเตอร์ส พร้อมเพลง Ghostbusters ของ เรย์ พาร์คเกอร์ จูเนียร์ แล้วน่ะ คือขนลุกมากไม่คิดว่าจะเอาเพลงนี้มาใช้ในหนัง

แต่ที่เป็นทีเด็ดสำหรับ บริษัทกำจัดผี ยุค 2016 นี้ก็คือการเชิญนักแสดงเก่าๆ ทั้ง 5 คนจาก โกสท์บัสเตอร์ส ต้นฉบับกลับมาได้ จริงๆ น่าจะเรียกมากกว่าแค่การเป็นแขกรับเชิญ ถึงจะโผล่แค่ไม่กี่นาทีต่อคนก็ตาม แต่ทั้ง บิลล์ เมอร์เรย์, แดน แอ็ครอย, เออร์นี่ ฮัดสัน และ ซีกอร์เนีย วิเวอร์ รวมถึง แฮโรลด์ รามิส ที่จากโลกนี้ไปแล้ว แต่หนังก็ยังมีฉากรำลึก รามิส อยู่ ถึงจะไม่กี่นาทีแต่มันทำให้แฟนๆ ปลื้มพอสมควรต่อการปรากฎในฉบับใหม่ของพวกเขา มันเหมือนกับอะไรล่ะ มันเหมือนกับการส่งไม้ต่อให้นะ ให้รุ่นต่อไปเขามาทำมาสานต่อแทนอะไรแบบนี้

ถ้าตัดเรื่องเคารพไม่เคารพออกไป สิ่งหนึ่งที่ พอล ฟีก ทำได้ดีมากๆ ก็คือ ทำหนังออกมาได้สนุกและก็บันเทิงมากๆ จุดเด่นของ ฟีก คือเรื่องมุกตลก อันนี้ยอมใจเลย คือฮามาก ฮาแตกสุดๆ กัดได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่มุกในหนัง ยันกัดลามไปหนังเรื่องอื่นๆ หรือนักแสดงคนอื่นๆ ทั้งหนัง JAWS หรือมุก แพทริค สเวซี่ย์ จากหนัง GHOST, POINT BREAK ลามไปแม้แต่ ซูเปอร์แมน หรือ แบทแมน ยันกัดแม้แต่นักแสดงที่รับบทนั้น โดยเฉพาะ ไอ้มุกที่มาจาก คริส เฮมส์เวิร์ธ นี่พีคมาก

คือถ้าคิดว่า เจสัน สเตแธม ใน SPY เป็นอะไรที่ฮาแล้วติ๊งต๊องแล้ว ขอบอกว่า คริส เฮมส์เวิร์ธ นี่เจ๋งกว่า อันนี้เรียกว่าเป็นตัวละครที่ไร้สมองโดยแท้จริงๆ เล่นซ่ะเสียผู้เสียคน เอาซ่ะลืมภาพเท่ของ คริส เฮมส์เวิร์ธ ในบท ธอร์ ในบท นายพราน ในบท เจมส์ ฮันท์ ไปเลย เอาจริงๆ พูดตรงๆ ครับว่า พอล ฟีก แกกักๆ มุก ครับ คือบรรดามุกต่างๆ ที่ปล่อยใน ตัวอย่าง นี้แค่เศษเสี้ยว ของจริงๆ ของเด็ดๆ นี่อยู่ในหนังหมดเลย คือถ้าคิดว่าใน SPY นี่ฮาแล้ว ขอบอกว่า GHOSTBUSTERS สนุกไม่แพ้กัน

อาจจะมีเสียดายบ้างที่ฉากแอ็คชั่นจริงๆ ในหนังก็ไม่ได้เยอะเท่าไร มีเป็นช่วงๆ ไม่มาก มาหนักเอาจริงๆ ก็ท้ายเรื่อง ประมาณ 10 นาที แต่ถึงกระนั้นมันก็เจ๋งพอสมควร คือถ้าฉากแอ็คชั่นหนักกว่านี้คงจะดีไม่น้อย -- พูดถึงเรื่องนักแสดงกันบ้าง นี่แหละครับบทที่เรารอคอยของ เมลิสซ่า แม็คคาร์ธี่ย์ คือไม่ชอบ เมลิสซ่า ในบทแบบที่เธอเล่นใน THE HEAT หรือ IDENITY THIEF เลยแม้แต่น้อย ไม่ชอบบทปากหมาปากเสีย F Word กระจายของนาง ชอบบทแบบ BRIDEMAIDES, SPY มากกว่า ซึ่งบทใน GHOSTBUSTERS เป็นบทที่เหมาะกับนางที่สุด

เคมีตัวละครและนักแสดงเป็นอะไรที่เข้ากันมาก บทของ เคธี่ ดิปโปลด์ ดีมากตรงที่แบ่งบทตัวละครนำทั้ง 5 คนได้อย่างลงตัว ไม่มีใครบทน้อยหรือเด่นเกินไป ลงตัวมากๆ ทั้ง เมลิสซ่า แม็คคาร์ธี่ย์, คริสเตน วิกก์, เลสลี่ โจนส์, เคท แม็คคินน่อน และ คริส เฮมส์เวิร์ธ แต่ที่รู้สึกชอบจริงๆ คือ เคท แมคคินน่อน ครับ เรื่องนี้นางมีออร่าที่สุด มีบทบาทต่อทีม โกสท์บัสเตอร์ส ที่สุดแล้ว -- ขอลบคำสมประมาทที่แอบกัด (น่าจะในเชิงด่ามากกว่า) วง Fall Out Boy ที่เอาเพลง Ghostbusters มาร้องใหม่แล้วทำลาย แต่พอได้ชมในหนังจริงๆ ขอบอกว่าไม่นะ เออ มันเข้ากับหนังมากๆ เลยน่ะ

สุดท้ายนี่น่าจะเป็นหนัง 3มิติ เรื่องแรกของ พอล ฟีก ที่ฉายแบบ 3มิติ แถมน่าจะเป็นหนังเรื่อง IMAX เรื่องแรกของ ฟีก ด้วย และนี่คือเรื่องเซอร์ไพรซ์ที่ GHOSTBUSTERS ฉบับนี้ดันทำฟอร์แมตพิเศษสำหรับ IMAX คืออันนี้เงียบมากไม่รู้มาก่อนเลยแม้แต่นิดเดียว ผลที่ได้คือ 3มิติ สวยมาก ทะลุมาก (3มิติ ในเรื่องใช้ลูกเล่นเดียวกันกับ LIFE OF PI ครับ) ขอย้ำเลยว่า ต้องดู IMAX เท่านั้นจริงๆ -- สุดท้ายบันเทิงตั้งแต่ต้นจนจบยันเครดิตขึ้นก็ยังบันเทิง แถมหนังมี เอนด์เครดิต ครับ เป็น เอนด์เครดิต ที่ทำให้แฟนๆ ต้นฉบับตื่นเต้นพอตัวครับ...