LITTLE FOREST: NATSU HEN • AKI HEN

LITTLE FOREST: NATSU HEN • AKI HEN / ลิตเติ้ล ฟอร์เรส

ผู้จัดจำหน่าย : SHOCHIKU COMPANY

สตูดิโอผู้สร้าง : ROBOT COMMUNICATIONS INC.

ผู้กำกับ โมริ จุนอิจิ

ประเภทของหนัง : DRAMA | FOOD

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง

อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง

“2 ฤดู..และการใช้ชีวิตในชนบทของหนู ฮาชิโมโตะ ไอ ผู้น่ารัก”

หนัง LITTLE FOREST ดัดแปลงมาจากมังงะในชื่อเดียวกันของ อิงาราชิ ไดสุเกะ (ตีพิมพ์ใน มันท์ลี่ อาฟเตอร์นูน ของ โคดันฉะ) ที่เล่าเรื่องของ อิชิโกะ (รับบทโดย ฮาชิโมโตะ ไอ) เด็กสาวที่เคยไปใช้ชีวิตในเมืองแต่แล้วก็ต้องกลับมายังชนบทที่เป็นบ้านเกิดด้วยเหตุผลบางประการ และ อิชิโกะ ก็ใช้ชีวิตเป็นเกษตรกรอยู่โดยการนำพืช, ผัก, ผลไม้ ที่หาได้ในละแวกบ้านมาทำเป็นอาหารผ่านการเปลี่ยนแปลงของฤดูทั้งสี่ โดยตัวหนังกำกับโดย โมริ จุนอิจิ และแบ่งออกเป็นสองภาคนั่นก็คือภาค ฤดูร้อน และ ฤดูใบไม้ร่วง กับ ฤดูหนาว และ ฤดูใบไม้ผลิ และที่ได้ดูกันเป็นภาคแรกก็คือ ภาค ฤดูร้อน (SUMMER / NATSU) และฤดูใบไม้ร่วง (AUTUMM / AKI) นั่นเอง

ก่อนอื่นเลยก็ขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่าตัวมังงะของ LITTLE FOREST นั้นผมไม่เคยอ่านเหมือนกันน่ะ เพราะงั้นการได้ไปชมหนังเรื่องนี้เพราะความอยากดูล้วนๆ เลย ฮ่าๆ เอาล่ะเข้าเรื่องเลยดีกว่า.. จริงๆ น่ะพล็อตของหนังเนี่ยมันไม่ได้มีอะไรหวือหวาหรือตื่นตงตื่นเต้นแม้แต่น้อยเลยน่ะ จัดว่ามันเป็นพล็อตที่เข้าขั้นธรรมดามากๆ คือจะพูดให้ถูกเนี่ยต้องพูดว่าพล็อตมันไม่มีอะไรเป็นพิเศษเลยน่ะ แค่ว่าด้วยเรื่องของ เด็กสาววัยรุ่นนางนึงที่เหมือนจะหนีปัญหาจากการใช้ชีวิตในเมืองกรุง ([สปอยล์] เลิกกับแฟน) มาใช้ชีวิตในชนบทที่เป็นบ้านเกิด ใช้ชีวิตไปแบบสบายๆ ปลูกผักกินเอง ทำอาหารกินเอง ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ (แต่หนังเองก็ยังไม่ลืมแทรกเรื่องราวที่จะเอามาพูดถึงในภาคต่อไป คือเรื่องแม่หายตัวไปจากบ้าน)

โดยหลักๆ แล้วหนังมันจะเน้นไปที่การทำอาหารตามฤดูกาล มีตั้งแต่ของคาวยันของหวาน ไปจนถึงการทำอาหารที่เอาไว้กินในฤดูอื่นๆ ได้ นอกนั้นหนังก็เล่าเรื่องการใช้ชีวิต, การทำอาหงอาหาร ใช้ชีวิตตามฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเอาจริงๆ น่ะการที่หนังเล่าเรื่องแบบไม่ได้มีพล็อตเด่นอะไร (ออกจะไปทาง อินดี้ ด้วยซ้ำน่ะ) เนี่ยถือว่ามันเป็นเสน่ห์ของหนังเลยน่ะ เพราะในเมื่อหนังมันดำเนินไปเรื่อยๆ แบบสบายๆ ทั้งตัวละคร และ เนื้อหา ไอ้คนดูอย่างเราๆ ก็กลับดูไปแบบสบายอกสบายใจไปด้วย เหมือนกลับว่าน่ะ เราเองก็หลีกหนีปัญหาอันวุ่นวายในชีวิตจริงไปด้วย มีคนกล่าวเอาไว้ว่าการดูหนังในโรงหนังมันคือช่วงเวลาที่ทำให้เราหลุดออกจากปัญหาในชีวิตจริง แต่ LITTLE FOREST เนี่ยกลับทำเอาหลุดจากโลกไปได้จริงๆ

คือจะว่าไงดีน่ะในเมื่อหนังเล่าเรื่องไปแบบสบายๆ และตัวละครเองก็สบายๆ นั่นทำให้เราเองกลับจมไปกับหนังแบบสบายใจตลอดเวลาเกือบๆ สองชั่วโมงที่หนังมีตั้งแต่ฉากแรกจนฉายสุดท้ายของหนัง คือเอาจริงๆ เราดูเรื่องนี้แล้วเราอิจฉาตัวละครน่ะ คือก็น่ะเราเป็นคนที่ใช้ชีวิตในเมืองเราก็มีโมเมนท์ที่แบบอยากจะใช้ชีวิตแบบสบายๆ ไม่ต้องรีบร้อนบ้างอะไรบ้างบางที ไม่ต้องรีบทำนู่นทำนี่ให้ปวดหัว (ไม่ต้องพูดถึงญี่ปุ่นหรอกเอาแค่กรุงเทพเนี่ยล่ะ) คืออยากจะไปใช้ชีวิตสบายๆ ท่ามกลางภูเขา พื้นที่ๆ อากาศดีๆ บ้าง คือดู LITTLE FOREST เนี่ยคือเราอิจฉาๆ มากจริงๆ

อีกจุดที่เราเนี่ยรู้สึกอิจฉาคือเราเนี่ยโตมากับวัฒนธรรมญี่ปุ่นพอๆ กับอเมริกา ผ่านมังงะ หนัง และเพลง อีกอย่างที่เราชอบคือเราชอบกินอาหารญี่ปุ่นน่ะ แต่ก็อยากกินจากต้นตำรับเลย แต่ก็ไม่เคยไปญี่ปุ่นสักที แต่ก็ฝันอยากไปแบ็คแพ็คเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว (เก็บเงินอยู่ อยากไปให้ได้ในปีนี้ ถ้าทำได้) แล้วก็เที่ยวตามรอยมังงะกับกินอย่างเดียวเลย คือแบบว่าดูเรื่องนี้กำลังใจพุ่งมากจริงๆ แล้วเจอกันเร็วๆ นี้น่ะญี่ปุ่น ... เดี๋ยวน่ะเหมือนเขียนไปเขียนมาจะกลายเขียนถึงเรื่องตัวเองขอวกกลับเข้าเรื่องรีวิวก่อนน่ะ

คืออย่างที่บอกไปครับตัวหนังเนี่ยแบ่งออกเป็นสองภาค โดยในแต่ละภาคก็แบ่งออกเป็นสองฤดูคือ ฤดูร้อน และ ฤดูใบไม้ร่วง กับ ฤดูหนาว และ ฤดูใบไม้ผลิ แต่หนังกลับมีลูกเล่นคือนึกว่าตอนแรกหนังจะดำเนินเรื่องยาวๆ ไปจนจบ ที่ไหนได้หนังมีการแบ่งเป็นภาคๆ ภาคล่ะฤดูไปเลย ซึ่งในแต่ละฤดูก็จะมีการใช้ฉากเปิดและเพลงปิดที่แตกต่างกัน (YUI เป็นคนร้องเพลงปิด) ซึ่งพอแบ่งอย่างนี้ก็ทำให้เราสามารถสโคปไปที่แต่ละภาคได้ทันที และเหนือสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากการที่หนังดูสบายๆ แล้ว ที่ไม่พูดไม่ได้คือหนังถ่ายภาพได้สวยมาก สวยมากจริงไม่ได้พูดเล่น (กำกับภาพโดย โอโนเดระ ยูคิฮิโระ) และหนังสามารถถ่ายทอดภาพในแต่ฤดูได้อย่างสวยงามมาก (นี่ก็รอดูภาค ฤดูหนาว และ ฤดูใบไม้ผลิ อยู่น่ะ ภาพคงสวยสุดๆ แน่) และท้ายสุดไม่พูดถึงก็ไม่ได้คือการแสดงของหนูฮาชิโมโตะ ไอ เรื่องนี้โชว์ความเด่นของหนูไอได้อย่างโดดเด่นจริงๆ ไม่ต้องสนใจการแสดงเลยดูแค่ภาพกับหนูไอถือว่าคุ้มแล้วจริง 'มีกบร้องอยู่ในท้อง' รอ LITTLE FOREST: FUYU HEN • HARU HEN ต่อไป...