วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2558

FURIOUS 7


FURIOUS 7 / เร็ว..แรงทะลุนรก 7


ผู้จัดจำหน่าย : UNIVERSAL PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : ORIGINAL FILM
ผู้กำกับ : เจมส์ วาน (SAW, INSIDIOUS, THE CONJURING)
ประเภทของหนัง : ACTION | CRIME | THRILLER

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“ไม่มีเพื่อนว่ะ มีแต่ครอบครัว ... แด่ พอล วอล์คเกอร์ หนังที่มีฉากจบที่งดงามที่สุดอีกเรื่องในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์”


การเข้ามารับไม้ต่อจาก จัสติน ลิน (ที่อำลาไปขออาสาพา ยานเอนเตอร์ไพรซ์ ดริฟท์แทน) ของ "เจมส์ วาน" ผู้กำกับหน้าตี๋ชาวออสเตรเลีย ในการพาแฟรนไชส์นี้ซิ่งต่อไป นับว่าเป็นสิ่งที่กล้าหาญมากๆ เพราะ ลิน ทำไว้ดีมากในทุกภาค พอ วาน เข้ามากำกับก็มีปัญหานู่นนั้นนี่ตามมา แต่พอหนังเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยก็ทำให้เรารู้ว่า เจมส์ วาน เป็นผู้กำกับที่เทพมากอีกคนในวงการนี้ เขาคนนี้ไม่ได้มีดีแค่ทำหนังผี, หนังสยองขวัญ, หนังทริลเลอร์ เป็นอย่างเดียว (จริงๆ DEATH SENTENCE ก็เป็นหนังแอ็คชั่น แต่มันออกแนว ทริลเลอร์ มากกว่าล่ะน่ะ..) แต่ทำหนังแอ็คชั่นจัดเต็มก็ทำออกมาได้สุดยอด..!!

FURIOUS 7 ดำเนินเรื่องต่อจากเหตุการณ์ในเอนด์เครดิตของ FAST & FURIOUS 6 และเหตุการณ์การตายของ ฮาน ใน THE FAST & THE FURIOUS: TOKYO DRIFT ซึ่งก็อธิบายว่าทั้งหมดมันเป็นฝีมือของ เด็คการ์ด ชอว์ (รับบทโดย เจสัน สเตแธม) ซึ่งเป็นพี่ชายของ โอเว่น ชอว์ (ลุค อีแวนส์) ที่ต้องการจะล้างแค้นทีมของดอมที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ โอเว่น ต้องนอนพิการใกล้ตายในโรงพยาบาล นั่นเอง โดยคนที่โดนเก็บก็คือ ฮาน นั่นเอง ทำให้ ดอม และ ทีม ต้องตามล่าตัว เด็คการ์ด และนั่นทำให้ธีมของภาคนี้ก็คือ "การล้างแค้น" นั่นเอง..


ภาคนี้ตัวละครของครอบครัวทอเร็ตโต้ถือว่าน้อยลงกว่าภาคที่ห้าและภาคที่หกอย่างเห็นได้ชัด นั่นล่ะทำให้เสน่ห์ที่เคยเห็นเคยมีในสองภาคก่อนหน้านั้นหายมันหายไป จะเหลือก็แค่พวกตัวหลักๆ อย่าง ดอม, ไบรอัน, เล็ตตี้, มีอา, โรมัน, เท้จ และก็ ฮ็อบส์ เท่านั้น แต่นั่นก็ถือเป็นสิ่งที่เรียกว่าได้อย่างมันก็เสียอย่าง พอตัวละครไม่ได้เยอะเท่าสองภาคที่แล้ว นั่นก็ทำให้หนังสามารถที่จะมีเวลากระจายบทให้ตัวละครมีบทบาทบนจอมากขึ้นกว่าสองภาคก่อน ซึ่งหนังก็ปล่อยเวลาให้เล่นตรงนี้อยู่พอสมควรเลยทีเดียว ได้เห็นความเกรียนของ โรมัน ได้เห็น เท้จ ออกลีลาต่อสู้ ได้เห็นการร่วมจอมากขึ้นของ ไบรอัน และ ดอม ภาคนี้ทำได้ดีมาก (อย่างน้อยภาคนี้ก็ทำให้ ไบรอัน มีตัวตนมากกว่าภาคที่แล้ว)

และถ้าวัดกันตามเกณฑ์ของหนังตระกูลนี้ในส่วนของการดำเนินเรื่องถือว่า FURIOUS 7 ทำได้ตามเกณฑ์มาตราฐานที่แฟรนไชส์นี้ทำไว้ อาจจะไม่ดีเท่า FAST FIVE (ตามความคิดของผมน่ะ ของคนอื่นก็คงแตกต่างกันไป) แต่ก็ยอมรับเลยว่าภาคนี้ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ส่วนตัวหนังเองก็ไม่ได้วนเวียนอยู่ที่ประเด็นล้างแค้น หรือช่วยตัวประกันอย่างเดียว แต่หนังยังคงมีประเด็นที่มักจะนำเสนออยู่ทุกภาคก็คือเรื่องของครอบครัว โดยเฉพาะภาคนี้ที่เน้นย้ำตรงนี้บ่อยมาก จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที แต่ถือว่า ประเด็นการล้างแค้นพอมารวมกับประเด็นคำว่าครอบครัวนี่ถือว่าหนังทำออกมาได้อย่างลงตัวและกลมกล่อมเป็นอย่างมาก


มาว่ากันถึงในส่วนของฉากแอ็คชั่นที่เป็นจุดขายของแฟรนไชส์กันบ้าง และก็ความโอเว่อร์ที่ก็เป็นอีกจุดขายของแฟรนไชส์นี้เหมือนกัน โอเคก่อนอื่นว่าในส่วนของฉากแอ็คชั่น ถามก่อนเลยอยากดูหนังที่จัดเต็มฉากแอ็คชั่นใช่มั้ย ถ้าคำตอบคือใช่ แนะนำให้ไปดู THE RAID 2: BERANDAL ครับมันส์โคตร.. เอ้ยๆ ไอ้ที่พูดเมื่อกี่นี้มุกน่ะมุก ถามก่อนเลยอยากดูหนังที่จัดเต็มฉากแอ็คชั่นใช่มั้ย ถ้าคำตอบคือใช่ ขอบอกเลยว่า FURIOUS 7 สนองนีดในส่วนตรงนี้ให้ได้ ถ้าวัดกันตรงเลยฉากแอ็คชั่นนี่ถ้ารวมๆ กันน่าจะเกินชั่วโมงได้ ซึ่งเกิน 80% มันส์อยู่และทำให้อาดรีนาลินเดือดได้ไม่ยากอย่างแน่นอน

ว่ากันในส่วนความเว่อร์ถ้าไอ้การลากตู้เซฟในริโอ, ซิ่งบี้กับรถถัง และ ถล่มเครื่องบิน นี่ถือว่าเว่อร์ว่าโม้กันสุดแล้ว ก็คงไม่มีอะไรที่มันจะโม้ได้เท่านั้นแล้วล่ะ เทียบกัน ปอนด์ต่อปอนด์ ถือว่าภาคนี้มันลดดีกรีความเว่อร์ลงมาอยู่น่ะ จะมีโอเว่อร์อยู่บ้างก็ตรงปล่อยรถลงมาจากเครื่องบินหรือซิ่งรถซูเปอร์คาร์ทะลุตึก นอกนั้นก็จัดว่าเป็นความโอเว่อร์ที่สมเหตุสมผลอยู่ ถือว่า เจมส์ วาน เข้ามาทำฉากแอ็คชั่นในส่วนตรงได้ดี ทำให้รู้เลยว่า คุณวาน เนี่ยมีดีพอตัวเลยทีเดียวครับ โดยรวมเลยถ้าจะดูฉากแอ็คชั่นมันส์ FURIOUS 7 ตอบโจทย์ได้แน่นอน ตอนไปดูนี้ก็นอนไม่พอน่ะ จะหลับอยู่เหมือนกัน แต่ฉากแอ็คชั่นในหนังนี้ทำให้ตาสว่างเลยทีเดียว งานนี้ FURIOUS 7 ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน


อยากจะติอะไรเล็กน้อยๆ ในส่วนตัวร้าย เด็คการ์ด ชอว์ นี่มาอารมณ์เดียวกับ โอเว่น ชอว์ เลยน่ะ คือเปิดตัวมาว่าเก่งอย่างนี้เก่งอย่างนั้น คือกูเทพมาก (ซึ่งต้นๆ ก็ดูจะเก่งดี) พอผ่านไปครึ่งเรื่องบทบาทเริ่มมาอารมณ์เดียวกันเลยทั้งพี่ทั้งน้อง อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นตัวร้ายที่ดูจะเกรียนเป็นสโตคเกอร์คอยตามรังควานทีมของ ดอม มากกว่าจะเป็นตัวร้ายที่คิดจะฆ่าไอ้พวกนี้จริงๆ ล่ะน่ะ.. ส่วน จา พนม ในหนังเหมือนจะเก่งน่ะ ไปๆ มาๆ ก็ไม่เก่ง บทจบง่ายมาก ส่วน จิมอนด์ ฮาวด์ซู เอ้าเอ็งเล่นเป็นตัวร้ายด้วยเหรอฟ่ะเนี่ย อากาศธาตุชัดๆ

สุดท้ายไม่พูดถึงคงไม่ได้เพราะนี่เป็นหนังเรื่องสุดท้ายของ พอล วอล์คเกอร์ จะบอกว่า เจมส์ วาน กับมือเขียนบท คริส มอร์แกน นี่แก้ไขสถานการณ์ได้เก่งพอตัวเลยทีเดียวปรับบทแก้ไขจนออกมาเป็นหนังที่สมบูรณ์ขนาดนี้ และนั่นก็ทำให้ FURIOUS 7 กลายเป็น หนึ่งในหนังที่มีฉากจบที่งดงามที่สุดอีกเรื่องในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ กับการอำลาและปิดตำนานของ ไบรอัน โอ'คอนเนอร์ และ พอล วอล์คเกอร์ ได้อย่างสมเกียรติจริงๆ โดยเฉพาะฟุตเตจที่หนังทำขึ้นมาสดุดีโดยการนำเอาฟุตเตจสำคัญๆ ของ พอล ในบท ไบรอัน ในหนังภาคก่อนๆ ขึ้นมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราว งานนี้มีน้ำตาซึมเลยทีเดียวครับ .. ด้วยรักและคิดถึง พอล วอล์คเกอร์...


ความยาวทั้งหมด 137 นาที
คะแนน 8.5/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger