วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2559

THE JUNGLE BOOK


THE JUNGLE BOOK / เมาคลีลูกหมาป่า


ผู้จัดจำหน่าย : WALT DISNEY STUDIOS MOTION PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : FAIRVIEW ENTERTAINMENT
ผู้กำกับ : จอน แฟฟโร (IRON MAN, CHEF)
ประเภทของหนัง : ADVENTURE | DRAMA | FAMILY

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง


กับ THE JUNGLE BOOK เมาคลีลูกหมาป่า เวอร์ชั่นคนแสดงนี้มีอะไรหลายๆ อย่างที่น่าชื่นชมและน่าหยิบยกมาพูดจริงๆ ครับ ซึ่งสิ่งที่น่าจะหยิบยกมาพูดเป็นอย่างแรก ก็คงหนีไม่พ้นทางด้านของ วิชวลเอฟเฟกต์ ในเรื่องนี้ ที่ไม่ต่างอะไรกับการบอกว่านี่เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่บอกว่า วงการสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์ได้ก้าวกระโดดอีกครั่งแล้ว กับการเนรมิตเหล่า สรรพสัตว์ และ ผืนป่าอันยิ่งใหญ่ในเรื่องให้ออกมาได้งดงามและตื่นตาตื่นใจมากจริงๆ และสำคัญเลยมันช่างเป็นอะไรที่ดูเนียนตาไปซ่ะหมดจนนึกว่าเอาหมีเอาเสือมาแสดงจริงๆ หรือแม้แต่นึกว่าไปถ่ายทำกันในป่าจริงๆ ด้วยซ้ำ (ซึ่งอันที่จริงแล้วหนังถ่ายทำกันในสตูดิโอ หน้ากรีน/บลู สกรีน ล้วนๆ)

เรียกว่าเป็นการยกระดับอีกหนในวงการนี้เลย น้อง นีล เซธี ที่เล่นเป็น เมาคลี ก็เก่งเล่นคนเดียวซ่ะด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขอซูฮกให้กับวิสัยทัศน์ของ จอน แฟฟโร ผู้กำกับ และทีมงาน, ทีมสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์ของหนังด้วย ที่สามารถเนรมิตบรรดาสิงสาราสัตว์ทั้ง หมาป่า, เสือ (ดำ), หมี, ลิง ฯลฯ ที่พูดได้, หมีร้องเพลงได้ และ ลิงก็ร้องเพลงได้ ในหนังเรื่องนี้ให้รู้สึกได้ว่าไม่ได้แปลกหรือดูตลกแม้แต่นิดเดียว ทั้งกลับทำให้เราเชื่อด้วยซ้ำ แต่เหนือสิ่งอื่นใดการที่สัตว์ในเรื่องพูดได้ กลับออกมาดูเป็นธรรมชาติมากๆ ดูมีชีวิตจริงๆ จนไม่นึกว่ามันเป็น CG เลยแม้แต่น้อย ทั้งการขยับปาก ทั้งสีหน้า แววตา และก็ท่าทาง คือหนังทำได้เนียนตาและไหลลื่นมาก


ด้านเนื้อหานั้นสำหรับเวอร์ชั่นคนแสดงนี้เนื้อหาจะดาร์คและจริงจังกว่าฉบับอนิเมชั่นเมื่อเกือบครึ่งศตวรรษก่อนแน่นอน แต่ถึงจะบอกว่าดาร์คกว่าจริงจังกว่าแต่ก็เป็นความดาร์คที่เหมาะกับ เรท PG ที่เด็กดูได้ แต่ถึงกระนั้น แฟฟโร ก็ยังเคารพฉบับอนิเมชั่นเมื่อปี 1967 พอตัวด้วยการใส่เพลงประจำตัวของ บาลู และเพลงของ คิงลูอี้ เข้ามา, ส่วนเนื้อเรื่องนั้นก็ไม่ได้ปูพื้นฐานเท่าไรนัก พูดถึงอดีตของ เมาคลี แค่ผ่านๆ เท่านั้น นอกนั้นที่เหลือก็คือการใช้ชีวิตในป่าของเมาคลีและการผจญภัยและปราบ แชร์คาน เท่านั้น

จะพูดว่าเนื้อหาในหนังเรียบง่ายมาก คือมันเรียบง่ายจริงๆ น่ะ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเท่าไรเลย คือก็ดำเนินเรื่องไปตามสเต็ป 1 2 3 จบ ไม่ได้มีอะไรพลิกโผหรือเซอร์ไพรซ์เท่าไร เดาทางบทสรุปได้เลย ว่าจะยังไงและจบยังไง แต่ในความเรียบง่ายเนี่ย แต่กลับเป็นอะไรที่โคตรจะสนุกมากๆ เป็นการผจญภัยของ เมาคลี ที่ตื่นตาตื่นใจมากๆ กับการพบเจอ แชร์คาน จนต้องหนีออกมาจากฝูง จนไปเจอ คา งูยักษ์ ได้พบเจอ บาลู ได้ผจญภัยกันจนได้เจอ คิงลูอี้ คือเป็นการผจญภัยที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย แต่กลับทำออกมาคือดูสนุกและจัดว่าบันเทิงมาก


ตัวละครในหนังก็มีอะไรให้น่าจดจำ คือคุณจะต้องรักตัวละครอย่าง บาลู หรือ บากีร่า หรือแม้แต่ทางด้าน เกรย์ หมาป่าน้อยน้องของเมาคลีอย่างแน่นอนเลย คือทั้งหมดนี่เคมีเข้ากับ เมาคลี ที่เป็นมนุษย์คนเดียวในเรื่องด้วย -- เหนือสิ่งอื่นใดเสียงของบรรดานักแสดงก็มีส่วนที่ทำให้เราเชื่อว่าสัตว์พวกนี้มีชีวิตจริงๆ อย่าง เซอร์ เบน คิงส์ลี่ย์ เสียงก็เข้ากับ บากีร่า มากๆ ส่วน บิลล์ เมอร์เรย์ เสียงก็นุ่มนวลเข้ากับ บาลู มากๆ ส่วน ไอดริส เอลบ้า เสียงอันน่าเกรงขามก็เข้ากับ แชร์คาน สุดๆ ไหนจะเสียงของ สกาเล็ตต์ โจแฮนสัน เองก็มีเสน่ห์ชวนหลงไหลมากจริงๆ

สุดท้ายเลยแนะนำให้ดู THE JUNGLE BOOK เมาคลีลูกหมาป่า บนจอ IMAX ครับ (นี่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับ ดิสนีย์ หรือ เมเจอร์ เลยน่ะ) คือแบบ IMAX มันได้เปรียบตรงทำให้ภาพบนจอมันใหญ่และดูอลังการงานสร้างมากๆ เหมือนเราเข้าปูอยู่ในผืนป่าที่ดูกว้างใหญ่จริงๆ และกลืนไปกับสกอร์ดนตรีของ จอห์น เด็ปนีย์ จริงๆ ครับ...


ความยาวทั้งหมด 105 นาที
คะแนน 8/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger