วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

WARCRAFT


WARCRAFT / วอร์คราฟต์ กำเนิดศึกสองพิภพ


ผู้จัดจำหน่าย : UNIVERSAL PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : LEGENDARY PICTURES, BLIZZARD ENTERTAINMENT
ผู้กำกับ : ดันแคน โจนส์ (MOON, SOURCE CODE)
ประเภทของหนัง : ACTION | ADVENTURE | FANTASY

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง


นับตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องของหนังที่บรรดาเหล่า ออร์ค ทั้งหลายเตรียมตัวตั้งท่าจะบุกไปที่โลกมนุษย์ ยันฉากจบที่เป็นบทสรุปของสงครามระหว่าง มนุษย์ และ ออร์ค ขอบอกเลยว่าตัวหนังปั่นป่วนมากถึงมากที่สุด เอาเป็นว่าดูไม่รู้เรื่องเลยก็ว่าได้ งง กับอะไรหลายๆ เรื่องหลายๆ อย่างในหนังมาก ทั้งที่มาที่ไปของเรื่องราวและก็ตัวละคร ซึ่ง ดันแคน โจนส์ ผู้กำกับของหนังกลับไม่มาเสียเวลาอธิบายอะไรให้คนดูได้เข้าใจเลย เดินหน้าฆ่าลูกเดียว เดินเรื่องรวบรัดตัดความเอาซ่ะมากๆ ปล่อยให้คนที่ตามเนื้อเรื่องไม่ทัน ... ก็ให้นั่งงงกันต่อไปทั้งอย่างนั้น

พอ (คนดูที่ไม่ทันเนื้อหาก่อนหน้า) กำลังจะเข้าใจเรื่องก่อนหน้า อยู่ๆ ดันแคน โจนส์ ก็โยนอีปัญหาต่อไปมาให้ตามให้งงกันต่อ เป็นอยู่อย่างนี้อยู่ตลอดเรื่อง ไม่เก็ทอะไรเลยสักอย่าง เป็นการดูที่อัดอั้นและอึดอัดอยู่พอตัว (อันที่จริงก็พอเข้าใจอยู่แหละว่าจักรวาลและโลกของ วอร์คราฟท์ มันใหญ่เกินที่จะยัดและทำให้เคลียร์ในเวลา 2 ชั่วโมง ก็เลยทำได้แค่เท่าที่เห็นนั่นแหละ) ส่วนคนที่มาดูเรื่องนี้เพราะเป็นแฟนคลับ ดันแคน โจนส์ จาก MOON หรือ SOURCE CODE อาจจะมีผิดหวังกลับบ้านกับการกำกับของ ดันแคน โจนส์ อย่างแน่นอน (บอกแค่นี้แหละ ไปลองพิสูจน์กันดูเอง)


คืออันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าแฟนๆ เกม วอร์คราฟท์, เวิลด์ ออฟ วอร์คราฟท์ มีความรู้สึกยังไงกับตัวหนังเรื่องนี้ อาจจะสนุกกับตัวหนังมากๆ ก็ได้?! (ล่ะมั้งน่ะ) แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เล่น วอร์คราฟท์ อย่างเรานั้น (อันที่จริงเคยลองๆ เล่นตั้งแต่ ม. ต้น แล้วแต่ไปไม่รอด) ก็รู้ตัวอยู่แหละว่าคงจะไม่อินเท่ากับคนที่เป็นแฟนและเล่นเกมนี้อย่างแน่นอน เพราะงั้นการตีตั๋วไปดูหนังเรื่องนี้ก็คาดหวังไว้ขอแค่ให้เนื้อหาและตัวหนังออกมาสนุกก็เพียงพอแล้ว แต่ด้วยความที่ไม่อินและไม่เก็ท ตามอะไรหนังไม่ทันเลย ก็บอกได้คำเดียวว่าหนังนั้นไม่สนุกเลย

ที่ดูจะเป็นจุดอ่อนสำคัญของหนัง (มากๆ) ก็คงเป็นมิติตัวละครที่ดูแบนราบกันหมดทั้งเรื่องนี่แหละ ทั้งฝ่ายมนุษย์ และก็ฝ่ายออร์ค ไล่ตั้งแต่ โลธ่าร์ (ทราวิส ฟิมเมล), ดูโรทาน (โทบี้ เคปเบลล์), กาโรน่า (พอลล่า แพตตัน), เมดิฟท์ (เบน ฟอสเตอร์), กูลดาน (แดเนี่ยล วู) ฯลฯ และแม้แต่ คิงเลน ตัวละครที่นาย ดอมินิค คูเปอร์ เล่น คิงเลน เนี่ยทั้งเรื่องเป็นตัวละครที่ดูไม่มีความเป็นผู้นำเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ทำให้เราเชื่อได้ว่าแกจะเป็นผู้นำพากองทัพไปล้มออร์คได้ (ก็ถ้าไม่นับการเสียสละที่พางงๆ ว่าทำไปเพื่ออะไรว่ะ) โลธ่าร์ ดูมีความเป็นผู้นำกว่าไหนๆ ซ่ะอีก


ก็ไม่แปลกเลยที่จะไม่อินไปกับตัวละครและชะตากรรมที่ตัวละครในเรื่องเจอ ดูแล้วก็รู้สึกหน่ายๆ ปนเหนื่อยๆ เอาจริงๆ แล้วตัวละครทั้งเรื่องนี่ดูไม่มีมิติอะไรเลย ถอนหายใจอยู่พักใหญ่ และถ้าถามว่าตัวละครที่ดูมีมิติ (และชอบ) ที่สุดในเรื่องก็ขอตอบว่า นกยักษ์?? ที่ โลธ่าร์ ขี่ที่สุดละ ฉากฟัดกับ ออร์ค ท้ายเรื่องนี่เอาใจเราไปเลย นอกนั้นก็..

สุดท้ายคือมันเป็นจุดเริ่มต้น บีกินนิ่ง ซึ่งมันก็ บีกินนิ่ง สมใจคนดูกันล่ะทีนี้ เข้าใจว่าตอนจบคือจะปูให้เป็นแบบเกม วอร์คราฟท์ ที่พวก มนุษย์ เปิดสงครามกับ ออร์ค ไรงี้ แต่หนังมันเล่าได้ธรรมดาไป จบก็ธรรมดามาก ถ้ามีโอกาศทำภาคสองก็อยากให้แก้ไขเรื่องบทกันหน่อยให้คนที่ไม่เล่นเกมได้เข้าใจไปกับหนังด้วยก็จะดีไม่ใช่น้อย แต่ถึงกระนั้นแม้ตัวหนังอาจจะรวบรัดตัดความไปนิดส์ (ไม่นิดละ) พากันนั่งเอ๋อแดกตั้งแต่ต้นยันจบ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยคือ วิชวลเอฟเฟกต์ ในหนัง ทั้งฉาก เมือง และการเนรมิตพวก ออร์ค หนังทำได้สวยสมจริงมาก เนียนตาสุดๆ ส่วนเรื่องฉากแอ็คชั่น กลับมีความรู้สึกธรรมดาว่ามันธรรมดามากๆ...


ความยาวทั้งหมด 123 นาที
คะแนน 5.5/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger