วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

X-MEN: APOCALYPSE


X-MEN: APOCALYPSE / X-เม็น อะพอคคาลิปส์


ผู้จัดจำหน่าย : 20TH CENTURY FOX
สตูดิโอผู้สร้าง : BAD HAT HARRY PRODUCTIONS, TSG ENTERTAINMENT
ผู้กำกับ : ไบรอัน ซิงเกอร์ (X-MEN, X-MEN: APOCALYPSE)
ประเภทของหนัง : ACTION | ADVENTURES | FANTASY

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“บทสรุปไตรภาคที่สองของแฟรนไชส์ X-เม็น”


หลังจากฟ็อกซ์เริ่มแฟรนไชส์ X-เม็น บทใหม่ เริ่มต้นไปกับ X-MEN: FIRST CLASS เมื่อปี 2011 และรีเซ็ทจักรวาลไปกับ X-MEN: DAYS OF FUTURE PAST เมื่อปี 2014 และแล้วก็เดินทางมาสู่บทสรุปไตรภาคที่สองของแฟรนไชส์หนัง X-เม็น สักทีกับ “X-MEN: APOCALYPSE” ที่ในบทสรุปสุดท้ายนี้เหล่า X-เม็น ต้องปะทะกับ มิวแตนท์ คนแรกของโลก มนุษย์กลายพันธ์ผู้ทรงพลังผู้ตื่นขึ้นจากการหลับไหล เอ็น ซาบาร์ นูร์ หรือ อะพ็อคคาลิปส์ ที่ในภาคนี้ได้ ไบรอัน ซิงเกอร์ กลับมากุมบังเหียนอีกหน พร้อมกันภาคนี้ยังมีการแนะนำเหล่า มิวแตนท์รุ่นใหม่ (แต่เรารู้จักกันดี) อย่าง สก็อตต์ ซัมเมอร์ส/ไซคลอปส์, จีน เกรย์, ไนท์ครอว์เลอร์ และ สตอร์ม อีกด้วย

ทางด้านสื่อเมืองนอกวิจารณ์ X-MEN: APOCALYPSE แบบเสียงแตกครึ่ง มีทั้งชอบ และก็ไม่ชอบ แต่พอได้ดูกับตาตัวเอง กลับมีความรู้สึกว่า ชอบ หนังเรื่องนี้ชอบตัวหนังอยู่พอตัว คือมันดูง่าย เข้าใจง่าย ไม่ได้มีความซับซ้อน กินง่ายย่อยง่าย เป็นการปิดไตรภาคที่สองของแฟรนไชส์ X-เม็น ได้อย่างลงตัว ฟินๆ และ วินๆ กันไปทุกฝ่าย โดยเฉพาะใครที่ตามมาตั้งแต่ภาค FIRST CLASS นู่นเลย พร้อมกันหนังจบไตรภาคนี้หนังก็พร้อมที่จะเดินหน้าต่อในภาคอื่นๆ ได้ต่อไป จะเล่าเรื่อง X-เม็น รุ่นใหม่ที่มี ไซคลอปส์ เป็นผู้นำ หรือ นิว มิวแตนท์ หนังภาคนี้ก็เปิดประตูรอไว้หมดแล้ว


พูดถึงเรื่องหนัง แม้การดำเนินเรื่องอาจจะไม่ได้ สมบูรณ์แบบเหมือนกับทางด้านของภาค FIRST CLASS และ DAYS OF FUTURE PAST ไม่ได้เล่นประเด็นจริงจังเครียดๆ การเมืองอะไรแบบนั้น แต่หันไปเล่นเรื่องความเชื่อกับความศรัทธาผ่านทางตัว อะพ็อคคาลิปส์ แทน แต่ถึงกระนั้นการเดินหน้าของหนังการดำเนินเรื่องจากอีกจุดไปอีกจุดก็ทำได้ลงตัว ไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลกๆ เลยแม้แต่น้อย อาจจะเสียเวลาปูบทนานไปหน่อย (ทั้งแนะนำตัวละครหรือการรวบรวม 4 จตุรอาชา) แต่รวมๆ แล้วก็พูดได้ละว่า X-MEN: APOCALYPSE ก็เป็นหนังที่สนุกพอตัว (สำหรับเรา) บันเทิงพอตัว อาจจะไม่เท่ากับทางด้านของ CIVIL WAR ที่ฉายไปก่อน แต่ก็เป็นหนังซัมเมอร์ปีนี้ที่ตอบโจทย์ความบันเทิงได้อย่างลงตัว

หนึ่งจุดที่ชอบภาคนี้คือ ไบรอัน ซิงเกอร์ และ ไซม่อน คินเบิร์ก มือเขียนบท ทำให้เห็นถึงพัฒนาการของทีม "X-เม็น รุ่นใหม่" โดยมี โปรเฟสเซอร์ X แนะนำ และมี มิสติค และ บีสต์ ประคับประคองไป โดยที่ทีมใหม่นั้นไม่ได้เก่งมาตั้งแต่ต้น ค่อยๆ เห็นการพัฒนาไปทั้ง สก็อตต์ ทั้ง จีน และ ไนท์ครอว์เลอร์ ที่ยังทำอะไรไม่ค่อยเป็น ไม่กล้าสู้ แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องสู้ แม้จะดูลุกลี้ลุกลนอยู่บ้างก็ตาม อีกจุดที่ชอบคือ แม็กนีโต้ ครับ ระทมกันมาตั้งแต่ FIRST CLASS ก็ต้องระทมกันให้สุด ภาคนี้มีบทให้โชว์ มีฉากเรียกน้ำตา ซึ่ง พี่ฟาสส์ ไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์ นี่ก็เล่นใหญ่น้ำตาไหล [สปอยล์] ตั้งแต่ ลูกและเมียตาย ยันฉากที่ไประทมชีวิตหน้าค่ายกักกัน ฉากนั้นขนลุกมากๆ


ภาคนี้เนี่ยฉากแอ็คชั่นมันมีน้อยมาก มีไม่เยอะเท่าไร ฉากแอ็คชั่นใหญ่ๆ ก็มาอัดกันปางตายก็ในองก์ที่สามที่ทีม X-เม็น ต้องปะทะกับ เดอะ โฟร์ฮอร์สเมน ออฟ ดิ อะพ็อคคาลิปส์ นอกนั้นก็มีแค่ ฉากเปิดเรื่อง และก็ฉาก Weapon X นั่นแหละ พูดถึงฉากแอ็คชั่นในองก์ที่สาม นี่ก็ชอบที่ทีม X-เม็น ต้องงัดทุกกระบวนท่ามาเพื่ออัด อะพ็อคคาลิปส์ มีการร่วมมือกันเพื่อจัดการ เออ! นี่แหละ X-เม็น ที่เรารู้จัก (ซึ่ง ไตรภาคที่ 2 ดูเป็นหนัง X-เม็น จริงๆ ที่ต้องงัดต้องโชว์ความสามารถของทีมมาสู้ ไม่ใช่ วูลฟ์เวอรีน และผองเพื่อนแบบในไตรภาคแรก)

พูดถึง อะพ็อคคาลิปส์ นิดๆ ละกันในคอมิคส์ อะพ็อคคาลิปส์ นี่พลังความโม้นี่โม้มากๆ แต่พอกลายเป็นหนังกลับไม่ได้เท่าคอมิคส์เลย ไม่ได้เจ๋งหรือเก่งเท่าแบบในคอมิคส์ (แต่ก็ไม่กระจอกเท่ากับ อัลตรอน ใน AGE OF ULTRON) ไม่รู้เพราะโดน 4 จตุรอาชา แย่งซีนความกระจอกหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ (อีกทั้งเราก็ไม่เข้าใจอีกนั่นแหละว่า อะพ็อคคาลิปส์ จะทำลายล้างโลกไปทำไม แค่เห็นว่าโลกเปลี่ยนแปลงไม่โดนใจตัวเองเท่านั้น) และถ้าไม่นับ แม็กนีโต้ ทั้ง สตอร์ม, อาร์คแองเจิล และ ไซล็อค นี่กระจ้อกกระจอกมาก โดยเฉพาะ อาร์คแองเจิล นี่แบบ..


สำหรับ X-เม็น รุ่นใหม่ ค่อนข้างชอบ สก็อตต์ ฉบับไอ้หนู ไท เชอริแดน พอสมควร ทั้ง ซิงเกอร์ และ คินเบิร์ก ตีความ สก็อตต์ ฉบับนี้ให้ดูเป็นเด็กมีปัญหากับชีวิตดี ทั้งเรื่องมีพลังพิเศษ รวมถึงการมี อเล็กซ์ หรือ ฮาว็อค เป็นพี่ชาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังแอบเห็นความกวนตีนในตัวหมอนี่ และก็เริ่มเห็นแววความเป็นผู้นำทีมแล้วด้วย ส่วน จีน เกรย์ (โซฟี่ เทอร์เนอร์) บทเด่นบ้างไม่เด่นบ้างเป็นช่วงๆ ไป แต่มาเกิดมากตอนท้ายเรื่อง (ยังไงไปตามเอง แต่ก็เดาได้ไม่ยากหรอก) ส่วน เคิร์ท วากเนอร์ (โคดี้ สมิธ-แม็คฟี่) หรือ ไนท์ครอว์เลอร์ ก็โดดเด่นอยู่นะ ส่วน สตอร์ม (อเล็กซานดร้า ชิปป์) เสียอย่างเดียวนางดันอยู่ในทีม จตุรอาชา ก็เลยไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก

แต่ที่โดดเด่นขโมยซีนที่สุดในเรื่องแน่นอนคงไม่พ้นทางด้านของ ควิกซิลเวอร์ (อีแวน ปีเตอร์ส) ถ้าฉากห้องครัวในเพนตากอน คือทีเด็ดในภาค DAYS OF FUTURE PAST ต้องมาเจอฉากทีเด็ดในภาคนี้ที่สามารถทำให้ภาคที่แล้วกลายเป็นฉากเด็กๆ ไปได้เลยขโมยซีนมากทั้งกลางเรื่องและท้ายเรื่อง แฟนคลับ ควิกซิลเวอร์ Sweet Dream ฝันหวานทุกคนแน่นอน (อีกคน [สปอยล์] ก็ วูลฟ์เวอรีน ครับ โผล่มาขโมยซีนมาก เฉลยปมจากตอนจบภาคที่แล้วได้ดี) แนะนำว่า “X-MEN: APOCALYPSE” ต้องดูแบบ IMAX ครับ ใช้ได้คุ้มมาก (และได้เห็นพี่ฟาสส์บนจอใหญ่คือดีงาม) เสียงแน่นมาก สุดท้ายและท้ายสุด ฉากจบของไตรภาคนี้ทำมาเอาใจแฟนๆ คอมิคส์จริงๆ ครับ...


ความยาวทั้งหมด 144 นาที
คะแนน 8/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger