วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2559

FINDING DORY


FINDING DORY / ผจญภัยดอรี่ขี้ลืม


ผู้จัดจำหน่าย : WALT DISNEY STUDIOS MOTION PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : PIXAR ANIMATION STUDIOS
ผู้กำกับ : แอนดรูว์ สแตนตัน (FINDING NEMO, WALL-E), แองกัส แม็คเลน
ประเภทของหนัง : ANIMATION | ADVENTURE | COMEDY

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง


แอนดรูว์ สแตนตัน กลับมาสานต่อเรื่องราวการผจญภัยในท้องทะเลอีกหน หลังจากที่เคยพาคนดูประทับใจกันมาแล้วกับ FINDING NEMO เมื่อปี 2003 วันเวลาผ่านไป 13 ปี หนนี้ แอนดรูว์ สแตนตัน ที่หนีบเอา แองกัส แม็คเลน ลูกหม้อของ พิกซ่าร์ ขึ้นมาเป็นผู้กำกับร่วมพร้อมพาคนดูรุ่นใหม่ (แต่คิดว่าส่วนมากที่มาดูน่าจะเป็นรุ่นเก่าที่เคยได้ดูได้ชมเมื่อ 13 ปีก่อนมากกว่านะ) กลับสู่ท้องทะเลอีกหน โดยที่หนนี้ “FINDING DORY” จะโฟกัสไปที่เรื่องของ ดอรี่ (เอลเลน ดีเจเนอรีส) ปลาความจำสั้นจอมขโมยซีนใน FINDING NEMO ซึ่งในภาคนี้เราจะได้กลับไปสำรวจอดีตที่ผ่านมาและปัจจุบันของดอรี่

กับ FINDING DORY นี้สำหรับเนื้อหาและก็ภาพรวมของหนังนั้นก็ไม่ได้ถึงกับสดใหม่หรือแตกต่างมากมายอะไรเท่าไรนัก แค่วนเวียนภารกิจที่ ดอรี่ ออกตามหาพ่อและแม่ เปลี่ยนจากที่ มาร์ลิน และ ดอรี่ ออกตามหา นีโม่ ก็เปลี่ยนเป็น นีโม่ และ มาร์ลิน ที่ออกตามหา ดอรี่ แทนอะไรประมาณนี้ เปลี่ยนเรื่องราวจากท้องทะเลไปเป็น อควอเรี่ยม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ก็เลยมีอะไรให้เล่นมากขึ้นกว่าเดิมนิดๆ หน่อยๆ แต่โดยส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าแตกต่างมากมายอะไรนัก


กลับกันมีความรู้สึกค่อนข้างที่จะเฉยๆ ไม่ได้ประทับใจเท่าไร สำหรับเรารู้สึกเนื้อหามันไม่ได้ชวนให้อินเท่าไร อาจจะเพราะด้วยความที่เป็นอนิเมชั่นด้วยมั้ง แถมก่อนหน้านี้ก็มีหนังที่เล่าเรื่องโรคความจำสั้นหรืออัลไซเมอร์มาก่อน (อย่างเช่น STILL ALICE ที่มาก่อนหน้านี้) ก็ทำให้รู้สึกเฉยๆ กับตัวหนังไม่มากก็น้อย ซึ่งธีมและประเด็นหลักๆ ใน FINDING DORY นี้มันก็คือการบอกเล่าถึงการใช้ชีวิตกับคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ (ดอรี่ กับ คนรอบๆ ตัวของเธอ) ซึ่งก็ไม่ได้พีคมากมายอะไรนัก (ยังไม่กระแทกใจได้เท่าผลงานอื่นๆ ของ พิกซ่าร์)

อันนี้เป็นความรู้สึกหลังดูจบ คือเนื้อหามันก็ไม่ได้พีคเหมือนกับตอน TOY STORY 3 หรือ MONSTER UNIVERSITY เคยทำได้ ที่ชวนน้ำตาแตกหรือถวิลหาอดีตขนาดนั้น กับ FINDING DORY อารมณ์เหมือนไปเจอเพื่อนเก่ารวมรุ่นที่ไม่ได้เจอมานานมากกว่า ปาร์ตี้สังสรรค์ จบงาน งานจบก็กลับบ้านอะไรแบบนั้น คือ FINDING DORY ทำได้แค่ให้หายคิดถึงอะไรแบบนั้นครับ


แต่ว่าถ้าไม่ยึดติดอะไรมาก FINDING DORY ก็เป็นหนังอนิเมชั่นที่ทำออกมาได้ดูเพลินๆ พอตัว อารมณ์เหมือนกับ CARS 2 อะไรแบบนั้น, กับหนังหลายจุดก็ไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลอะไรนัก ดูๆ อยู่นึกว่ากำลังดูแฟรนไชส์ มาดากาสการ์ ของ ดรีมเวิร์ค มากกว่าด้วยซ้ำ ดูเว่อร์วังอลังการยังไงชอบกล อาทิ ปลาหมึกขโมยรถ!, ปลาหมึกเข็นรถเข็นเด็ก, ปลากระโดดข้ามบ่อโดยใช้น้ำพุเป็นตัวช่วย! หรือ ปลากระโดดจากตู้ปลาไปอีกตู้ ทำลายกฎฟิสิกส์กันเลยทีเดียว อะไรแบบนี้เหมือน เดจาวู แปลกๆ เพราะ มาดากาสการ์ เคยเอามุกอะไรคล้ายๆ แบบนี้มาเล่นไปแล้ว

จริงๆ มีอะไรหลายๆ จุดหลายๆ อย่างที่ดูไม่เมคเซนส์ (สปอยล์ อาทิการที่ให้ ดอรี่ เจอ พ่อและแม่อะไรได้ง่ายกันขนาดนั้น คือตามหากันมาทั้งเรื่อง แต่บทจะเจอก็เจอกันง่ายเกิน) แต่ก็โอเคล่ะ ถ้าไม่อะไรมากตัวหนังก็ดูได้เพลินๆ ดี, ตัวละครใหม่ๆ ในภาคนี้หลายๆ ตัวก็ช่วยสร้างสีสันได้พอตัว ทั้ง แฮงค์ ปลาหมึก 7 หนวดที่ช่วย ดอรี่, เบลี่ย์ และ เดสตินี่ ก็เด่น รวมถึง สิงโตทะเลสองตัวนั้น (ชื่ออะไรจำไม่ได้ แต่จำได้ว่ามี ไอดริส เอลบ้า ให้เสียงอยู่ตัวหนึ่ง) ส่วน ดอรี่ ตัวเอกของภาคนี้ถือว่าเด่นใช้ได้เลย...

ปล. PIPER อนิเมชั่นสั้นๆ ที่แปะหน้า FINDING DORY เป็นงานทดลองของ พิกซ่าร์ แต่เป็นอนิเมชั่นที่งานภาพนี่เข้าขั้นโหดเหี้ยมพอตัว จะงดงามอะไรเบอร์นั้น ทั้งน้ำ ทั้งทราย ก้าวข้ามความเป็นอนิเมชั่นไปแล้ว นึกว่านกนึกว่าปูนึกว่าทะเลจริงๆ เลยนะนั้น


ความยาวทั้งหมด 103 นาที
คะแนน 7/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger