วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

MONSTERS UNIVERSITY


MONSTERS UNIVERSITY / มหา'ลัย มอนสเตอร์ส


ผู้จัดจำหน่าย : WALT DISNEY STUDIOS MOTION PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : PIXAR ANIMATION STUDIOS
ผู้กำกับ : แดน สแกนลอน (TRACY)
ประเภทของหนัง : ANIMATION | ADVENTURE | COMEDY

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“กลับสู่จุดกำเนิดของเรื่องราวก่อนเรื่องราวที่รับรู้ที่ทำออกมาให้หายคิดถึง!”


MONSTERS, INC. หนังอนิเมชั่นเรื่องที่สี่ของพิกซาร์ออกฉายไปเมื่อปี 2001 ซึ่งก็นับว่านานพอสมควรแล้วนับดีๆ ก็ผ่านไปถึง 12 ปีเข้าไปแล้วจนเด็กตัวน้อยๆ ในตอนนั้นก็โตเป็นวัยรุ่นกำลังศึกษามหาวิทยาลัยหรือไม่ก็ผู้ใหญ่มีครอบครัวกันหมดแล้ว (ผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในนั้นแต่เป็นกลุ่มแรก) ซึ่งตัว MONSTERS, INC. ก็เป็นหนังที่ดูกี่ที่ก็มีความสุขกับเรื่องราวของ ไมค์, ซัลลี่ และ บู แต่ผ่านไป 12 ปี! ใครจะคิดล่ะว่า พิกซาร์ จะพาเด็กตัวน้อยเมื่อ 12 ปีก่อนกับเด็กตัวน้อยในสมัยนี้มาเจอกันได้เหมือนครั้งหนึ่งทำมาแล้วกับ TOY STORY 3 แต่ครั้งนี้จะแตกต่างแทนที่จะเล่าตอนต่อแต่พิกซาร์กลับเลือกพากลับไปยังจุดตั้งต้นของไมค์และซัลลี่ใน "MONSTERS UNIVERSITY" แทน!

การเล่าเรื่องของ MONSTERS UNIVERSITY เป็นหนังที่มีการเล่าเรื่องที่ต้องยอมรับว่าก็สนุกอยู่ แต่ไม่ได้สดใหม่และโดดเด่นอะไรหนักหากเทียบพวกเรื่องก่อนๆ หน้าอย่าง WALL-E หรือ UP ที่เป็นงานออริจินอลนั้นอาจจะเป็นเพราะนี่คือหนังภาคต้นของหนังที่มีตัวละครที่้เรารู้จักกันมาแล้วทั้ง ไมค์, ซัลลี่ และแม้แต่ แรนดอลล์ ใน MONSTERS, INC. คือก็รู้แล้วว่าอนาคตของพวกนี้จะเป็นอย่างไงต่อก็แค่มาหวนรำลึกและมารับรู้อดีตเท่านั้นมาเห็นความสัมพันธ์ความเป็นมาของจุดตั้งต้นความผูกพันธ์ของตัวละครที่เรารักเมื่อ 12 ปีก่อน แต่อย่างที่บอกหนังก็ไม่ได้ดูแตกต่างหรือสดใหม่อะไรเท่าไรเพราะนี่เป็นหนังภาคต้นคล้ายกับกรณีของ CARS 2 ที่เป็นหนังภาคต่อซึ่งก็หนักไปทางเฉยๆ แต่ก็มีบางสิ่งที่อยากจะบอกคือ MONSTERS UNIVERSITY มีบางสิ่งที่ดูภายนอกอาจจะงั้นๆ ไม่ได้แตกต่าง แต่กลับมีบางสิ่งที่ทำให้เด็กยุคนั้นสนุกเหมือนตอน TOY STORY 3 ที่รู้สึกสนุกและโดดเด่นมาก!


อาจจะเป็นเพราะว่า TOY STORY 3 พาคนดูที่ทันตอน TOY STORY และ TOY STORY 2 ไปเจอกับความรักในวัยเด็กที่ทำซะคนดูน้ำตาแตกได้เพราะค่อนข้างมั่นใจเด็กยุคนั้นจะผูกพันธ์กับสิ่งที่เรียกว่าของเล่นอย่างแน่นอนเมื่อวันเวลาที่ถึงเวลาที่ต้องลาจากของเล่นอะไรที่อยู่ในใจมันก็ออกมาเป็นน้ำตา (จนอาจจะทำให้เด็กรุ่นใหม่ไม่อินและสงสัยว่าพวกพี่ๆ พ่อๆ แม่ๆ ร้องไห้กันทำไม) และกับ MONSTERS UNIVERSITY แม้จะไม่ได้สดใหม่อะไรมากนักอย่างที่บอกและมั่นใจเลยว่าคุณพี่ๆ น้าๆ ที่อายุซัก 30+ ก็คงจะบอกแบบนั้นว่าก็ไงสนุกและก็จบกันไป แต่กับเด็กที่เติบโตตอนหนังฉายซัก 7-10 ขวบ เมื่อวันเวลาผ่านไป 12 ปีและได้กลับมาเจออะไรที่คุ้นเคยมันก็กลับรู้สึกอะไรที่แตกต่าง

คำว่า "มหาวิทยาลัย" ถ้าตอนนั้นซัก 7-10 ขวบที่ได้ดู MONSTERS, INC. ครั้งแรกเกือบทุกคนตอนนี้ 12 ปีผ่านคงได้อยู่ในระดับ มหาวิทยาลัย จะเพิ่งขึ้นมาเป็นหรือกำลังจะจบต้องรู้สึกบางอย่างเป็นแน่แท้อย่างนั้นจงอย่าแปลกใจที่หากคุณเป็นเด็กรุ่นนั้นรับรองว่าคุณจะรู้สึกสนุกและขนลุกได้อย่างแน่นอน แถมตัวหนังเอาเรื่องราวประเด็นที่ว่า "ความฝันวัยเด็ก" มาเป็นตัวดำเนินเรื่องผ่านตัว ไมค์ ที่ต้องมาเจอกับ "ความแตกต่าง" อย่างตัว ซัลลี่ ที่มีองค์ประกอบของธีมเรื่อง "มหาวิทยาลัย" มาเกี่ยว ดังนั้นเด็กในเจเรอเนชั่นที่เกิดตอนยุคต้น 90 ก็จะรู้สึกสนุกเป็นพิเศษและอินกับเนื้อหาได้เป็นพิเศษ และจะรักหนังเรื่องนี้ได้เป็นพิเศษ ซึ่งอาจจะต่างกับคนที่เกินก่อนยุคต้น 90 ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลด้วยอีกที


หากจำกันได้ใน MONSTERS, INC. ระหว่าง ไมค์และซัลลี่ (ไม่นับบู) ตัวละครที่เด่นกว่าคือ ซัลลี่ ที่เด่นกว่า ไมค์ แม้ปรากฏตัวพอๆ กันแต่ความเด่นไปอยู่ที่ซัลลี่หมด แต่กลับกันใน MONSTERS UNIVERSITY ไมค์กลับโดดเด่นกว่าซัลลี่แบบเห็นได้ชัดซึ่งน่าจะเป็นความตั้งใจของพิกซาร์เพราะกว่าซัลลี่จะปรากฏตัวก็กินเวลาหนังไปเกือบสิบนาทีแล้ว แต่ถึงซัลลี่ปรากฏตัวช้าเพียงไรแต่พอได้เห็นไมค์และซัลลี่ปรากฏตัวจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของไมค์และซัลลี่ก็เริ่มต้นขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนหนังอยากเห็น ซึ่งตรงนี้หนังนำเสนอได้ดีครับหากมองต่อไปว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่กว่าจะไปเป็นอย่างที่เห็นใน MONSTERS, INC. (แถมบริษัทนี้สำคัญต่อภาคนี้ในทุกช่วงจริงๆ)

ส่วนตรงนี้หนังทำดีครับโดยที่ไม่ไปเจาะจงไปที่เฉพาะตัวกลุ่มเจเนอเรชั่นยุคต้น 90 แต่กับทุกเจเนอเรชั่นอย่างน้อยก็ทำให้หายข้องใจไปได้ไม่มากก็น้อยเกี่ยวกับว่าทำไม ไมค์และซัลลี่ ถึงเป็นเพื่อนซี้ ทำให้ปริศนากระจ่างว่าทำไม แรนดอลล์ ถึงเป็นศัตรูจองล้างจองผลาญซัลลี่ และสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดเลยคือ ทำไม! ทั้งคู่ถึงไปทำงานใน บริษัทรับจ้างหลอน ได้นั้นเอง แถมสามารถทำให้คนดูขนลุกและร้องกรี้ดได้ไม่ยากเพราะหนังใส่อีสเตอร์เอ็กก์แบบจงใจให้คนรู้และโผล่ให้เห็นกับ เจ้าหน้าที่ลับแห่ง CDA รหัส 00001 กับประโยคอมตะ “ฉันจับตาดูนาย วาซอว์สกี้ จับตาดูตลอด” และ เยติ และเพื่อมองให้ไกลไปอีก กับ ไตเติ้ลเปิดเรื่องที่อิงกับไตเติ้ลของ MONSTERS, INC.


ตัวหนังติดปัญหาเรื่องความสนุกที่ไม่สุดกับเนื้อหาที่ไม่แตกต่างเท่าไรแต่หากมองลึกลงไปที่ว่านี่เป็นหนังที่พาคนดูกลุ่มที่เกิดต้นยุค 90 ที่ทันการฉายครั้งแรกของ MONSTERS, INC. กลับไปยังโลกและตัวละครที่รักหนังมันก็เวิร์คล่ะน่ะแต่หากมองโดยไม่เหมารวมมันก็จะเป็นอย่างที่บอกสนุกแต่ไม่สุด ฮาอยู่แต่มันไม่ได้ใจพอ แต่โดยรวม แดน สแกนลอน ทำหนังได้ดีน่ะแม้บทที่แดนเขียนจะไม่ค่อยส่งให้ทุกคนรักและชอบได้ แต่อย่างน้อยที่สุดของที่สุดต้องขอบคุณที่แดนพาคนดูกลับไปเจอ ไมค์ และ ซัลลี่ อีกครั้ง ขอบคุณ อีกอย่างที่ไม่เกี่ยวกับหนังเลยคือภาพนี้เนียนเชียวสีสันสวยสดเลยใช้ ซีจีคอมพิวเตอร์ได้คุ้มสุดๆ

ส่วนด้านการพากย์คุณปู่ บิลลี่ คริสตัล กับ จอห์น กู้ดแมน ยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิมในการพากย์ สตีฟ บุสเซมี่ ยังให้เสียง แรนดอลล์ ดีเหมือนเมื่อ 12 ปีก่อน (ก็ไม่รู้ว่าพี่ไทยเรา อ. จตุพล กับ พี่ดุ๊ก ภาณุเดช จะกลับมาให้เสียง ไมค์ และ แรนดอลล์ อีกหรือเปล่าแต่ถ้ากลับมาจะเรียกเสียงเฮได้อีก), ส่วนหนังสั้นแปะหน้า BLUE UMBRELLA ก็ทำได้น่ารักดี...


ความยาวทั้งหมด 104 นาที
คะแนน 8/10 (แต่ใจจริงคือ 10/10 สำหรับคนดูที่ทัน MONSTERS, INC. ออกฉาย)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger