STEP UP: ALL IN

STEP UP: ALL IN / สเต็ปโดนใจ หัวใจโดนเธอ 5

ผู้จัดจำหน่าย : SUMMIT ENTERTAINMENT

สตูดิโอผู้สร้าง : OFFSPRING ENTERTAINMENT, SUMMIT ENTERTAINMENT

ผู้กำกับ : ทริส ซี

ประเภทของหนัง : DRAMA | MUSIC | ROMANCE

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง

อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง

“ALL IN ภาคที่ห้ารวมพลคนสเต็ปอัพ!”

..นับแต่ปี 2006 เป็นต้นมาวงการภาพยนตร์และแฟนหนังได้ต้อนรับ STEP UP (แอนน์ เฟลทเชอร์, 2006) เป็นครั้งแรก นับจากนั้นทุกๆ สองปีเราจะได้ชมแฟรนไชส์สเต็ปอัพเรื่อยมาไล่ตั้งแต่ STEP UP 2: THE STREET (จอน เอ็ม ชู, 2008), STEP UP 3D (จอน เอ็ม ชู, 2010), STEP UP REVOLUTION (สก็อตต์ สเปียร์, 2012) จวบจนวันนี้ในที่สุดแฟรนไชส์สเต็ปอัพก็เดินหน้ามาจนถึงภาคที่ห้า! (เย้! ไม่น่าเชื่อว่ามาไกลขนาดนี้) กับ STEP UP: ALL IN ภาคที่เปรียบดัง FAST FIVE (จัสติน ลิน, 2011) เพราะเป็นงานรวมดาวทุกๆ ภาคที่ผ่านมา! (แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนจากเต้นมาขับรถลากตู้เซฟหรอกน่ะ ฮ่าๆๆๆ)..

..สำหรับแฟรนไชส์สเต็ปอัพสี่ภาคที่ผ่านมานี้มีอยู่สองสิ่งที่ดูจะขาดกันไม่ได้ก็คือการแดนซ์สุดมันส์ที่มาพร้อมไอเดียในการนำเสนอที่ต่างกันไปในแต่ล่ะภาคที่ถือเป็นจุดเด่นและเป็นจุดขายหลักของแฟรนไชส์นี้กับอีกอันคือนักแสดงนำก็จะมาเป็นคู่แตกต่างกันไปในแต่ละภาคที่ทั้งหน้าตาดีและหุ่นก็ดี ถ้าเป็นนำชายก็จะมาพร้อมหน้าตาที่หล่อเอาการบางทีก็มาพร้อมซิกซ์แพ็คที่ทำให้หญิงแท้หญิงเทียงปาดน้ำลายกันเลยทีเดียว (แชนนิ่ง เททั่ม, โรเบิร์ต ฮอฟฟ์แมน, ริค มาลัมบรี, ไรอัน กุซมาน) ส่วนฝ่ายหญิงก็จะเน้นน่ารักมีเสน่ห์ปนเซ็กซี่ (เจนน่า ดีวาน (เททั่ม), บรีอานา เอวิแกน, ชาร์นี วินสัน, คลีโอพัตรา โคลแมน)..

..แต่เอ๊ะ! จริงๆ เราไม่ควรกล่าวว่ามีแค่สองสิ่งน่ะที่ขาดกันไม่ได้จริงๆ ต้องสามน่ะ มันคืออะไรน่ะ ติ๊กตอกๆๆ อ่ะ บท ไง บทหนังที่แสนจะธรรมดาๆ เบาโหว่งในเนื้อหา พัฒนาการของตัวละคร บลาๆๆ นี่คือสิ่งที่จะเปลี่ยนไปผ่านไปกี่ภาคก็ดูยังแก้ไม่ได้สักทีเรื่องของ บท นั่นเอง ซึ่งทุกภาคที่ผ่านมาก็มักเอาตัวรอดไปได้ไม่โดนจับผิดเรื่องบทมากนัก เพราะพอเอาบทหนังมาหักลบกลบหนี้คิดดอกเบี้ยกับด้านฉากวาดลวดลายและเคมีของนักแสดงแล้วก็ทำให้หนังออกมารอดไปได้ทุกครั้งไป ซึ่งใน STEP UP: ALL IN นี้ก็ไม่รอดครับ..

..ในส่วนของบทในภาค ออล อิน นี้ไม่ขอพูดถึงมากยังไงซ่ะดูมาสี่ภาคแล้วยังไงเราก็รู้แกวและแนวทางได้ บลาๆ ไล่ตามความฝัน ฝันกำลังพังทลาย บลาๆๆๆ มีไฟขึ้นมาโดยอะไรสักอย่าง บลาๆ รวมทีม ไปเต้น บลาๆ และก็จบเรื่อง อะแฮ่มๆ ไม่อยากจะเซย์ว่า ออล อิน นี่ยังเคารพรุ่นพี่เป็นรุ่นน้องที่น่ารักไม่เปลี่ยนแปลงครับ ไม่ได้มีอะไรที่มันจะแตกต่างเลย ตัวละครทุกตัว แค่เดินไปตบไหล่ 'เฮ้! เพื่อนฉันอยากตั้งทีมเต้น แต่ไม่รู้หรอกน่ะว่าจะเวิร์คมั้ย แต่ฉันต้องการนาย' ไอ้อีกคนก็จะตอบ (บางทีมันก็ไม่ตอบ) แต่จะแสดงออกประมาณว่า 'ตูเอาด้วย' จะเรียกว่าเออออห่อหมกกันหมดก็ว่าได้..

..พอมีปัญหาก็จะมีตัวละครบางตัวออกมาประมาณว่า 'ทีมต้องกลายนาย แม้นน! เราขาดนายไม่ได้ แม้นนน!' และตัวละครอีกตัวก็จะมีประกายไฟในแววตาแล้วเดินมากอดอีกตัวละคร เป็นอันจบเรื่องแล้วพวกมันก็ออกไปเต้น เป็นอันจบเรื่อง บลาๆๆ เพราะงั้นจะพูดได้ว่าบทหนังของ สเต็ปอัพ ถ้าไม่ได้เป็นพวกบทไม่ได้ออกกำลังกายและเป็นโรคบ่อย (บทไม่แข็งแรง) ก็จะเป็นจำพวกบทหนังฟันผุ (มีรูโหว่) กันหลายซี่ทีเดียว โอเคแม้นนนน! พอเถอะเรื่องบทยังไงบท สเต็ปอัพ ยังไงซ่ะก็เป็น สเต็ปอัพ ไม่เปลี่ยนแปลง (จริงหนังจำพวกเต้นก็เป็นทุกเรื่องบทอ่อนเนี่ยแต่ไอ้พวกนั้นอ่อนกว่านี้เยอะะะะเลย)..

..เอาล่ะมาพูดถึงเรื่องการเต้น สำหรับแฟรนไชส์สเต็ปอัพที่จุดขายคือการเต้นแบบมันส์มากนับแต่ภาค THE STREET เป็นต้นมา จะมีฉากเปิดตัวที่เป็นที่จดจำและไฟนอลซีนที่เรียกว่าเป็นการจัดหนักจัดเต็มเพื่อปิดเรื่องอย่างใน THE STREET เป็นการเต้นกลางสายฝนที่น่าจดจำมากที่สุด ส่วนภาค 3D ก็เป็นการเต้นแข่งที่เล่นกับแสงสีเสียงได้อย่างอลังการ ส่วน REVOLUTION ก็เล่นกับฉากแฟลชม็อบที่เน้นใหญ่อลังการ จะเห็นได้ว่าทุกภาคที่ผ่านมาจะมีฉากเต้นที่น่าจดจำโดยตลอดทั้งฉากเปิดตัวและไฟนอลซีน แล้วภาค ALL IN ล่ะ?..

..ถ้าจะพูดว่าฉากการแดนซ์วาดลวดลายใน ALL IN นี่ดูอ่อนที่สุดในทุกภาค (ไม่นับภาคแรก) นี่จะผิดมั้ย? เอาแค่ฉากแดนซ์เปิดเรื่องนี่ดูธรรมดาที่สุดในทุกภาคแล้วไม่มีอะไรให้เห็นแล้วร้องออกมา ว้าว คิดได้ไงอ่ะ อะไรประมาณนี้ พูดได้คำเดียวว่า ธรรมดา มากถึงมากที่สุด งั้นข้ามมาที่ฉากแดนซ์ไฟนอลซีนล่ะ อืม ฉากมันก็ดูอลังดีน่ะแต่มันไม่โดนมันไม่ใช่อ่ะ ดันไปเน้นอลังการในฉากและแสงสี (ภาค ALL IN นี่เน้นหรูหราเป็นพิเศษระดับน้องๆ เก็บมาเลี้ยงของ บาซ เลอห์มานน์)..

..แต่ลืมไปว่าฉากเต้นที่เป็นจุดขายดันทำได้ออกมาธรรมดาเป็นพิเศษไม่ได้มีอะไรให้น่าจะจำเลยแม้แต่นิด มันดูขาดเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งอย่างที่ได้บอกไป ถ้าถึงหนังบทมันจะธรรมดาขนาดไหนแต่ถ้าทำฉากเต้นออกมาดียังไงซ่ะเราก็จะพอลืมๆ ไปว่า บทหนังมันแย่! แต่พอภาคนี้บทก็ไม่ได้ดีอะไร แถมฉากเต้นก็ทำได้ธรรมดา จะไม่พูดก็ไม่ได้ว่า ภาคนี้มันอ่อนกว่าทุกภาคที่ผ่านมา ซึ่งภาคนี้จะดีหน่อยก็คงแค่การนำนักแสดงจากภาค THE STREET, 3D และ REVOLUTION มารวมตัวกันได้ให้เป็นที่จดจำเท่านั้น - บรีอานา เอวิแกน คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว อนึ่งถ้าเจ้า แชนนิ่ง เททั่ม กลับมาจะดีกว่านี้น่ะ...