วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558

SPY


SPY / สปาย


ผู้จัดจำหน่าย : 20TH CENTURY FOX
สตูดิโอผู้สร้าง : FEIGCO ENTERTAINMENT
ผู้กำกับ : พอล ฟีก (BRIDEMAIDES, THE HEAT)
ประเภทของหนัง : ACTION | COMEDY

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง


จะขอพูดความลับที่ไม่เคยได้บอกใครสักหน่อย อันที่จริงแล้ว แอดมิน ไม่ได้ชอบ เมลิสซ่า แม็คคาร์ธี่ย์ เท่าไร แต่! อย่าเพิ่งเข้าใจผิด แอดมิน ไม่ได้เกลียดนางแบบอาฆาตแค้นอะไรนั้นน่ะ แค่ไม่ชอบการแสดงของเธอเวลารับบทนำแบบเต็มตัวเท่านั้น อาทิ IDENTITY THIEF หรือ THE HEAT เป็นต้น (TAMMY นี่ยังไม่ได้ดู แผ่นในไทยออกหรือยังล่ะ?) จะด้วยเหตุผลที่บทที่เธอเล่นมันทั้งหยาบคายเกินหญิงหรือบทที่ดูล้นเกินไป ก็เลยไม่ค่อยปลื้มเท่าไร แต่คิดว่าเมลิสซ่าเหมาะกับบทสมทบที่ส่งผลกับหนังแบบ BRIDEMAIDES หรืออาจจะ THE HANGOVER PART III มากกว่าน่ะบางที ... อีกรอบหนึ่ง ขอบอกไว้อีกที แอดมิน ไม่ได้เกลียดนางน่ะ

แต่กับหนังเรื่องล่าสุด! ที่ เมลิสซ่า แม็คคาร์ธี่ย์ มารับบทนำแบบฉายเดี่ยวแบบเต็มตัว (ที่ไม่มี เจสัน เบทแมน หรือ แซนดร้า บูลล็อค เข้ามาเกี่ยว) อย่าง SPY เรื่องนี้ที่เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกหนของเธอกับ พอล ฟีก จาก BRIDEMAIDES และ THE HEAT ถือเป็นหนังที่คิดว่าเนี่ยล่ะเป็นหนังที่โชว์ความเป็น เมลิสซ่า ได้ดีที่สุดโดยที่ไม่ต้องทำให้เธอกลายเป็นหญิงอ้วนสุดหยาบสุดเถื่อน ใช่! แม้ใน SPY บทที่ เมลิสซ่า เล่นจะมีการสบถคำหยาบอยู่บ้างแต่มันก็ไม่ได้สบถหรือทำพฤติกรรมเถื่อนๆ บ่อยๆ จนปวดหัวและรับไม่ไหวเหมือนอย่าง IDENTITY THIEF หรือ THE HEAT อะไรเทือกนั้นแม้แต่น้อย หนำซ้ำใน SPY กลับกลายเป็นว่าเวลาที่เธอเล่นกับคำ F เวิร์ด กลับส่งผลดีต่อตัวเนื้อหาด้วยซ้ำ!


บทที่ เมลิสซ่า คือ ซูซาน คูเปอร์ สายลับหญิงจำเป็นที่ต้องมาเป็นสายลับหลังสายลับของ CIA ได้หายตัวไปทำให้เธอต้องออกปฏิบัติการเป็นสายลับนั่นเอง ... คือบท ซูซาน คูเปอร์ เนี่ยถือเป็นบทที่โชว์ความเจ๋งในตัว เมลิสซ่า ได้ดีที่สุดเลยน่ะ อย่างแรกคือบทมันส่งทั้งตัวละครให้เด่นมากกับการพา ซูซาน ไปพบเจอภารกิจต่างๆ พอ เมลิสซ่า เขามารับบทนี้นั่นทำให้กลายเป็นว่า เหมือนจรวดสองลูกมาชนกันผลที่ได้คือ ตู้ม! เมลิสซ่า เธอเกิดมาเพื่อบทนี้บท ซูซาน คูเปอร์ และบท ซูซาน คูเปอร์ นี่ก็เกิดมาเพื่อรอเธอ จริงๆ ครับงานนี้

ถ้าหาก KINGSMAN: THE SECRET SERVICE ของ แมธธิว วอห์น เป็นหนังสายลับที่ล้อเลียนหนังตระกูลสายลับแบบทีเล่นทีจริง (แถมแหกคอกด้วย) ถ้างั้น SPY ก็เป็นหนังสายลับที่ทำมาเพื่อล้อเลียนหนังสายลับ (ตระกูลบอนด์) แบบจริงจังก็ว่าได้ (อาจจะไม่ได้ล้อแบบเอาเป็นเอาตายอย่าง ออสติน พาวเวอร์ อะไรแบบนั้น) คือตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องที่ ไฟน์ (จู้ด ลอว์) ผู้เป็นสายลับสุดหล่อมากความสามารถ (ที่แอบเช็คหล่อตลอดเวลา แอบกัดคุณบอนด์ไปที) แต่ดันต้องคอยให้ผู้ช่วยบอกลาดเลาตลอดเวลา จากนั้นก็ บลาๆ ไปเรื่อย ภารกิจเปิดเรื่องแบบหนัง บอนด์ สำเร็จไปด้วยดี จากนั้นก็ขึ้นเพลงเปิด (ล้อธรรมเนียมเพลงเปิดหนังบอนด์ไปอีกดอก)


จากนั้นหนังก็เข้าสู่การดำเนินเรื่องที่ส่งให้ไฟน์ไปลุยกับวายร้ายอีกรอบ และเนี่ยเป็นต้นเหตุที่ ซูซาน ต้องมาเป็น สายลับ แต่ก็เป็นสายลับที่ผิดสูตรไปหน่อยกับการไปเจอสถานการณ์แบบแปลกๆ มากมาก (แต่ถ้าดูหนังมาเยอะคือรู้น่ะว่าท้ายที่สุดหนังมันจะมีจุดเปลี่ยนเล็กน้อยในมุกเกี่ยวกับ สายลับสองหน้า) โอเคล่ะจากนี้หนังก็ล้อเลียนกันไปแบบพอหอมปากหอมคอ ซึ่งก็ถือว่า พอล ฟีก แกเป็นผู้กำกับที่เก่งเลยน่ะกับการเล่าเรื่องแบบนี้ มุกต่างๆ ถือว่าทำออกมาได้ฮามากๆ คือถ้าจะไปดู SPY เอาฮาเอาแก้เครียดนับเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากเพราะหนังทำได้ฮามากเลยล่ะ โดยเฉพาะ เจสัน สเตแธม นี่ถือเป็นตัวฮาของเรื่องเลยก็ว่าได้ (เหมือนเรื่องนี้แกจะเล่นมุกล้อตัวเอง ล้อตัวละครที่แกเล่น สรุปผลที่ได้คือแม่งฮามากครับ)...

ปล.1 รู้หรือไม่ ชายหนุ่มคนที่เข้ามาถามทางไป KFC กับ ซูซาน ช่วงขับรถไล่ล่ากันนั้น แท้จริงคือนาย เบน ฟัลโคเน่ หรือ สามีในชีวิตจริงของ เมลิสซ่า แม็คคาร์ธีย์
ปล.2 มี เอนด์เครดิต


ความยาวทั้งหมด 120 นาที
คะแนน 9.5/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger