วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

ABOUT TIME


ABOUT TIME / ย้อนเวลาให้เธอ(ปิ๊ง)รัก


ผู้จัดจำหน่าย : UNIVERSAL PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : WORKING TITLE FILMS
ผู้กำกับ : ริชาร์ด เคอร์ติส (LOVE ACTUALLY, THE BOAT THAT ROCKED)
ประเภทของหนัง : COMEDY | DRAMA | ROMANCE

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“หนังรักชิ้นเยี่ยมเรื่องสุดท้ายของ ริชาร์ด เคอร์ติส 
หนังที่ดูแล้วมีความสุขและเรียนรู้คุณค่าของชีวิต”


ทิม เล้ค หนุ่มอังกฤษผู้มีความสุขตามปกติแต่ในวันหนึ่งพ่อของเขามาบอกว่าเขามีความสามารถพิเศษคือย้อนเวลาได้ ชายคนหนึ่งเป็นหนุ่มชาวอังกฤษเจอรักแท้เป็นสาวอเมริกาสุดสวย แต่เหตุบางอย่างทำให้ต้องย้อนก่อนไปหน้าเจอเธอเพื่อแก้ไขบางสิ่ง พอมายังเวลาปัจจุบันทำให้กลายเป็นว่า เธอกับเขา ไม่เคยเจอไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ชายคนนั้นจึงต้องย้อนเวลาให้เจอเธออีกครั้ง ชายคนหนึ่งจะเจอเรื่องราวของคำว่า รักแท้ กับ ครอบครัว และ คุณค่าของชีวิตผ่านการย้อนเวลา...!

หากดูแค่หน้าหนังเฉยๆ หรือแค่ตัวอย่างเฉยๆ จะเข้าใจเลยทันทีว่า ABOUT TIME คงเป็นแค่หนังรักโรแมนติคที่มีคอเมดี้เป็นจุดขายและมีกิมมิคหลักคือการที่พระเอกย้อนเวลาได้แต่ถ้าได้สัมผัสกับหนังทั้งเรื่องแบบจริงๆ ไอ้ความคิดที่ว่าเป็นแค่หนังรักธรรมดาจะหายไปในพริบตาทันทีเพราะว่า ABOUT TIME เป็นหนังที่มีดีกว่าที่เห็นในตัวอย่างเยอะ! สำหรับหนังเรื่องใหม่ของ ริชาร์ด เคอร์ติส (LOVE ACTUALLY, THE BOAT THAT ROCKED) ที่คราวนี้กลับมาหลังจับหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวชายหนุ่มอังกฤษกับสาวอเมริกาในฝันที่เป็นอะไรที่เห็นได้จากบทหนังที่ เคอร์ติส เขียนทั้ง NOTTING HILL หรืองานหลายๆ เรื่องทั้งก่อนหน้าและหลังจากนั้น แต่ที่แตกต่างหนังเรื่องนี้มีคำว่า คุณค่าของชีวิตและครอบครัว มาเป็นประเด็นเสริมผ่านการย้อนเวลา!


หนังเปิดเรื่องด้วยเรื่องง่ายๆ เป็นหนังง่ายๆ ตามสไตล์ ริชาร์ด เคอร์ติส ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั่นจริงๆ นั่นแหละ เปิดอารมณ์ด้วยการเป็นหนังโรแมนติค-คอเมดี้ที่มั่นใจได้เลยว่าเราจะอมยิ้มกับหนังไปตลอดเรื่องและมีความสุขเมื่อดูหนังจบ แต่จุดเปลี่ยนของหนังที่แตกต่างกว่างานชิ้นก่อนๆ ของ เคอร์ติส ก็คือเรื่องราวทฤษฏีที่ชวนปวดหัวหากอยู่ในหนังไซไฟนั่นคือเรื่อง "การย้อนเวลาได้" แต่สำหรับชายชื่อ ริชาร์ด เคอร์ติส ทฤษฏีที่แสนปวดหัวนี้ไม่ยากอย่างที่คิดหากอยู่ในหนังของเขาก็แค่ย้อนเวลาไปในช่วงที่จำได้ของตัวเองเท่านั้น แต่จะไปในช่วงเวลาที่ตัวเองจำไม่ได้  มันถึงเป็นอะไรที่แตกต่างกว่าหนังทั่วไปของ ริชาร์ด เคอร์ติส

ด้วยการดำเนินเรื่องแบบง่ายๆ ตามสไตล์ ริชาร์ด เคอร์ติส เปิดเรื่องราวด้วยอารมณ์โรแมนติค-คอเมดี้เบาๆ กับเรื่องราวความรักของชายหญิงคู่หนึ่ง ที่ฝ่ายชายดันมีพลังพิเศษสามารถย้อนเวลาได้ เรื่องราวของ ทิมกับแมรี่ ที่เปรียบเสมือนรักแท้หนังพาคนดูไปเจอชีวิตรักของทั้งคู่แบบดูแล้วมีความสุขตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่ความรักไปถึงการมีครอบครัว หนังทำได้แฮปปี้มากๆ แต่ที่ทำเหนือกว่าคือความจริงจังกับประเด็นที่หนังใส่ลงมากับคุณค่าของชีวิตกับเรื่องราวของครอบครัวผ่านความสามารถพิเศษของทิม หนังทำได้จริงจังแต่ก็ไม่ได้เยอะและฟูมฟายแต่ไปเรื่อยๆ แต่หนักแน่น โดยเฉพาะเรื่องราวของ ทิมกับพ่อ ไม่ได้เน้นดราม่าหนักๆ อะไรมาก แต่ก็น้ำตาซึมได้เหมือนกัน กับความรักของพ่อกับทิม


แถมหนังเมื่อไปถึงจุดๆ หนึ่ง ทิม จะได้พบเจออะไรเยอะแยะกับเรื่องราวคำพ่อสอนผ่านเรื่องราวความรักของ ทิมกับพ่อ กับเรื่องราวการย้อนเวลาของทิม ที่จะส่งผลต่อไปก็คือคุณค่าของชีวิตที่ถือเป็นประเด็นหลักๆ ที่หนังจงใจนำเสนอมากกว่า แต่ด้วยการพยายามสร้างอารมณ์หนังเลยพาไปเจอเรื่องราวความรักซะก่อนก่อนข้ามไปที่เรื่องราวครอบครัวและวกกับมาที่ประเด็นคุณค่าชีวิตผ่านคำพ่อสอนในช่วงท้ายๆ ของตัวหนัง แต่ถึงกระนั้นก็ทำหน้าที่ในส่วนที่หนังพยายามสื่อได้ดีไม่พูดอะไรมากนักนอกเหนือไปจากคำว่า "ยอดเยี่ยม!" และ "สมบูรณ์แบบ!"

หนังยังมีประเด็นให้พูดถึงอยู่อีกก็คือประเด็นการย้อนเวลาได้ซึ่งอย่างที่บอกไปมันจะส่งผลต่อตัวหนังก็คือคุณค่าของชีวิตแต่ถ้าพูดถึงเรื่องการย้อนเวลาสิ่งที่คนทั่วไปคิดก็คือถ้ามีจริงๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงก็คงดี จะได้ย้อนเวลาให้หมุนไปในช่วงที่จดจำไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตหรือกลับไปพบเจอความสุขที่ถวิลหาอีกครั้งในช่วงอดีตแต่ในโลกความเป็นจริงนั้นมันไม่มี หนังก็เป็นอย่างที่บอกหนังจงใจเอาเรื่องการย้อนเวลามาเป็นตัวนำเสนอให้เห็นว่าสิ่งที่หนังพยายามสื่อไปยังความคิดของคนดูก็คือสิ่งที่เป็นคุณค่าของชีวิตที่ตัวเองมีในเวลาปัจจุบันที่ควรเก็บเกี่ยววันเวลานี้ให้มากที่สุด ไม่ควรเอาแต่พึ่งสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างการย้อนเวลา! เพราะงั้น คุณค่าของชีวิตที่เรามีเราควรจะเห็นค่ามากที่สุดจะได้ไม่ต้องมานึกเสียใจว่าเราพลาดอะไรในชีวิตไป


มองยังไงนี่ก็คือหนังของ ริชาร์ด เคอร์ติส ไม่ว่าจะในฐานะคนเขียนบทใน NOTTING HILL หรือทั้งกำกับและเขียนบทเองใน LOVE ACTUALLY ก็คืองานที่มีแต่ความสุขผ่านบทหนังที่ถือเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของหนังกับความตั้งใจที่ เคอร์ติส ทำก็คือ การส่งความสุขให้แก่คนดู แม้ใน ABOUT TIME จะสู้ LOVE ACTUALLY ไม่ได้ในเรื่องความสดใหม่หรือลูกเล่นอันแพรวพราวและการนำตัวละครที่เยอะรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ แต่หนังของ เคอร์ติส ก็เป็นหนังของ เคอร์ติส อยู่ดีไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม ทั้งความสุขที่มอบให้คนดูหรือแม้แต่การใช้เพลงประกอบเพราะๆ มาเป็นตัวขับเคลื่อนตัวหนังในบางช่วงบางตอนที่ได้ผลมาโดยตลอดและกับหนังเรื่องนี้ก็เหมือนกันกับการใช้เพลงประกอบมาช่วยหนัง (กับเรื่องนี้มีบางช่วงที่หนังทำได้ดีกับเพลงประกอบแต่ที่กระแทกใจที่สุดคือการใช้เพลง HOW LONG WILL I LOVE YOU และ INTO MY ARMS มาอยู่ในหนัง)

ด้านการแสดงเคมีระหว่างทีมนักแสดงถือว่าเข้ากันมากอาจจะมีขโมยซีนนิดหน่อยๆ แต่ก็ไม่ขโมยซีนจนเนื้อหาเสีย โดห์นัลล์ กลีสัน เล่นดีมีเคมีที่เข้ากันกับ ราเชล แม็คอดัมส์ ทั้งคู่เล่นเหมือนเป็นคนรักกันจริงๆ และเล่นได้น่ารักมาก ส่วนป๋าบิลล์ ไนฮีย์ ก็เล่นเด่นในบทพ่อที่รักลูกชาย ส่วน ลีเดย วิลสัน ก็โดดเด่นในบท คิทแค็ท น้องสาวทิม แต่ที่โดดเด่นขโมยซีนแต่ก็ขโมยซีนแบบที่คนดูรักและยกให้หนังสนุกขึ้นก็คือ ทอม ฮอลแลนเดอร์ ในบท แฮร์รี่ ที่โผล่เมื่อไรฮาเมื่อนั้น, โดยรวมแล้ว ABOUT TIME เป็นหนังที่โดดเด่นถือเป็นงานที่มอบความสุขได้เต็มร้อยจริงๆ แม้หนังจะยาว 2 ชั่วโมงก็ตามแต่ดูแล้วสุขจริงๆ และหนังเรื่องนี้หนังของ ริชาร์ด เคอร์ติส เหมือนงานก่อนหน้าของ เคอร์ติส ครับ ดูรอบเดียวไม่พอจริงๆ...


ความยาวทั้งหมด 123 นาที
คะแนน 9/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger