DRAFT DAY

DRAFT DAY / เกมส์กู้เกียรติ คนชนคน

ผู้จัดจำหน่าย : SUMMIT ENTERTAINMENT

สตูดิโอผู้สร้าง : SUMMIT ENTERTAINMENT, ODDLOT ENTERTAINMENT

ผู้กำกับ : อีวาน ไรต์แมน (GHOSTBUSTER, NO STRINGS ATTACHED)

ประเภทของหนัง : DRAMA | SPORT

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง

อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง

“ดราฟท์ เดย์ หนังกีฬา (ที่ไม่มีฉากกีฬาแบบจริงๆ จังๆ) แต่กลับสนุกโคตรๆ!”

ดราฟท์ เดย์ หรือถ้าพูดแบบบ้านๆ เลยคือ วันที่ทีมทั้ง 32 ทีมใน เนชั่นแนล ฟุตบอล ลีก หรือ NFL จะได้มีสิทธิ์เลือกนักกีฬาจากลีกมหาวิทยาลัยสู่การเป็นหนึ่งในตัวผู้เล่นของทีม กฏหลักๆ ง่ายๆ คือทีมที่ฤดูกาลที่แล้วทำผลงานได้แย่ที่สุดจะได้เลือกดราฟท์เป็นทีมแรกไล่ไปจากอันดับที่ 32 ไล่ไปถึงที่ 1 ถ้าอธิบายแค่นี้มันง่ายยังไงก็เข้าใจ แต่นั่นแค่กฏพื้นๆ กฏที่จะอธิบายต่อจากนี้คือของจริงและอาจชวนงงเล็กน้อย เพราะว่ากฏของการดราฟท์นั่นก็คือการดราฟท์มีด้วยกันเจ็ดรอบ!

อย่างที่บอกไปทีมใน NFL มีด้วยกัน 32 ทีม โดยทั้งเจ็ดรอบจะมีการดราฟท์ทั้งหมด 32 ทีม เรียงลำดับจากอันดับทีมที่ผลงานย่ำแย่ปีที่แล้วจะได้พิคเป็นอันดับที่ 1 ไล่ไปถึงทีมแชมป์จะได้พิคดราฟท์มาเป็นอันดับสุดท้ายนั่นเอง ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นทุกทีมสามารถเทรดตำแหน่งการดราฟท์ด้วยการแจ้งต่อ NFL ซึ่งรายละเอียดในการเทรดจะมีข้อแลกเปลี่ยนที่แตกต่างกันไป เช่นสิทธิ์ดราฟท์ปีหน้า บางทีทีมที่ได้สิทธิ์ดราฟท์ทีมแรกอาจจะเลือกสลับมาเป็นลำดับที่เจ็ดที่แปดก็ว่ากันไป

ด้วยกรณีว่างบเพดานเงินเพราะหากดราฟท์ทีมแรกต้องจ่ายเงินที่สูงเป็นต้นหรือเรื่องตำแหน่งที่ในทีมมีอยู่แล้วอะไรก็ว่ากัน ซึ่งแต่ละครั้งในการพิคดราฟท์ตัวผู้เล่นในหนึ่งรอบมีเวลาทีมละ 10 นาที บางทีบางทีมก็ใช้เวลาหมดอดดราฟท์เป็นต้น ทั้งนี้การดราฟท์ที่พอจะพูดถึงได้จนถึงทุกวันนี้ในช่วงหลังก็คือการดราฟท์สองพี่น้องแมนนิ่ง ซึ่งทำไมต้องดราฟท์ก็เพราะว่า อเมริกันเกมส์ ทั้งหลายทั้งอเมริกันฟุตบอล, บาสเก็ตบอล (NBA), ฮอคกี้ (NHL) และ เมเจอร์ลีกเบสบอล (MLB) ไม่เหมือนกับกีฬาประเภทอื่นเพราะไม่มีระบบที่ว่าคือทีมเยาวชนนั่นเอง

เพราะงั้นวันดราฟท์นี่ถือเป็นวาระแห่งชาติของอเมริกันชนก็ว่าได้ ซึ่งสำหรับคอหนังที่เป็นคอหนังกีฬาที่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอเมริกันเกมส์น่าจะเคยผ่านวันดราฟท์มาไม่มากก็น้อยอย่างเช่นใน JERRY MCGUIRE ที่ในหนังก็มีเล่าเรื่องวันดราฟท์เหมือนกัน หรือใน THE BLIND SIDE ที่ในตอนจบของหนังที่ ไมเคิล ออห์ล โดนดราฟท์โดย บัลติมอร์ เรฟเว่น ในรอบแรกและโดนดราฟท์ในอันดับที่ 23 ในปี 2009 เอาล่ะเข้าเรื่องกันซ่ะทีสำหรับ DRAFT DAY เป็นงานกำกับของ อีวาน ไรต์แมน (ผลงานที่แฟนหนังรุ่นใหม่น่าจะรู้คือเป็นมือเขียนบทของ UP IN THE AIR และพ่อของ เจสัน ไรต์แมน ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ หรือเคยกำกับ GHOSTBUSTER ทั้งสองภาค) และมี เควิน คอสต์เนอร์, เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ และ เดนิส เลียรี่ ในบทนำ

หนังวางเนื้อหาไว้ในปี 2014 นั่นก็คือการดราฟท์ในปี 2014 เพราะงั้นหนังจะใส่อะไรเล่นอะไรก็ได้ (เพราะเหตุการณ์จริงๆ เพิ่งดราฟท์กันไปเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา) หนังจะว่าด้วยเรื่องของผู้จัดการทีม ซอนนี่ วีฟเวอร์ จูเนียร์ (เควิน คอสต์เนอร์) ผู้จัดการทีมของทีม คลิฟแลนด์บราวน์ส ที่ในหนังวางพล็อตดราม่าไว้ว่าพ่อที่เคยเป็นถึงอดีตโค้ชของทีมบราวน์สที่โดนซอนนี่ไล่ออกจากตำแหน่งโค้ชได้เสียชีวิตก่อนวันดราฟท์หนึ่งสัปดาห์เพราะงั้นปัญหาจึงกระหน่ำใส่ซอนนี่แบบเต็มที่ในหนัง บราว์นส ได้สิทธิ์ดราฟท์เป็นลำดับที่เจ็ดแต่เขาได้โอกาศเทรดกับทีม ซีแอทเทิลซีฮอว์คส ทำให้ บราวน์ส จะได้ดราฟท์เป็นลำดับแรก (แต่ต้องเสียสิทธิ์ดราฟท์ลำดับแรกสามปีซ้อนให้กับ ซีฮอว์คส) ซึ่งหลังจากนี้หนังก็จะว่าด้วยเรื่องข้อมูลการดราฟท์เป็นว่าเล่น ที่ถ้าไม่เข้าใจก็คงนั่งงง (แดก) แน่ๆ ถ้าไม่เข้าใจ

ซอนนี่ต้องเลือกระหว่าง โบ คาลลาแฮน (จอช เพนซ์) ควอเตอร์แบ็คหนุ่มอนาคต (ไม่) ไกล (ทั้งที่ บราวน์ส มี ไบรอัน ดรูว์ (ทอม เวลลิ่ง) อยู่ในทีม) กับเป้าหมายในใจของซอนนี่ซึ่งจะเป็นใครก็ตามกันต่อในหนังเอาเอง, ถ้าว่ากันด้วยความเป็นหนังกีฬา (ที่แทบจะไม่มีฉากการแข่งขันมาเกี่ยว) หรือจะเรียกว่าหนังการบริหารทีมกีฬา หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังที่ดูสนุก (โคตรๆ) และบันเทิงเอามากๆ ถึงขนาดในหนังช่วงที่ถึงการดราฟท์นี้ลุ้นระทึกและตื่นเต้นมากๆ ถึงขนาดแทบจะนั่งไม่ติดเบาะเพราะในหนังตัว ซอนนี่ เล่นยกกลยุทธ์อาจจะเรียกได้ว่าเป็นสงครามจิตวิทยามาเล่นกับทุกคนในเรื่องโดยเฉพาะผู้จัดการทีมซีฮอว์คสที่โดนหนักสุด (เรื่องราวในหนังเริ่มที่ซีฮอว์คสและก็จบที่ซีฮอว์คส) เป็นเวลา 20 กว่านาทีที่ตื้นเต้นเอามากครับ

แต่ถ้าถามว่าหนังดีแบบสุดๆ มั้ยเมื่อเทียบกับหนังบริหารทีมกีฬาแนวเดียวกันอย่าง MONEYBALL (เบนเนตต์ มิลเลอร์, 2011) ขอยอมรับว่า DRAFT DAY ไม่อาจจะเทียบได้เพราะนั้นถือว่าสุดๆ ทั้งการนำเสนอเรื่องของกีฬาและแจ่มและเจ๋งมากในเรื่องดราม่า เพราะใน DRAFT DAY อาจจะเจ๋งมากในเรื่องกีฬาแต่ถ้าวัดจริงๆ ก็เป็นรองอยู่เหมือนกันในด้านการเจาะลึกลงไป ส่วนดราม่าในเรื่องถือว่าเป็นรองอยู่หลายขุม หนังเรื่องนี้ความดราม่ามีนิดๆ หน่อยบางทีอยู่ๆ มันจะตลกก็ตลกขึ้นมา แต่ก็ทำให้หนังออกมากลมกล่อมและลงตัวไม่เยอะไปน้อยไป ถ้าวัดปอนด์ต่อปอนด์ MONEYBALL เจ๋งกว่าเยอะ (แต่ถ้าวัดความสนุกเลือกไม่ได้จริงๆ มันโดนทั้งสองแบบ)

ส่วนข้อเสียของหนังนี่ถือเป็นข้อสำคัญของหนังจริงๆ คือการดราฟท์หนังไม่ได้ขยี้ให้มากพอในการที่ซอนนี่เลือกดราฟท์คนๆ นั้นเพราะทั้งเรื่องโยกไปที่ โบ คาลลาแฮน แต่ก็มองออกว่ายังไง ซอนนี่ ไม่เลือกแน่นอนล้านเปอร์เซนต์ ซึ่งถ้าหนังมีทำให้ไขว้เข่วมากกว่านี้จะเซอร์ไพรซ์มาก แต่หนังก็มาพลิกเป็นสุดยอดได้ก็หลังจาก ซอนนี่ โชว์กลยุทธ์ขั้นเมพใส่ทีมที่เหลือ และนี่ถือเป็นจุดสำคัญต่อความสนุกของหนังจริงๆ ครับ

ในส่วนของรายละเอียด DRAFT DAY ผู้กำกับ อีวาน ไรต์แมน พาคนดูไปเจาะลึกในด้านรายละเอียดในการที่เมเนเจอร์สักคนจะเลือกดราฟท์ใครสักคนว่าเขาคนนั้นมีข้อดีและเสียอย่างไร แถมไปเจาะลึกว่าบางทีไอ้สตาฟฟ์ก็ไปเจาะลึกในด้านเรื่องไม่เป็นเรื่องในบางครั้งจนต้องให้เมเนเจอร์โทรไปถามรายละเอียดจากโค้ชทีมมหาลัยหรือต้องรู้จากนักกีฬาคนอื่นแทน นอกจากนี้หนังยังทำให้เห็นว่าถ้าโค้ชไปเทรดมั่วๆ และทำให้แฟนเคืองจะโดนโห่ขนาดไหน (ซีฮอว์คสโดนตลอด) หรือการเล่นเกมส์โหดแบบเขี้ยวลากดินใส่ผู้จัดการหนุ่มแล้วลนลานมันเป็นยังไง ถือว่า ซอนนี่ วีฟเวอร์ จูเนียร์ (เควิน คอสต์เนอร์) ถ้ามีตัวตนจริงๆ ก็ถือเป็นโค้ชที่นิ่งๆ เหมือนแมวแล้วอยู่ก็ลอกคราบเป็นเสือร้ายได้ในทันที

แถมหนังยังพาคนดูไปเที่ยวสถานที่ดราฟท์จริงๆ เพราะหนังไปถ่ายทำที่ "เรดิโอ ซิตี้ มิวสิค ฮอลล์" สถานที่จริงในการดราฟท์จริงๆ, เขียนไปเขียนมาชักจะออกมหาสมุทรก็ขอตัดจบง่ายๆ ละกัน DRAFT DAY คือหนังที่พาคนดูไปเจอและไปรู้ว่าการดราฟท์อันตื่นเต้นมันเป็นไง แม้บางทีจะไม่รู้กฏการดราฟท์ (บางคน) ก็อาจจะสนุกได้ แฟนๆ อเมริกันเกมส์ โดยเฉพาะ NFL ต้องดูครับ -- เควิน คอสต์เนอร์ เล่นดีมากๆ ในเรื่องนี้...