วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555

SNOW WHITE & THE HUNTSMAN


SNOW WHITE & THE HUNTSMAN / สโนว์ไวท์ & พรานป่า ในศึกมหัศจรรย์


(04/06/2012) - 120 BATH

ผู้จัดจำหน่าย : UNIVERSAL PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : UNIVERSAL PICTURES, ROTH FILM
ผู้กำกับ : รูเพิร์ต แซนเดอร์
ประเภทของหนัง : ACTION | ADVENTURE | DRAMA

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอัธรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“สโนว์ไวท์ แบบมืดๆ ดูสนุกๆ ถูสีข้างไปเรื่อย แต่ที่เด่นๆ คงเป็นราชินี ขาย CG โปรดั้คชั่น”


เมื่อต้นปีมีงานสโนว์ไวท์ออกฉายไปแล้ว 1 เรื่องนั้นก็คือ Mirror Mirror สโนว์ไวท์เวอร์ชั่นฮาแตกฉบับทาร์เซม ซิงค์ ที่ถือว่าดูสนุกเอามากๆ แถมตีความสโนว์ไวท์ออกมาได้เลิศมากมาย แถมยังมีสโนว์ไวท์ ที่สวยและน่ารักที่ป็นลูกสาวของ นักร้องชื่อดังฟิล คอลลินส์ อย่าง ลิลี่ คอลลินส์ และยังได้ นักแสดงสาวชื่อดังอย่าง จูเลีย โรเบิร์ต มาเป็นราชินีบานฉ่ำ ที่เป็นงานที่สนุกเซอร์ไพรซ์มากๆ เมื่อต้นปี พอมากลางปีในช่วงที่มีงานเทศกาลหนังฟอร์มยักษ์ฉายชนกันให้เต็มโรง ก็มี สโนว์ไวท์ อีกเวอร์ชั่นหนึ่งที่กล้าเอามาลงโรงฉายในช่วงนี้เหมือนกัน นั้นก็คือ สโนว์ไวท์เวอร์ชั่น หม่น มืด บู๊ ฉบับตีความใหม่รูปแบบแอ๊คชั่น ซึ่งคราวนี้ สโนว์ไวท์ไม่ได้มาแค่คนเดียวแต่ยังพาตัวละคร นายพราน มาเป็นตัวละครนำด้วย ซึ่งสโนว์ไวท์นั้นรับบทโดย คริสเท่น สจวร์ต และนายพรานรับบทโดย เทพเจ้าสายฟ้า คริส เฮมส์เวิร์ธ ซึ่งมาแค่ 2 ตัวละครคงจะไม่ได้ ถ้าขาดราชินีใจร้าย ซึ่งคราวนี้ได้ดารามากฝีมือสวยเป๊ะ อย่าง ชาร์ลิซ เธอรอน มารับบท ราชินีราเวนน่า

ซึ่งใน สโนว์ไวท์ & พรานป่า ในศึกมหัศจรรย์ ก็ยังคงรูปแบบเล่าเรื่องแบบเดิมของสโนว์ไวท์นั้นก็คือเรื่องราวของเจ้าหญิงที่งดงาม นางมีชื่อว่าสโนว์ไวท์ เธอถูกจองจำอยู่ในปราสาทไม่ให้ออกไปใน โดยฝีมือของ ราชินีใจร้าย แม่เลี้ยงของเธอ โดยกลัวว่าวันนึงสโนว์ไวท์จะสวยกว่าเธอ แต่ ในฉบับนี้ สโนว์ไวท์โดนจองจำอยู่ที่คุกบนหอคอยในวัง ซึ่งราชินีนั้นได้รู้ว่าสโนว์ไวท์จะเป็นคนที่มาล้มอาณาจักรของเธอและสวยกว่าเธอ ราชินีจึงสังให้ฟินน์น้องชายของเธอไปจับตัวสโนว์ไวท์เพื่อนำมาฆ่า แต่นางได้ทำการหนีออกไปและได้หนีไปยังป่าทมิฬ ราชินีจึงสั้งให้หาคนที่สามารถเข้าไปยังป่าทมิฬได้นั้นก็คือ นายพราน ที่ได้เข้าไปในป่าเพื่อจับตัวสโนว์ไวท์เพื่อแลกกับการคืนชีพเมียที่ตายไปแล้ว แต่เมื่อนายพรานเจอตัวสโนว์ไวท์แล้วทำให้นายพรานไม่ได้ฆ่าสโนว์ไวท์ แต่ช่วยนาง และทำให้สโนว์ไวท์ได้เจอกับ คนแคระทั้ง 8 และทำให้นางต่อสู้เพื่อโค่นล้มราชินี


เมื่อดูหนังจบ ทำให้เข้าใจได้ว่าการตีความสโนว์ไวท์ในรูปแบบใหม่ โดยไม่ยึดติดรูปแบบเดิมๆ ก็ทำให้หนังออกมาดูสนุกได้อยู่มั่ง? แม้ในช่วงแรกของหนังอาจจะดูเหมือนการ์ตูนสโนว์ไวท์ของ Disney มากไปหน่อยแต่เมื่อหนังทำให้นายพรานกับสโนว์ไวท์ได้เจอกันแค่นั้นแหละ ต่อจากนั้นก็คือการเล่าเรื่องแบบใหม่ที่ตีความออกมาได้อลังการเอามากๆ ซึ่งหนังจะตัดสลับๆไปสลับมาๆ ระหว่างตัวสโนว์ไวท์ & นายพราน & คนแคระ และ ตัวราชินีราเวนน่า ซึ่งจะเป็นการที่ทำออกมาได้ดูดีอยู่เหมือนกัน ถ้าไม่นับตัวละครที่ไม่จำเป็นหลายๆ ตัวๆ แถมการเล่าเรื่องที่ดูแฟรี่เทล มีสัตว์มีภูติ เป็นงานหนังนิทานรูปแบบใหม่ที่เป็นการเล่าเรื่องในรูปแบบที่ดีแต่ตรงนี้กลับทำออกมารู้สึกขัดๆ

แต่การกระทำของตัวละครนั้นถูสีข้างไปได้เรื่อยๆ ทั้งตัวสโนว์ไวท์เองหรือตัวราชินีก็ตามที พยายามไปจนหนังจบได้ แถมในช่วงท้ายของทุกอย่างในหนังดูเป็นใจทุกอย่างดูง่ายไปหมด โดยเฉพาะตอนสู้กับราชินี ในความง่ายดายนั้นเองคือส่วนไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใส่มาก็ได้หนังจะเสียเปล่าๆ ถ้าหากมีอะไรที่มันลำบากๆ มากกว่านี้งานจะดูดีขึ้น แต่งานที่ทำออกมาก็ดูสนุกแบบเพลินๆ ถ้าไม่ไปดูตรงส่วนเนื้อเรื่อง แต่หนังก็จะไม่มีอะไรน่าจดจำเท่าไร และในความคิดผมฉากแอ๊คชั่นที่ดีที่สุดคือตอนที่นายพรานกับสโนว์ไวท์ สู้กับโทรลล์ ไม่ใช่ฉากทำสงคราม


แต่ข้อเสียของหนังเลย น่าจะเป็นการที่หนังยาวเกินไปและยาวเกินความจำเป็น ซึ่งหนังมั่วไปเสียเวลากับฉากในป่าซะเยอะ กว่าจะกลับมาสู่เนื้อเรื่องโค่นล่มราชีนีได้ก็ปาไปเกือบชั่วโมงนิดๆ แล้ว แต่กลายเป็นว่าการเล่าเรื่องที่นานและอยู่ในป่าก็ไปมีส่วนช่วยเพิ่มงานโชว์ CG ที่ทำออกได้สุดยอดเอามากๆ ซึ่งในส่วนตรงนี้ต้องขอชมความเก่งของผู้กำกับ รูเพิร์ต แซนเดอร์ ที่ไม่เคยกำกับงานหนังมาเลยซักชิ้น แต่สำหรับงานแรกก็ขอชมเลยว่าทำออกมาได้ดีมากๆ ซึ่งทั้งการตัดต่อที่ฉับไว หรือ CG ต่างๆ หรือการใส่เพลงประกอบลงไปในส่วนที่ถูกจังหวะ จะเสียตรงการเล่าเรื่องเท่านั้นที่ยังไม่อาจเรียกได้ว่าสุดยอดแต่แค่นี้ก็ดีแล้วครับ สำหรับการกำกับหนังครั้งแรก

ตัวละครของสโนว์ไวท์ สิ่งที่ยังความเป็นสโนว์ไวท์เอาไว้ก็คือความใสบริสุทธิ์ไร้เดียงสาต่อโลก แต่ในเวอร์ชั่นนี้ไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนอย่างงานสโนว์ไวท์ของ Disney หรือแบบ Miror Mirror แต่เป็นสโนว์ไวท์ในรูปแบบหญิงสาวสมัยใหม่ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เมื่อถึงคราวจำเป็นก็หยิบดาบขึ้นมาต่อสู้ได้ โดยยังคงคาแร็คเตอร์เดิมของสโนว์ไวท์ แต่สำหรับข้อเสียที่ทำให้สโนว์ไวท์ดูไม่เป็นสโนว์ไวท์ก็คือคนที่รับบท นั้นก็คือ คริสเทน สจ๊วร์ต การที่ทำหน้าไร้อารมณ์แบบเบลล่าตลอดเวลานั้นเอง


ส่วนนายพราน นั้นเปรียบเทียบก็คือการเป็นยอดนักรับ มีความทะนงตนสูง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่นัก เหมือนกับคาแร็คเตอร์ของธอร์ ที่ผู้รับบทเป็นคนเดียวกันนั้นคือ คริส เฮมส์เวิร์ธ ไม่เข้าใจว่าผู้สร้างสร้างตัวละครตัวนี้หลังจากได้ดูธอร์หรือเปล่า (หนังถ่ายทำหลังธอร์ออกฉาย), ส่วนที่โดดเด่นและน่าจดจำมากที่สุดในเรื่องโดยไม่มีข้อโต้แย้งก็คือ ราชินีราเวนน่า ที่คงความร้ายกายไว้อย่างสุดยอดไม่ไปเฮฮาแบบ Mirror Mirror มีความโหดร้าย มีความน่ากลัว ซึ่งคนที่รับบทนั้นก็คือ ชาร์ลิซ เธอรอน ที่บทนี้เหมือนกับสร้างเพื่อมารอเธอเท่านั้น ทั้งสีหน้าหรือท่าทางหรือการใส่อารมณ์จะไม่เรียกว่าบทรอเธอได้อย่างไร แต่หนังสโนว์ไวท์จะเป็นสโนว์ไวท์ไม่ได้ ถ้าไม่มี

คนแคระทั้ง 7 (ในเรื่องนี้มี 8 คน สาเหตึเพราะตาบอดคนนึงจึงต้องนำลูกชายมานำทางให้ จึงนับ 8 คน) ที่ทั้ง 8 รับบทโดยดาราดังทั้งนั้นและไม่ได้ตัวแคระมาแต่เกิดเป็นคนปกติที่ในหนังใช้ CG ช่วย (ซึ่งถ้านึกไม่ออกให้นึกถึง Captain America ไว้) โดยในหนังนนั้นคนแคระกว่าจะมีบทบาทก็ปาไปเกินครึ่งเรื่องแต่การปราฏฏตัวก็มีความสำคัญต่อหนังเป็นอย่างมาก ซึ่งถือว่าคนแคระในหนังเป็นอะไรที่น่าจดจำมาก และสิ่งที่ช่วยยกรัะดับหนังมากขึ้นก็คือคอสตูม ซึ่งในหนังทำออกมาได้สวยงาม โดยเฉพาะของตัวราชินีที่ทำออกโด้เลิศเล่อเพอร์เฟกต์เอามากๆ แต่คอสตูมจะเด่นได้ก็ต้องอยู่ในโปรดัคชั้นที่ดี ดังนั้นเมื่อชุดนั้นไปอยู่ในฉากต่างๆ ที่ดูอลังการ และงดงาม จึงเป็นกลายยกระดับชุดและโปรดัคชั่นให้ดูสวยงามนั้นเอง


สโนว์ไวท์ & พรานป่า ฉบับหนัง VS สโนว์ไวท์ & พรานป่า ฉบับนิยาย
เมื่อผมดูหนังจบผมได้ไปร้านหนังสือและบังเอิญไปเห็นหนังสือนิยายของ สโนว์ไวท์ & พรานป่า ในศึกมหัศจรรย์ ที่ทำมาจากบทภาพยนตร์ครับ เลยลองซื้อมาอ่านในราคา 155 บาท ซึ่งเมื่ออ่านจบแล้วเข้าใจแล้วว่าทำไม่หนังถึงมีฉากยกพลไปสู้กับราชินีช้ามากเพราะในหนังสือกว่าจะยกพลไปสู้หนังสือ 20 หน้าสุดท้าย แถมสู้กลับราชินีใช้เวลาเพียง 3 หน้าเท่านั้นเอง แต่ในหนังมีสิ่งที่ไม่ได้บอกเล่าแต่ในฉบับหนังสือมีบอกเล่าคือฉากตอนที่นายพรานได้เจอกับวิญญาณของภรรยาเก่านั้นก็คือซ่าราห์นั้นเอง และการที่นายพรานรู้การเป็นเจ้าหญิงของสโนว์ไวท์ตั้งแต่อยู่ในป่าแล้ว แต่สิ่งที่ดีที่สุดของหนังสือก็คือการที่เราจะได้รู้ชื่อนายพราน ชื่อของนายพราน คือ "เอริค"

สรุป
สโนว์ไวท์ & พรานป่า ในศึกมหัศจรรย์ เป็นงานที่เพลินๆ แต่ไม่มีอะไรน่าจดจำไปมากกว่าฉากโปรดัคชั่น ขาย CG และโชว์คความเก่งของ รูเพิร์ต แซนเดอร์ ผู้กำกับของหนัง และ ที่น่าจดจำที่สุดคือความร้ายกาจของ ราชินีราเวนน่า ที่เป็นหมือนบทที่เกิดมาเพื่อรอ ชาร์ลิซ เธอรอน เท่านั้นเลย


ความยาวทั้งหมด 127 นาที
คะแนน 7.5/10
------------------------------------------------------------------
ใครที่ชอบอัพเดทข่าวสารวงการหนังขออนุญาติฝากแฟนเพจ KURENAI MOVIE ไว้ด้วยนะครับ มาอัพเดทข่าวสาร หรือ พูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์ แบบมีสาระบ้างไม่มีสาระบ้าง อัพเดทแบบไม่ให้ตกข่าวกันเลยครับ อย่าลืมมากด Like กันนะครับ

1 ความคิดเห็น:

Powered By Blogger