วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2555

DR. SEUSS' THE LORAX



DR. SEUSS' THE LORAX / คุณปู่โรแล็กซ์ มหัศจรรย์ป่าสีรุ้ง


(26/03/2012) - 80 BATH

ผู้จัดจำหน่าย : UNIVERSAL PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : ILLUMINATION ENTERTAINMENT
ผู้กำกับ : คริส เรไนด์ (DESPICABLE ME) & ไคล์ บัลด้า
ประเภทของหนัง : ANIMATION | FAMILY | FANTASY

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอัธรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“ถ้าไม่” 
มีคนอย่างคุณที่ช่วยดูแลโลกอย่างจริงจังแล้ว โลกจะสดใสสวยงามอย่างที่มันควรจะเป็น


ผลงานลำดับที่ 3 ของค่ายอนิเมชั่น Illumination Entertainment ที่คราวนี้ขอเอานิทานสอนเด็กของ Dr. Seuss เรื่อง The Lorax มาขึ้นจอภาพยนตร์กับเขาซะหน่อย, The Lorax เคยสร้างปรากฏการณ์มาแล้วครั้งนึงเมื่อครั้งที่ John Carter เข้าฉายที่สามารภเอาชนะ John Carter ได้ทั้งที่เข้าฉายมาก่อนแล้ว เพราะเหตุใด เพราะอะไร ทำไม The Lorax ถึงเข้าไปยึดจิตใจคนดูได้ Review นี้มีคำตอบครับ...


Dr. Seuss' The Lorax เรื่องราวต่างเกิดขึ้นที่เมืองๆนึงที่มีชื่อว่า Thneedville (นีดวิลล์) เมืองที่ปราศจากสิ่งที่เรียกว่า "ต้นไม้" เพราะเมืองทั้งเมืองมีแต่พลาสติค แต่แล้ว เด็กหนุ่มคนนึงทีมีชื่อว่า "เท็ด" ที่แอบชอบหลงรักเด็กสาวที่ชื่อ "ออร์ดรีย์" ออร์ดรีย์มีความฝันว่า อยากที่จะเห็น "ต้นไม้จริงๆ" ซักต้น เท็ดอยากที่จะเอาชนะใจหญิงสาวทำให้ เท็ดต้องออกตามหา "เดอะ วันซ์-เลอร์" ชายที่มีต้นทรัฟฟูลาต้นสุดท้าย ซึ่ง วันซ์-เลอร์ คนนี้นี่เองที่มีความลับของการหายไปของต้นไม้ทั้งหมด เพราะการไปปลุกชีพของ "เดอะ โรแล็กซ์"


The Lorax อาจจะไม่ใช่หนังที่มีอะไรโดดเด่นมากหนักและมีจุดด้อยของความสัมพันธ์ของบรรดาตัวละครทั้งหลายหากที่จะไปเปรียบเทียบกับผลงานก่อนหน้าของค่ายอย่าง Despicable Me ที่โดดเด่นในทุกๆด้าน แต่ The Lorax มีจุดเด่นคือ ภาพในหนังก็ดูสดใสมากๆ และตลกมากๆและ The Lorax มีจุดเด่นที่สุดสิ่งที่แปะหน้าชื่อหนังอย่าง Dr. Seuss แปะหน้าเอาไว้ และชื่อ Dr.Seuss มีคุณค่าต่อเด็กแทบทุกคนทั่วโลก และหนังก็เอาคุณค่าของ Dr. Seuss มาบอกเล่าให้เด็กๆ ผ่านความสนุกสนานของหนังและทำให้หนังมีสิ่งสอนใจเด็กๆ ที่จะเติบโตมาในอนาคตนั้นก็คือการ "รักษาโลกและช่วยดูแลโลก"


หนังดูสนุกสนานและเรียกเสียงฮาปนความน่ารักของสัตว์เพื่อเอาใจคุณหนูทั้งหลายและที่สำคัญผู้ใหญ่ก็ดูหนังเรื่องนี้สนุกอย่างมากๆ, ความซึ้งในช่วงท้ายๆของหนังอาจจะไม่ได้ดีจนเรียกน้ำตาได้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มไปกับฉากๆ นั้น, และจุดเด่นอีกอย่างของค่ายนี้เมือเทียบกับหนัง 2 เรื่องก่อนอย่าง Despicable Me และ Hop นั้นก็คือการสร้างตัวละครสัตว์หรือมาสค๊อตของหนังขึ้นมาเพื่อขโมยซีนอย่าง DP ก็คือพวก The Minions ตัวสีเหลือง หรืออย่างใน Hop ก็ พวกลูกไก่ เพราะอย่างนั้น The Lorax จึงมีพวก สัตว์ในป่าเช่น หมี, ปลา มาเป็นตัวชูโรงและเรียกเสียงฉาได้อย่างสนุกสนานมากๆ เพลงประกอบในหนังก็เพราะ และมีการล้อเลียนหนังอย่าง Mission Impossible ด้วยนะ


จริงๆ ตัวหนังสือของ The Lorax ไม่ได้ยาวอะไรมากหนัก แต่ทีมงานเอามาขยายความให้กว้างขึ้นเท่านั้น ที่จะตรงกับในหนังสือหน่อยก็เป็นฉากในอดีตเรื่องราวของ เดอะ วันซ์-เลอร์ กับ โรแลกซ์ และ ตอนที่เท็ดไปขอทรัฟฟูลาเท่านั้นเองครับ ซึ่งขอชมทีมงานในส่วนตรงนี่ที่สามารถขยายความหนังให้ยาวและออกมาสนุกได้อย่างเหลือเชื่อ


ปล. เสียงไทยของหนังไม่ได้ขัดหู แถมพากย์ดีเอามากๆ ด้วยถ้าจะไปชมก็ไม่ต้องกังวลเลย ตีตั๋วไปเลยครับ

สรุป
DR. SEUSS' THE LORAX คืิอหนังที่สร้างความสนุกสนานและสร้างความบันเทิงเป็นอย่างมากและยังสอนใหเด็กๆให้รู้จักกับคำว่า "รักต้นไม้รักโลกรักสิ่งแวดล้อม" เพราะฉะนั้น  DR. SEUSS' THE LORAX จึงเป็นหนังที่ควรดูและควรที่จะพาลูกๆ หลานๆ เด็กๆ ไปดูจริงๆ ครับ


"Unless someone like you cares a whole awful lot, nothing is going to get better. It's not.
ถ้าไม่มีคนอย่างคุณที่จะใส่ใจอะไรสักอย่าง, มันคงไม่มีทางที่มันจะดีขึ้น ไม่มีเลย # Dr. Seuss"

ความยาวทั้งหมด 86 นาที
คะแนน 8/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger