JOHN CARTER / นักรบสงครามข้ามจักรวาล
(07/03/2012) - 190 BATH
ผู้จัดจำหน่าย : WALT DISNEY STUDIOS MOTION PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : WALT DISNEY PICTURES
ผู้กำกับ : แอนดรูว์ สแตนตัน (FINDING NEMO, WALL-E)
ประเภทของหนัง : ACTION | ADVENTURE | FANTASY
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอัธรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
“อุทิศแด่ สตีฟ จ๊อบส์ บุคคลที่สร้างความฝันให้แก่เรา,
Avatar + Star Wars + Prince of Persia = John Carter”
JOHN CARTER OF MARS หรือ A PRINCESS OF MARS คือ 1 ในนิยายชุด BARSOOM (บาร์ซูม) ซี่รีส์ความยาว 11 เล่ม ที่เอาผลงานของผู้แต่ง TARZAN นั้นก็คือ "เอ็ดการ์ ไรท์ เบอร์โรห์" มาสร้างเป็นภาพยนตร์โดย WALT DISNEY โดยผลงานกำกับของ แอนดรูว์ สแตนตัน จาก WALL-E ที่งานนี้ขนทีมงาน PIXAR มาเป็นทีมงานหลักของหนังเลย ที่คราวนี้เราจะได้รู้เลยละว่า เมื่อ PIXAR มาทำหนังคนแสดงจะแล้วจะเป็นยังไงกัน...
วันหนึ่งเด็กหนุ่มคนนึงมีชื่อว่า "เอ็ดการ์ ไรท์ เบอร์โรห์" ได้รับมรดกจากลุงของเขาที่ชื่อว่า จอห์น คาร์เตอร์ ซึ่ง จอห์น คาร์เตอร์ ก็คืออดีต นายทหารม้าหนุ่มที่ถูกปลดประจำการจากกองทัพ และเขาได้ออกตามหาถ้ำทองคำ เพื่อความอยากเป็นเศรษฐีของเขาและทำให้เขา ได้ทำให้เขาได้พลัดหลงไปถึง ดาวบาร์ซูม (ดาวอังคาร) ซึ่งทำให้ จอห์น คาร์เตอร์ ได้เจอกับกลุ่มตัวประหลาดนามว่าธาร์ท ต้องพบเจอกับสงครามระหว่าง โซแดงก้า และ ฮีเลียม 2 กลุ่มทำให้เขาต้องไปมีส่วนร่วมกับสงคราม และ เขาคือบุรุษที่จะยุติสงครามครั้งนี้ได้เพียงหนึ่งเดียว
John Carter เป็นงานแฟนตาซีที่เอฟเฟกต์นั้นอยู่ในระดับเดียวกันกับ Avatar แต่ก็นับได้แค่เอฟเฟกต์เท่านั้น เพราะถ้านับในการนำเสนอ John Carter ก็เป็นงานที่นำเสนอได้ชวนมึนหัวเป็นอย่างมาก เพราะตัวหนังดำเนินเรื่องได้แบบไม่ค่อยสนใจคนดูได้เท่าไร ชวนงงได้ตลอดเวลาในช่วง ทั้งสงครามระหว่างเผ่า ทั้งการอธิบายระบบดวงดาว ความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆ นา ในครึ่งแรกของเรื่อง และพอเข้าสู่ครึ่งหลัง หนังก็เข้าสู่ฉากแอ๊คชั่นขายเอฟเฟกต์ตระการตา ตื่นตาตื่นใจในระดับที่ใช้ได้ดีที่เดียว, ตัวหนังยังทำให้ชวนนึกถึง Star Wars Ep I ผสมกับ Prince of Persia ในระดับนึงเลยทีเดียว เพราะ John Carter ก็มีอารมณ์ของหนังอย่าง Star Wars อยู่เยอะเหมือนกัน ทั้ง ชาวต่างดาว เครื่องกลต่างๆ และฉากสู้กัน และที่สำคัญ การนำเสนอที่ชวนมึนอยู่ในแต่ถึงการนำเสนอชวนมึนแต่มีก็ยังมีอารมณ์ของ Prince of Persia ทั้งมุกตลก มุมกล้องต่างๆ และที่สำคัญ ทะเลทราย! และ โรแมนติก ความรักของตัวละครที่ดูน้ำเน่ายังไงไม่รู้ ในความรักของ ตัว คาร์เตอร์ และ เจ้าหญิง, แต่ตัวหนังก็ยังคงคำว่า Disney ไว้ในการที่ไม่มีพิษไม่มีภัยอะไรกับคนดูทั้งเด็กและผู้ใหญ่
นักแสดงหนุ่ม เทย์เลอร์ เคริทช์ (หลังจากเคยรับบท แกมบิท ใน X-Men Origins: Wolverine) ที่มารับบท จอห์น คาร์เตอร์ มาแสดงและโชว์ ซิ๊กแพ็ค ได้ดูดีที่เดียวในบทของทหารหนุ่มที่พลัดหลงไปอีกดาว ไม่เหมือนกับตัวนางเอกของเรื่องอย่าง ลินน์ คอลลินส์ ที่เล่นแล้วกลับโดนบรรดาตัวละครอื่นๆ ขโมยซีนไปหมด ทั้ง ตัวละครชาวธาร์ท หรืออย่าง วูลา หมาต่างดาว ซะงั้น
แอนดรูว์ สแตนตัน ผู้กำกับอนิเมชั่นที่กระโดดมากำกับหนังคนแสดงอย่าง John Carter ให้เป็นหนังที่ยังคงอารมณ์ของหนังที่ยังมีอารมณ์สไตล์หนังของ Pixar อยู่เยอะทีเดียวทั้งมุกตลกของตัวละคร มุมมอง ฉากต่างๆ เหมือนนั่งดู อนิเมชั่น เวอร์ชั่น คนแสดงจริงยังไงยังงั้นเลย อาจจะไม่ดีเท่า แบรด เบิร์ดที่กระโดดไปกำกับ MI4 แต่ต้องยอมรับในตัวของ แอนดรูว์ สแตนตัน ที่สามารถจินตนาการของหนังสือและความเป็นแฟนหนังสือของตนเองให้โอเวอร์ได้อย่างคุ้มค่าเงินที่ลงทุนไปของ Disney (ตกลงงบประมาณอยู่ที่ 170 ล้าน หรือ 250 ล้านก็ไมรู้แน่) เอฟเฟกต์อลังการงานสร้าง มุมกล้องใช้ได้ดีที่เดียว แต่ทำไมก็ไม่รู้ 3มิติ กลับไม่ดีเท่าที่ควร ดูไม่เหมือนหนัง 3มิติทั้งๆ ที่ใส่แว่น 3มิติอยู่เลย ทำให้ดูเหมือนว่าดูโรงปกติหรือโรง 3มิติ คงไม่ต่างกันเท่าไร
สรุป
JOHN CARTER OF MARS ก็คือหนังที่ยังคงความเป็น DISNEY ไว้ทั้งหมด ไม่มีพิษไม่มีภัย เป็นหนังแฟนตาซีผจญภัยดูสนุกระดับนึง แม้ว่าตัวหนังอาจจะนำเสนอได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่เอฟเฟกต์ฉากแอ๊คชั่นต่างๆ และความสวยงามภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทีเดียว แม้จะไม่ 3มิติเท่าไรเลย ตัวหนังสนุกพอใช้ หนังเหมาะไว้ดูเพลินๆ ให้ความบันเทิง ไม่เสียหายอะไร
ความยาวทั้งหมด 132 นาที
คะแนน 8/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น