วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

NEED FOR SPEED


NEED FOR SPEED / ซิ่งเต็มสปีดแค้น


ผู้จัดจำหน่าย : WALT DISNEY STUDIOS MOTION PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : DREAMWORKS SKG, RELIANCE ENTERTAINMENT, ELECTRONIC ARTS
ผู้กำกับ : สก็อตต์ วอห์น (ACT OF VALOR)
ประเภทของหนัง : ACTION | CRIME | DRAMA

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“0-230 งานรถซิ่งที่จะซิ่งก็ถึงใจแต่พอจะเล่าเรื่องดันล้อแตก!”


ข้อสำคัญข้อแรกที่ผู้จัดจำหน่ายในบ้านเราดูจะลืมไปก็คือการลืมแจกจอยสติ๊กหรือคีย์บอร์ดให้คนดูก่อนที่จะดูหนัง แล้วเอาไปบังคับรถในโรงหนังกัน เพราะตัวเองตัวหนังก็เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากเกมส์แข่งรถชื่อดังอย่าง NEED FOR SPEED ของ อีเล็คโทรนิค อาร์ท ซึ่งตัวหนังเองก็จัดว่าตอบโจทย์คนที่เคยเล่นเกมส์นี้มาก่อนหรือคนที่คิดว่าการซิ่งเป็นศิลปะแต่ซิ่งแบบได้อารมณ์คือศิลปะชั้นสูงเหมือนอย่างที่ตัวละครของ ไมเคิล คีตัน พูดไว้ในหนัง ได้อย่างลงตัว

ข้อสำคัญข้อที่สองหลายคนมองว่านี่เป็นหนังที่ดูจะเดินตามเส้นทางของแฟรนไชส์ซิ่งรถชื่อดังอย่าง FAST & FURIOUS แต่เท่าๆ ที่ดูทั้งหมดหนังดูจะเป็นคนละขั่วกับซีรี่ย์ฟาสท์ก็ว่าได้ อย่างแรกหนังเน้นไปที่เรื่องซิ่งแข่งกันเป็นสำคัญ มีเรื่องความแค้นมาเกี่ยวบ้าง มีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของตัวละคร แต่โดยรวมถือเป็นหนังที่ไม่ค่อยเหมือนซีรี่ย์ตระกูลฟาสท์มากเท่าไร แค่ธีมหนังและหน้าหนังดูจะแอบคล้ายๆ กันเท่านั้น (มั้งน่ะ) 


ข้อสำคัญข้อที่สาม NEED FOR SPEED เป็นหนังที่เน้นความสมจริงของการซิ่งเป็นหลักเหมือนวัดหลักฟิสิกส์ในการถ่ายทำตลอดเวลา รถเหยียบสูงสุดได้เท่าไร ตีโค้งได้เท่าไร สามารถพุ่งทะยานได้ไกลเท่าไหร โดนชนด้วยความเร็วเท่านั้นเท่านี้หนังรถจะกลิ้งกี่ตลบ จะระเบิดในกี่นาที นอกจากนี้หนังยังบังเอิญถ่ายทำด้วยของจริงตอนซิ่ง ด้วยหลักฟิสิกส์ที่หนังวัดมาอย่างดี รถโดนชนมันก็เลยดูจริงจังสมจริงทั้งหมด

แต่นั้นมันก็สวนทางกับหลักสำคัญข้อที่สี่ ถึงหนังจะวัดทุกอย่างออกมาได้อย่างดี แต่ความสมจริงในการเล่าเรื่อง มันดูจะกระโดดไปกระโดดมา เหมือนรีบพยายามไปให้ถึงฉากซิ่งเหมือนรถที่กำลังจะเหยียบจาก 0-200 แต่กลายเป็นว่าพอเหยียบได้เกิน 100 สปีดกับตกเหมือนน้ำมันหมดและก็ต้องมาเติมน้ำมันเป็นช่วงๆ เพราะมุกตลกที่บางทีไม่จำเป็น (มุกตลกน่ะโอเค แต่มันมาในช่วงที่ไม่จำเป็น) แต่ก็นับว่าโชคดีที่หนังได้นักแสดงอย่าง อารอน พอล กับเคมีของ อิโมเจน พุตต์ ที่ช่วยหนังไว้ และเสริมให้หนังไปรอดได้ความสวยของ ดาโกต้า จอห์นสัน และมาดนิ่งๆ ของ โดมินิค คูเปอร์ ที่เด่นมากมาแทรกเป็นระยะๆ


ข้อสำคัญที่ห้า แม้บทมันจะเดินเรื่องแบบขาดช่วงอยู่ตลอดเวลาแต่ก็นับว่าฉากซิ่งในหนังจัดได้เต็มมาก แถมเน้นเรื่องระบบเสียงเครื่องยนต์ได้แบบสุดติ่งมาก ยิ่งได้ฟังในระบบ IMAX ไม่อยากพูดหนังทำออกมาได้สะใจมาก ส่วนระบบ 3มิติไม่ได้รู้สึกว่าโอเคเท่าไรไม่ช่วยหนังมากนัก สรุปแล้ว NEED FOR SPEED เป็นหนังที่เหมาะสำหรับคนที่ต้อง NEED SPEED แต่ดูจะไม่เหมาะกับคนที่ NEED STORY เท่าไรน่ะว่ามั้ย!...


ความยาวทั้งหมด 132 นาที
คะแนน 7.5/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger