วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557

THE PURGE: ANARCHY


THE PURGE: ANARCHY / คืนอำมหิต: คืนล่าฆ่าไม่ผิด


ผู้จัดจำหน่าย : UNIVERSAL PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : BLUMHOUSE PRODUCTIONS, PLATINUM DUNES
ผู้กำกับ : เจมส์ เดโมนาโก (STATEN ISLAND, THE PURGE)
ประเภทของหนัง : HORROR | SCI-FI | THRILLER

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“ยินดีสู่ต้อนรับสู่คืนล้างบาปครั้งที่สอง!”


..เทศกาลล้างบาปกลับมาเป็นครั้งที่สองบนจอภาพยนตร์หลัง THE PURGE กลายเป็นหนังฮิตเซอร์ไพรซ์ในปีที่แล้ว ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ เลยอนุมัติเดินเครื่องภาคต่ออย่างรวดเร็ว! โดยยังคงไว้ใจ เจมส์ เดโมนาโก ให้กลับมาสานต่อคืนล้างบาปอีกครั้งใน THE PURGE: ANARCHY ที่ครั้งนี้คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นคืนล้างบาปบนจอภาพยนตร์อย่างแน่นอน!! หนังเปลี่ยนนักแสดงยกชุดครับโดยได้ แฟรงค์ กริลโล่ มารับบทนำในภาคนี้ สมทบด้วยนักแสดงกลุ่มใหม่ๆ อีกนับไม่ถ้วน! โดยในภาคนี้หนังยกระดับไปไกลกว่าภาคแรกที่ลุยกันอยู่แค่ในบ้านครับ เพราะภาคนี้ไปไกลเล่นในพื้นที่เปิดในเมืองมากขึ้นเราเลยได้เห็นอะไรใหม่ๆ มากขึ้น..

..หนังยาว 103 นาที สรุปยาวกว่าภาคแรกประมาณ 18 นาที แต่พูดได้ว่าถึงแม้จะยาวมากขึ้นและมีอะไรให้เล่นมากขึ้นทั้งพื้นที่และก็ตัวละคร แต่หนังกลับทำสู้ภาคแรกไม่ได้ ... 10 นาทีแรกของหนังถือเป็นการอินโทรดิวซ์ตัวละครนำทั้งห้าในภาคนี้ได้แก่ ชายปริศนา (แฟรงค์ กริลโล่) ที่เตรียมออกไปล้างแค้นในคืนล้างบาป, อีวา (คาร์เมน อีโจโก้) และ คานี (โซอี้ โซล) สองแม่ลูกดวงแตก และ เชน (แซค กิลฟอร์ด) และ ลิซ (คีเล ซานเชส) สองคู่รักที่ดวงซวยไม่ต่างกับคู่แม่ลูก ... โอเค 10 นาทีแรกนี่ถือเป็นการแนะนำตัว ไอ้เราก็คิดว่า 'แม่มเอ้ย! ระทึกและลุ้นอย่างแน่นอน ตัวละครมาเยอะแถมดวงซวยขนาดนี้ เตรียมมันส์อย่างเดียว' ผลปรากฏว่าอีกกว่า 60 นาทีต่อมาพูดได้เต็มปากว่า "น่าเบื่อ" !..


..เดี๋ยวหนีเดี๋ยวซ่อนอยู่นั้นแหละ จะระทึกก็ไม่ระทึก จะสนุกก็ไม่เชิง จะเบื่อจนจะหลับก็ไม่ใช่ มันนิ่งๆ จนง่วงแค่นั้นเป็นหนึ่งชั่วโมงที่เซ็งมากๆ ที่ทำให้หนังเป็นอย่างนี้คงเพราะหนังขาดตัวร้ายหรือตัวละครหรือกลุ่มวายร้ายที่ดูชวนคุกคามชีวิตได้อย่างเช่นใน THE PURGE ภาคแรกถ้าจำกันได้มันจะมีไอ้กลุ่มใส่หน้ากากที่มาเคาะประตูกดดันตัวละครของ อีธาน ฮอว์ค ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันในบ้านก็มีไอ้ใครที่ไหนมาเป็นภาระหรือบางทีมาเป็นปัญหาอีก ในภาค ANARCHY นี้ขาดตัวละครกลุ่มนี้ครับ กลุ่มวายร้ายภาคนี้ พูดได้เลยว่า ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ทำได้แค่วิ่งไปวิ่งมาไล่ยิงไล่ฆ่า หรือไม่ก็ไล่จับคนอยู่นั้นแหละ ดูแล้วเหนื่อย แต่ก็น่ะ ทำไปทำมาเหมือนหนังจะเข้าใจอะไรขึ้นพลิกกลายเป็นหน้ามือเป็นหลังเท้าซะงั้น..

..เพราะกับอีกประมาณ 25 นาทีที่เหลือนี้หนังกลับมามันส์ไม่น่าเชื่อครับ! แม่มยิงกันเละเทะเลย โอเคกลายเป็นหนังกลับมาฉุดตัวเองขึ้นจากหลุมที่ฝั่งไว้ลึกขึ้นมาได้ซ่ะงั้น จากนี้ไม่ขอพูดอะไรเชิญตามต่อกันเอง ... สำหรับ THE PURGE ภาคแรกนั้น ถ้านับหรือพูดกันตรงๆ ถือเป็นหนังที่เล่นอะไรน้อยได้เยอะ เพียงหนังเรื่องเดียวกลับทำได้สมบูรณ์แบบทั้งการนำเสนอหรือลูกเล่น โดยเฉพาะเมื่อหนังสามารถกดดันทั้งตัวละครและคนดูได้ สร้างความกดดันเป็นชุดๆ ตื้นเต้นและสะใจได้ด้วยซ้ำ หนังไปไกลถึงขั้นวิพากย์วิจารณ์สังคมได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งในภาค ANARCHY ก็ได้มรดกจากภาคแรกมา แต่ท้ายที่สุดหนังกลับทำได้แค่เป็นงานที่อาศัยความดีงามของภาคแรกเท่านั้นล่ะ..



..ความรู้สึกที่ภาคนี้ทำได้เหนือกว่าภาคแรกมันจะเป็นอะไรอื่นไม่ได้ซ่ะจากการทำให้เห็นพื้นที่ต่างๆ ในคืนล้างบาปมากกว่าภาคแรกที่กระจุกอยู่แค่ในบ้านเท่านั้น ผ่านตัวละครดวงซวยทั้งหลายนั่นเองครับ...


ความยาวทั้งหมด 103 นาที
คะแนน 7/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger